นครศรีธรรมราช - รวบ 2 โจ๋รับจ้างขว้างโทรศัพท์เข้าเรือนจำคาหนังคาเขา 8 เครื่องรวด สารภาพสิ้นรับจ้างค่าเหนื่อยหมื่นบาท-ถึงมือนักโทษราคาพุ่งเครื่องละ 1.5 แสน
วันนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายณรงค์ ยงค์ณรงค์กุล ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้คุมตัวนายพันธ์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และ นายษร (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งสองรายมีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
พร้อมด้วยเครื่องโทรศัพท์จำนวน 8 เครื่อง และอุปกรณ์ต่อพ่วงครบชุด ส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.ศักดิ์สุราษฎร์ ตลับนาค ผกก.สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีหลังจากที่เยาวชนทั้งคู่ถูกจับกุมตัวไว้ได้ ขณะลักลอบปีนเข้าไปภายในรั้วชั้นนอกของเรือนจำและเตรียมขว้างโทรศัพท์ที่ถูกบรรจุไว้ในกล่องนมจำนวน 8 เครื่อง ห่อด้วยเสื้อเชิ้ตถ่วงน้ำหนักด้วยดินน้ำมัน
นายณรงค์ ยงค์ณรงค์กุล ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.40 น.เจ้าหน้าที่งานรักษาความปลอดภัยในเขตเรือนจำ ได้พบเห็นชายวัยรุ่น 2 คนเข้ามาในบริเวณหวงห้ามแล้วปีนเข้าไปในรั้วชั้นใน จากนั้นจึงติดตามเข้าไปจึงพบว่าชายดังกล่าวกำลังเตรียมขว้างสิ่งของเข้าไปในเรือนจำจึงคุมตัวไว้ได้ เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าเป็นโทรศัพท์มือถือจำนวน 8 เครื่องถูกเตรียมขว้างเข้าไปภายในเขตควบคุมผู้ต้องขัง
“เราได้สอบแล้วผู้ต้องหาทั้งคู่รับว่า ได้รับการว่างจ้างจากนายแยไม่ทราบนามสกุลในราคา 50,000 บาท โดยนายแยเป็นผู้นำโทรศัพท์และผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาส่งในเขตเรือนจำ หลังจากนั้นนัดหมายรอรับกลับหากขว้างเข้ามาสำเร็จ แต่เจ้าหน้าที่ได้จับตัวผู้รับจ้างทั้งสองรายไว้ได้ผู้ว่าจ้างจึงหลบหนีไปได้”
ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้เร่งรื้อทุกอย่างทั้งเรื่องของโทรศัพท์และยาเสพติดกวาดล้างไปได้จำนวนมากแล้ว และยังต้องจัดการกันต่อไป โดยก่อนหน้าที่กรณีที่รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เข้าทำการตรวจค้นกลางดึก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ถูกสั่งย้ายออกจากเรือนจำนครศรีธรรมราชไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นจนหมดแล้ว และสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมเข้าไปทำหน้าที่แทน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำรายหนึ่ง เปิดเผยว่า หากโทรศัพท์จำนวน 8 เครื่องที่ถูกจับกุมได้หลุดรอดเข้าไปได้ในเรือนจำถึงมือนักโทษแล้วนั้น โดยเฉพาะนักโทษในกลุ่มคดียาเสพติด ที่ยังมีเครือข่ายอยู่ภายในนอกจะมีราคาสูงถึงเครื่องละ 100,000-150,000 บาททีเดียว การจ่ายเงินนั้นจะทำกันนอกเรือนจำผ่านเครือข่ายของผู้ต้องขังซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
นอกจากนั้น นักโทษที่ไม่สามารถนำโทรศัพท์มาครอบครองได้จะยอมที่จะจ่ายให้กับเจ้าของต่อการโทรถึงครั้งละ 10,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักโทษยาเสพติด