ตรัง - ผู้ปกครองโจ๋วัย 17 ปี พร้อมญาติ บุกยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อรองผู้ว่าฯ ตรัง โวยลูกชายตกเป็นแพะคดีฆ่าคนตาย เรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จริง และคุ้มครองลูกชาย หวั่นถูกสั่งเก็บ
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายน้อย สีนอง พร้อมด้วย นางสุภาณี ดีงาม สองสามีภรรยา และญาติ กว่า 50 คนได้นำนายสุธรรม บัวศรี อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 6 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง บุตรชาย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ตรัง แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ในคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เนื่องจากไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาช่วยเหลือเพิกถอนหมายจับในคดีดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่า บุตรชายเป็นผู้บริสุทธิ์ และตกเป็นแพะในคดีดังกล่าว
นายสุธรรม กล่าวว่า ตามที่ตนได้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ตรัง แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ที่ 42/2553 ลงวันที่ 15 กันายน 2553 ที่ผ่านมา ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนทำ และไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทั่งญาติทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และทางเว็บไซต์ จึงมาทราบว่า ถูกออกหมายจับ แถมยังเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังต้องการตัวอยู่ ด้วยความตกใจกลัวจึงนำเรื่องไปปรึกษาพ่อแม่และญาติ ก่อนติดต่อเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองตรัง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 โดยมีนายสัมฤทธิ์ ยี่สิ้น กำนัน ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ได้ประสานติดต่อในการพาเข้ามอบตัว พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนจะทำเรื่องยื่นประกันตัวออกไปเพื่อต่อสู้คดี
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้ตนถูกใส่ร้าย และกล่าวหาว่า เป็นมือปืนรับจ้างยิง น.ส.ชฏาภรณ์ นวลวิจิตร ที่ร้านน้าหลวงคาราโอเกะ ถ.ห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เสียชีวิต ทั้งที่ช่วงเวลาดังกล่าว ตนได้ไปกรีดยางที่ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง กับยาย จนมาทราบข่าวภายหลังจากมารดาโทรศัพท์บอกว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามให้ไปพบที่ สภ.เมืองตรัง โดยบอกว่าตนเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าคนตาย ก่อนปล่อยตัวออกมา จากนั้นเมื่อเวลาล่วงเลยประมาณ 2 สัปดาห์ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งอ้างตัวเป็นสารวัตร เรียกร้องเงินสด 30,000 บาท เพื่อแลกกับการหลุดคดี แต่ครอบครัวตนไม่มีเงินมากขนาดนี้ จึงบอกไปว่า หากติดคุกก็แล้วแต่เวรกรรม แล้วเรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป
นางสุภาณี ดีงาม มารดา กล่าวว่า บุตรชายตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และคดีนี้เป็นที่ทราบกันทั้งหมู่บ้านแล้วว่า ฝ่ายคนยิงและฝ่ายคนตายมีการเคลียร์จ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายกันรอบนอกแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังมาออกหมายจับดำเนินคดีบุตรชายตนอีก หลังจากนี้ไป ตนและญาติไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
โดยกลัวว่า บุตรชายจะถูกสั่งฆ่าปิดปากหรือไม่ปลอดภัยต่อชีวิต จึงเรียกร้องให้ทางจังหวัดตรังตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือพิจารณาเพิกถอนหมายจับ เพราะบุตรชายตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และที่สำคัญอาจทำให้คนร้ายตัวจริงลอยนวลได้
ด้าน นายสุวิทย์ สุบงกฎ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หลังจากรับหนังสือแล้ว กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกับทาง พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงของคดีดังกล่าว ว่ามีที่มาอย่างไร เหตุใดชื่อของ นายสุธรรม จึงไปปรากฏในหมายจับของ สภ.เมืองตรังได้ หลังจากนั้น จึงสามารถเรียกทางฝ่ายผู้เสียหายมาสอบถาม แล้วดูพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งนี้ ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว ตนจึงเกรงว่าหากทางให้มีการญาติเร่งรัดดำเนินการ ก็จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
ส่วนกรณีที่ทางพ่อแม่และญาติเกรงว่า เด็กจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต เรื่องนี้ตนรับปากจะประสานสั่งให้ตำรวจ สภ.คลองเต็ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านของเด็ก เข้ามาดูแลความปลอดภัย และคุ้มครองเด็กในระหว่างคดียังไม่สิ้นสุด พร้อมทั้งจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอย่างเร่งรัดที่ สภ.เมืองตรัง ให้เร็วที่สุด โดยให้ทางฝ่ายผู้เสียหายส่งตัวแทนเข้าร่วมรับฟังในการสอบปากคำเด็ก และจะช่วยจัดหาทนายความให้เด็กต่อสู้คดีตามขั้นตอนต่อไปด้วย