xs
xsm
sm
md
lg

ผู้สื่อข่าวพิเศษนราฯสวน “สรยุทธ” แก้ต่างหลังขโมยข่าวออนแอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.อมรรัตน์ เข็มขาว ชี้แจงกรณีลงพื้นที่ อ.บาเจาะ รายงานข่าวเด็กวัย 11 เดือนพิการ แต่ถูกรายการชื่อดังนำไปออกอากาศโดยบอกกล่าวล่วงหน้า เนื่องจากข่าวชิ้นนี้ส่งให้กับช่อง9 และทีวีไทย ซึ่งเบื้องหลังนั้นมีการขโมยข่าวเกิดขึ้น ขณะที่การชี้แจงจากพิธีกรคนดังก็ให้ความจริงเพียงครึ่งเดียว
นราธิวาส - ผู้สื่อข่าวพิเศษช่อง 9 และทีวีไทย สวนกลับนักเล่าข่าว “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ยืนยันทำข่าวดังกล่าวเองเพียงคนเดียว แม่เด็กพิการพร้อมเป็นพยาน แฉเบื้องหลังคนขโมยภาพเอาจากโฟลเดอร์ช่อง 11 แต่การชี้แจงกลับให้ความจริงเพียงครึ่งเดียว แต่ไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณที่ไม่ควรลอกข่าวในขณะที่ผู้ทำข่าวต้องใช้ความสามารถ และยากลำบากในการทำงานพื้นที่นั้นอยู่แล้ว

ความคืบหน้ากรณี น.ส.อมรรัตน์ เข็มขาว ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดนราธิวาส สังกัดโมเดิร์นไนน์ทีวี และทีวีไทย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ที่นำภาพข่าวดังกล่าวไปเผยแพร่ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดย น.ส.อมรรัตน์ ยืนยันว่า เป็นภาพข่าวของตนเองนั้น

ล่าสุด น.ส.อมรรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลัง นายสรยุทธ พูดถึงเรื่องดังกล่าวในรายการของตนเอง เมื่อเช้าวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า กรณีที่ผู้สื่อข่าวพิเศษของช่อง 3 ชี้แจงว่า เป็นผู้นำภาพมาจากช่อง 11 จ.นราธิวาส ซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยตนเองเป็นเพียงผู้เดียวที่เข้าไปถ่ายภาพดังกล่าวในครั้งแรก ซึ่งมีแม่ของเด็กเป็นพยานในเรื่องดังกล่าวได้

และต่อมาตนได้นำภาพดังกล่าวให้กับลูกจ้างของสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส และลูกจ้างคนดังกล่าวได้นำภาพส่งต่อไปยังแฟ้มภาพ หรือโฟลเดอร์ช่อง 11 ซึ่งการส่งภาพจะต้องมีล็อกอิน และพาสเวิร์ดที่คนภายนอกไม่สามารถรู้ได้ โดยลูกจ้างคนดังกล่าวได้ยืนยันว่า ไม่มีการส่งภาพต่อไปให้ผู้อื่นแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่อ้างว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มีนโยบายให้นำภาพข่าวช่อง 11 ไปใช้ได้นั้น น.ส.อมรรัตน์ กล่าวว่า นายสรยุทธ พูดบิดเบือนจากความเป็นจริง เพราะภาพข่าวที่นำไปใช้ได้ต้องนำมาจากแฟ้มภาพ หรือโฟลเดอร์ของประชาสัมพันธ์จังหวัด ซึ่งเป็นคนละส่วนกับแฟ้มภาพของช่อง 11 ที่สำคัญ ในแฟ้มภาพของประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส ก็ไม่มีข่าวดังกล่าวด้วย การที่ผู้สื่อข่าวพิเศษช่อง 3 อ้างว่า นำภาพจากแฟ้มภาพของประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาสจึงไม่เป็นความจริง

ส่วนกรณีที่ นายสรยุทธ พูดถึงข่าวดังกล่าวว่า ควรเผยแพร่อยู่แล้วโดยพูดทำนองเสียดสีว่าตนเองเห็นแก่ตัวนั้น น.ส.อมรรัตน์ กล่าวว่า นายสรยุทธ รู้อยู่แก่ใจว่า วิชาชีพสื่อเป็นอย่างไร ไม่ควรพูดบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจผิด หากตนไม่มีใจที่จะทำวิชาชีพนี้หรือไม่คิดช่วยเหลือเด็กและครอบครัวนี้จะพยายามเข้าไปถ่ายภาพถึง อ.บาเจาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมทำไม

และที่สำคัญ นายสรยุทธ ทำวิชาชีพสื่อมานาน ควรพูดให้สาธารณะเข้าใจในข้อเท็จจริง แยกแยะระหว่างวิชาชีพสื่อที่คนทำจะต้องมีจรรยาบรรณการทำข่าว ไม่ขโมยข่าว หรือลอกข่าวคนอื่น กับกรณีของการทำข่าวเพื่อสาธารณะหรือสังคม ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของสื่อมวลชนทุกคนอยู่แล้ว แต่ นายสรยุทธ กลับนำสองเรื่องมาพูดรวมกันซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสน

และที่สำคัญ การแจ้งความดำเนินคดีของตน ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารสถานีช่อง 3 ได้พิจารณาดูว่า การจ้างผู้สื่อข่าวในแต่ละพื้นที่ ผู้สื่อข่าวคนนั้นๆ ควรมีคุณสมบัติการเป็นสื่อมวลชนที่ดี ไม่ลอก หรือขโมยข่าวคนอื่น แต่กระบวนการฟ้องร้องต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นเดียวกับกรณีของการฟ้องร้องหมิ่นประมาท คือ การฟ้องผู้ประกาศ ผู้อำนวยการสถานีและผู้สื่อข่าว ซึ่ง นายสรยุทธ รู้กระบวนการเหล่านี้ดี แต่กลับไม่พูดให้สาธารณชนฟัง ถือเป็นการไม่พูดความจริงทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สื่อมวลชนเช่นตนกลับถูกผู้ประกาศข่าวชื่อดังใช้เวทีส่วนตัวมาพูดความจริงครึ่งเดียว

กำลังโหลดความคิดเห็น