ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมภาคใต้ เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ภายใต้การแข่งขันสูงและการเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจโลก
วันนี้ (7 ก.ค.) ณ โรงแรมบี.พี.แกรนด์ทาวเวอร์ หาดใหญ่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมภาคใต้ (Innovation Coupon for SMEs : ICP) โดยมีนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต เป็นประธานคณะกรรมการโครงการคูปองนวัตกรรม, กล่าวต้อนรับโดยนายทวี ปิยะพัฒนา ประธานที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมภาคใต้, นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เป็นต้น ท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรเอกชน นักวิชาการจากสถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ และหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม เพื่อร่วมกันสร้างระบบการพัฒนาโครงการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการไทยให้นำแนวคิดมาปรับใช้กับองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ จนเกิดการเชื่อมโยงการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมออกสู่เชิงพานิชย์มากยิ่งขึ้น
นายสุชาติ วิสุวรรณ รองประธานอาวุโส สภาอุตสาหกรรมจังหวัด กล่าวว่า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่ประสบวิกฤตต่างๆ แล้ว ขณะเดียวกันยังมีการแข่งขันสูง การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมจึงมีบทบาทสำคัญเพื่อมาผลักดันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อดำเนินโครงการจำนวน 100 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการจะต้องเป็นคนคิดโครงการ และ ส.อ.ท. ร่วมกับ สนช.จะช่วยการสนับสนุนความช่วยเหลือ
สำหรับรูปแบบการสนับสนุนโครงการนั้นประกอบด้วย 1.เงินให้เปล่า 2.ค่าใช้จ่ายดำเนินการ ทั้งค่าวัสดุ ค่าที่ปรึกษา 3.รัฐให้การสนับสนุนโรงการ 90% ของงบประมาณโครงการที่ได้รับการอนุมัติ ส่วนอีก 10% ผู้ประกอบการนำเงินสดมาสมทบเพื่อมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน
4.ให้การสนับสนุนทั้งที่เป็นสินค้า กระบวนการ วัสดุใหม่ ช่องทางการตลาดใหม่ รูปแบบธุรกิจใหม่ 5.รูปแบบการสนับสนุนมี 2 ประเภท คือ การศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจของแนวคิดนวัตกรรม สนับสนุน 90% แต่ไม่เกิน 100,000 บาทของงบประมาณโครงการที่ได้รับการอนุมัติต่อหนึ่งโครงการ และการทำต้นแบบที่มีความเป็นไปได้ในทางธุรกิจสนับสนุน 90% แต่ไม่เกิน 400,000 บาทของงบประมาณโครงการที่ได้รับการอนุมัติต่อหนึ่งโครงการ
6.ผู้ประกอบการ 1 รายจะขอรับการสนับสนุนโงการได้ 2 โครงการต่อครั้ง โดยทั้ง 2 โครงการต้องไม่ใช่โครงการเดียวกัน และ 7.ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอรับการสนับสนุนโครงการใหม่ได้ เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จในแต่ละครั้ง
