นครศรีธรรมราช - โจ๋ซุ่มขว้างกัญชา-มือถือข้ามกำแพงเรือนจำนครศรีอีก จนท.ตาไวไล่กวดรอดหวุดหวิดยึดของกลางส่ง ตร. เผยราคามือถือในเรือนจำสูงถึงกว่าเครื่องละ 5 หมื่นบาท
วันนี้ (12 มิ.ย.) ร.ต.ท.มนตรี ปานอินทร์ ร้อยเวร สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่า มีชายวัยรุ่น 2 คน มีท่าทางพิรุธกำลังขว้างสิ่งของเข้าไปในเรือนจำเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนดูต้นทางได้ตะโกนบอกให้ผู้ที่ขว้างสิ่งของดังกล่าวทราบ ก่อนที่จะเผ่นหนีออกจากที่เกิดเหตุไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ไล่กวด บริเวณด้านหลังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งสายตรวจเข้าปิดล้อม แต่ปรากฎว่าวัยรุ่นดังกล่าวได้ใช้รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด โดยทิ้งสิ่งของไว้
ในที่เกิดเหตุพบว่า เป็นช่วงกำแพงด้านหลังเรือนจำ เป็นป่าละเมาะทึบ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีห่อกระดาษมัดไว้จนแน่นอย่างดี 1 ชิ้น ตรวจสอบภายในเป็นกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 1.5 กก. นอกจากนั้นยังพบห่อกระดาษที่ถูกมัดไว้จนแน่นเป็นก้อน จำนวนกว่า 20 ชิ้น ตรวจสอบภายในเป็นโทรศัพท์มือถือใหม่หลายยี่ห้อ จึงนำของกลางทั้งหมดกลับมาตรวจสอบในเรือนจำกลาง
ต่อมาเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ทำบันทึก พร้อมทั้งนำส่งกัญชาจำนวนดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นถือเป็นของต้องห้าม เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงยึดไว้ตรวจสอบก่อน โดยแจ้งว่าจะนำส่งพนักงานสอบสวนภายหลัง
ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า โทรศัพท์มือถือเมื่อเล็ดลอดเข้าไปในเรือนจำได้แล้วนั้น นักโทษจะขายกันในราคาเครื่องละกว่า 50,000 บาท โดยก่อนหน้ารองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้บุกตรวจค้นกลางดึกได้โทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต้องถูกคำสั่งย้ายด่วนถึง 18 คน
วันนี้ (12 มิ.ย.) ร.ต.ท.มนตรี ปานอินทร์ ร้อยเวร สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่า มีชายวัยรุ่น 2 คน มีท่าทางพิรุธกำลังขว้างสิ่งของเข้าไปในเรือนจำเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนดูต้นทางได้ตะโกนบอกให้ผู้ที่ขว้างสิ่งของดังกล่าวทราบ ก่อนที่จะเผ่นหนีออกจากที่เกิดเหตุไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ไล่กวด บริเวณด้านหลังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งสายตรวจเข้าปิดล้อม แต่ปรากฎว่าวัยรุ่นดังกล่าวได้ใช้รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด โดยทิ้งสิ่งของไว้
ในที่เกิดเหตุพบว่า เป็นช่วงกำแพงด้านหลังเรือนจำ เป็นป่าละเมาะทึบ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีห่อกระดาษมัดไว้จนแน่นอย่างดี 1 ชิ้น ตรวจสอบภายในเป็นกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 1.5 กก. นอกจากนั้นยังพบห่อกระดาษที่ถูกมัดไว้จนแน่นเป็นก้อน จำนวนกว่า 20 ชิ้น ตรวจสอบภายในเป็นโทรศัพท์มือถือใหม่หลายยี่ห้อ จึงนำของกลางทั้งหมดกลับมาตรวจสอบในเรือนจำกลาง
ต่อมาเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ทำบันทึก พร้อมทั้งนำส่งกัญชาจำนวนดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นถือเป็นของต้องห้าม เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงยึดไว้ตรวจสอบก่อน โดยแจ้งว่าจะนำส่งพนักงานสอบสวนภายหลัง
ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า โทรศัพท์มือถือเมื่อเล็ดลอดเข้าไปในเรือนจำได้แล้วนั้น นักโทษจะขายกันในราคาเครื่องละกว่า 50,000 บาท โดยก่อนหน้ารองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้บุกตรวจค้นกลางดึกได้โทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต้องถูกคำสั่งย้ายด่วนถึง 18 คน