นราธิวาส - ทหารพรานเยียวยาจิตใจชาวไทยพุทธ ใน อ.เจาะไอร้อง หลังถูกชาวบ้านถูกยิง 2 ศพ ปชช.ยันไม่ทิ้งบ้านเกิด พร้อมออกเลือกตั้ง ส.ส.โดยมี จนท.รปภ.สร้างความอุ่นใจ
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่วัดเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 สั่งการให้ ร.อ.จิรพฤทธิ์ คงประพันธ์ นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน พร้อมด้วย ร.อ.มนัส เมืองปลอด ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 4506 นำกำลังทหารพรานชาย และหญิงเข้าพบปะพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านไทยพุทธ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง โดยยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอีกกว่า 60 ครัวเรือน ทั้งในเขต ม.1 ต.จวบ และ ม.1 ต.บูกิต ที่อยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ที่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงถล่มเจ้าของร้าน ขายของชำชาวไทยพุทธเสียชีวิต 2 ศพ
คือ นายสมพงษ์ แซ่อุ๋ย อายุ 54 ปีและนายณรงค์ บรรจงคชาธาร อายุ 72 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการจุดชนวนระเบิดซ้ำอีก 5 นาย เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 54 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบการก่อเหตุยิงถล่มมัสยิดไอปาแย อ.เจาะไอร้อง ครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บอีก 13 ราย
เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้พูดคุยเพื่อเป็นการสร้างขวัญ และเยียวยาสภาพจิตใจของ กลุ่มชาวบ้านทั้งหมด ที่ยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงและสะเทือนขวัญในครั้งนี้ แต่ทุกคนจะไม่ขอทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดที่อยู่มานานอย่างเด็ดขาด เพราะที่นี่คือที่อยู่และที่ทำกิน
เจ้าหน้าที่ทหารพรานกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนไม่ย่อท้อ และเป็นสิ่งที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำให้ทหารทุกนายดูแลทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม เพื่อไม่ให้เกิดการละทิ้งถิ่นฐาน และไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำของทั้ง 2 ศาสนา
เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการสร้างความแตกแยก เพราะฉะนั้นขอให้ชาวไทยพุทธทุกคนในพื้นที่อยู่กันอย่างสามัคคีและมีความรักต่อกัน โดยไม่เกิดความหวาดระแวงต่อชาวมุสลิม แต่หากใครรู้สึกว่าการดำเนินชีวิตหรือภารกิจส่วนตัวจะไม่ปลอดภัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการโยกกำลังจากหน่วยต่างๆ ไป รปภ.ได้ทุกสถานที่
สำหรับ การเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้ ชาวบ้านทุกคนกล่าวอย่างมั่นใจว่า จะเดินทางไปใช้สิทธิอย่างพร้อมเพรียงกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเป้าของกลุ่มคนร้าย อีกทั้งเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่กองกำลังที่จะมีการจัดชุด รปภ.ตั้งแต่การเดินทางไปและกลับอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ทั้ง 2 จุดมาสอบปากคำไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก โดยกลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 8 คน เชื่อมโยงระหว่างสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง ระแงะ สุไหงปาดี และจะแนะ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พบเบาะแสเพิ่มเติมอีกว่า กลุ่มดังกล่าวเตรียมลงมือก่อเหตุในพื้นที่ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง โดยเป้าหมายหลัก คือ เจ้าหน้าที่รัฐและสถานียุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจุดล่อแหลมอีกด้วย เพื่อตอบโต้ทางการที่สามารถดึงมวลชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่วัดเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 สั่งการให้ ร.อ.จิรพฤทธิ์ คงประพันธ์ นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน พร้อมด้วย ร.อ.มนัส เมืองปลอด ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 4506 นำกำลังทหารพรานชาย และหญิงเข้าพบปะพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านไทยพุทธ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง โดยยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอีกกว่า 60 ครัวเรือน ทั้งในเขต ม.1 ต.จวบ และ ม.1 ต.บูกิต ที่อยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ ที่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงถล่มเจ้าของร้าน ขายของชำชาวไทยพุทธเสียชีวิต 2 ศพ
คือ นายสมพงษ์ แซ่อุ๋ย อายุ 54 ปีและนายณรงค์ บรรจงคชาธาร อายุ 72 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากการจุดชนวนระเบิดซ้ำอีก 5 นาย เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 54 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบการก่อเหตุยิงถล่มมัสยิดไอปาแย อ.เจาะไอร้อง ครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บอีก 13 ราย
เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้พูดคุยเพื่อเป็นการสร้างขวัญ และเยียวยาสภาพจิตใจของ กลุ่มชาวบ้านทั้งหมด ที่ยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงและสะเทือนขวัญในครั้งนี้ แต่ทุกคนจะไม่ขอทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดที่อยู่มานานอย่างเด็ดขาด เพราะที่นี่คือที่อยู่และที่ทำกิน
เจ้าหน้าที่ทหารพรานกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนไม่ย่อท้อ และเป็นสิ่งที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำให้ทหารทุกนายดูแลทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม เพื่อไม่ให้เกิดการละทิ้งถิ่นฐาน และไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำของทั้ง 2 ศาสนา
เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการสร้างความแตกแยก เพราะฉะนั้นขอให้ชาวไทยพุทธทุกคนในพื้นที่อยู่กันอย่างสามัคคีและมีความรักต่อกัน โดยไม่เกิดความหวาดระแวงต่อชาวมุสลิม แต่หากใครรู้สึกว่าการดำเนินชีวิตหรือภารกิจส่วนตัวจะไม่ปลอดภัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการโยกกำลังจากหน่วยต่างๆ ไป รปภ.ได้ทุกสถานที่
สำหรับ การเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้ ชาวบ้านทุกคนกล่าวอย่างมั่นใจว่า จะเดินทางไปใช้สิทธิอย่างพร้อมเพรียงกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเป้าของกลุ่มคนร้าย อีกทั้งเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่กองกำลังที่จะมีการจัดชุด รปภ.ตั้งแต่การเดินทางไปและกลับอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ทั้ง 2 จุดมาสอบปากคำไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก โดยกลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 8 คน เชื่อมโยงระหว่างสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง ระแงะ สุไหงปาดี และจะแนะ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พบเบาะแสเพิ่มเติมอีกว่า กลุ่มดังกล่าวเตรียมลงมือก่อเหตุในพื้นที่ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง โดยเป้าหมายหลัก คือ เจ้าหน้าที่รัฐและสถานียุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจุดล่อแหลมอีกด้วย เพื่อตอบโต้ทางการที่สามารถดึงมวลชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น