ระนอง - ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมแจกภาพ 75 มือปืนเมืองไทย ที่เป็นที่ต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.วิทยเดช วรดิลก ผบก.ภ.จว.กระบี่ เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเลือกตั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่กู้ภัย จากมูลนิธิ หน่วยกู้ภัย เข้าร่วมจำนวน 150 นาย
พล.ต.ต.วิทยเดช วรดิลก ผบก.ภ.จว.กระบี่ กล่าวว่า การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้อยู่ในช่วงระยะที่ 2 ช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิ หน่วยกู้ภัย กว่า 150 นาย โดยมีเป้าหมายจับกุมกวาดล้าง อาวุธปืนสงคราม มือปืนรับจ้าง และผู้มีอิทธิพลที่กระทำความผิดกฎหมาย คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีค้างเก่าตามหมายจับ คดียาเสพติดให้โทษ อบายมุขทุกประเภท คดีความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้ง เพื่อป้องปรามผู้ที่ฉวยโอกาสก่อเหตุ โดยมีเป้าหมาย 15 วัน
ในช่วงก่อนการเลือกตั้งและระหว่างการเลือกตั้ง มักจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น เช่น คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีที่ใช้อาวุธปืนกระทำความผิด ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง หรือความขัดแย้งส่วนตัว ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่จึงได้กำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปราม กดดัน ตรวจค้น จับกุม ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด้วยการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ และทุกพื้นที่ของ สภ.ของตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่
กลุ่มเครือข่ายของกลุ่มมือปืนนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาพฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้เอาไว้แล้ว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวซึ่งอาจก่อเหตุ รุนแรงได้ ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ได้กำชับชุดสืบสวนทั้งระดับจังหวัด ระดับ สภ.ทุกสถานีทั้ง 8 อำเภอ รวมทั้ง สภ.ย่อย เข้มงวดในการปฏิบัติหน้าเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงก่อนการเลือกตั้งและระหว่างการเลือกตั้ง ให้มีความสงบเรียบร้อย
สำหรับการปฎิบัติงานในระยะแรก หรือระยะที่ 1 ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา สามารถจับกุมอาวุธปืน ได้ จำนวน 29 กระบอก คดียาเสพติด 50 คดี คดีค้างเก่า 15 คดี และคดีอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ได้แจกภาพ 75 มือปืนเมืองไทยที่เป็นที่ต้องการตัวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากที่สุด ให้ทุก สภ.ด้วยเพื่อเฝ้าระวังและติดตามตัวมาดำเนินคดี
