นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ว่า ขณะนี้มีทหารเกณฑ์ประมาณ 2 แสนคนที่ฝึกเสร็จแล้ว และยังไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านจากกรม กอง กลับไปภูมิลำเนาเดิม ทำให้ต้องใช้สิทธิ์เลือกตั้งในค่ายทหาร จึงเป็นห่วงว่า ทหารเหล่านี้จะถูกสวมสิทธิ์เลือกตั้ง
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ว่า มีข่าวว่ามีนักโทษประมาณ 2 แสนคน ซึ่งไม่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่กลับให้เซ็นหนังสือมอบอำนาจ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อให้คนไปใช้สิทธิ์แทน
นายวิชาญ ยังกล่าวถึงกรณี น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ผู้มัครส.ส. เขตดุสิต ราชเทวี ว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ลีลาวดี ทำหนังสือขออนุญาตเข้าไปแจกเอกสารหาเสียงยังหน่วยทหาร และได้รับการตอบรับมาว่า อนุญาตพร้อมกำหนดวัน เวลา ที่จะให้เข้าไป แต่ต่อมากลับมีการยกเลิก โดยไม่ได้ระบุว่าจะให้เข้าไปแจกเอกสารหาเสียงได้เมื่อไร ขณะที่พรรคการเมืองอื่นที่เป็นพรรครัฐบาล สามารถเข้าไปแจกได้
นายวิชาญ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการแจกแผ่นซีดี เนื้อหาเล่าถึงการชุมนุมที่ผ่านมา ที่มีการเผาบ้าน เผาเมือง และมีการโยงมายังพรรคเพื่อไทยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น พรรคได้ทำหนังสือไปยังกกต. แล้ว แต่ก็ยังมีการแจกซีดีอยู่ และขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ยังออกมาให้สัมภาษณ์ ระบุว่าอย่าไปเลือกคนที่เผาบ้าน เผาเมือง ซึ่งตนคิดว่ามีอะไรเชื่อมโยงกันหรือไม่
**ราชทัณฑ์ยกกม.โต้ พท.มั่วนิ่ม
ด้านนายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีนายวิชาญ ตั้งข้อสังเกตถึงการทุจริตเลือกตั้ง โดยระบุว่า นักโทษในเรือนจำทั่วประเทศประมาณ 200,000 คน เซ็นใบมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปใช้สิทธิ ลงคะแนนเลือกตั้งแทนว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัดสิทธิการลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ต้องขังในเรือนจำที่ได้รับโทษตามคำพิพากษา หรือมีคำสั่งให้คุมขังระหว่างการพิจารณาคดี
ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นไปได้ ที่ผู้ต้องขังจะเซ็นใบมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปลงคะแนนเลือกตั้งแทน นอกจากนี้กฎหมายเลือกตั้ง กำหนดไว้ชัดเจนว่า การใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ประชาชนผู้มีสิทธิจะต้องไปใช้สิทธิด้วยตัวเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ ทั้งนี้ข้อมูลพรรคเพื่อไทยนำมาแถลง จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 100 ระบุให้ผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1. ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช 2. อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 3. ต้องคุมขังอยู่โดยหมายศาล หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และ 4.วิกลจริต จิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ว่า มีข่าวว่ามีนักโทษประมาณ 2 แสนคน ซึ่งไม่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่กลับให้เซ็นหนังสือมอบอำนาจ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อให้คนไปใช้สิทธิ์แทน
นายวิชาญ ยังกล่าวถึงกรณี น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ผู้มัครส.ส. เขตดุสิต ราชเทวี ว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ลีลาวดี ทำหนังสือขออนุญาตเข้าไปแจกเอกสารหาเสียงยังหน่วยทหาร และได้รับการตอบรับมาว่า อนุญาตพร้อมกำหนดวัน เวลา ที่จะให้เข้าไป แต่ต่อมากลับมีการยกเลิก โดยไม่ได้ระบุว่าจะให้เข้าไปแจกเอกสารหาเสียงได้เมื่อไร ขณะที่พรรคการเมืองอื่นที่เป็นพรรครัฐบาล สามารถเข้าไปแจกได้
นายวิชาญ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการแจกแผ่นซีดี เนื้อหาเล่าถึงการชุมนุมที่ผ่านมา ที่มีการเผาบ้าน เผาเมือง และมีการโยงมายังพรรคเพื่อไทยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น พรรคได้ทำหนังสือไปยังกกต. แล้ว แต่ก็ยังมีการแจกซีดีอยู่ และขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ยังออกมาให้สัมภาษณ์ ระบุว่าอย่าไปเลือกคนที่เผาบ้าน เผาเมือง ซึ่งตนคิดว่ามีอะไรเชื่อมโยงกันหรือไม่
**ราชทัณฑ์ยกกม.โต้ พท.มั่วนิ่ม
ด้านนายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีนายวิชาญ ตั้งข้อสังเกตถึงการทุจริตเลือกตั้ง โดยระบุว่า นักโทษในเรือนจำทั่วประเทศประมาณ 200,000 คน เซ็นใบมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปใช้สิทธิ ลงคะแนนเลือกตั้งแทนว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัดสิทธิการลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ต้องขังในเรือนจำที่ได้รับโทษตามคำพิพากษา หรือมีคำสั่งให้คุมขังระหว่างการพิจารณาคดี
ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นไปได้ ที่ผู้ต้องขังจะเซ็นใบมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปลงคะแนนเลือกตั้งแทน นอกจากนี้กฎหมายเลือกตั้ง กำหนดไว้ชัดเจนว่า การใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ประชาชนผู้มีสิทธิจะต้องไปใช้สิทธิด้วยตัวเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ ทั้งนี้ข้อมูลพรรคเพื่อไทยนำมาแถลง จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 100 ระบุให้ผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1. ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช 2. อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 3. ต้องคุมขังอยู่โดยหมายศาล หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และ 4.วิกลจริต จิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
