ยะลา - ผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย แบบแบ่งเขต จ.ยะลาเร่งออกเดินหาเสียง เน้นเคาะประตู เดินตลาด พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมวอนรัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ปัญหาความไม่สงบเป็นอันดับแรก
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พื้นที่ จ.ยะลา ที่บริเวณถนนรถไฟ และ บริเวณสถานีรถไฟยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา นายอีรฟาน สุหลง ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย เขต 1 ยะลา พร้อมทีมงาน ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนอิสลามวิทยามูลนิธิ เดินถือป้ายหาเสียง พร้อมเดินแจกบัตรแนะนำตัวให้กับบรรดาพ่อค้า แม่ค้า วินมอเตอร์ไซด์ รถตุ๊กๆ รับจ้าง รวมทั้งประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของ และ ประชาชนที่มาใช้บริการรถไฟ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน เป็นจำนวนมาก
สำหรับ นายอีรฟาน สุหลง ผู้สมัคร สส. เขต 1 พรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ เป็นการลงมาเล่นการเมืองเป็นครั้งแรก รูปแบบการออกหาเสียง เน้นการเดินพบปะ เคาะประตู เดินตลาด พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีการเดินตามโรงเรียน ตามสถานที่ราชการต่าง ๆ
ด้าน นายอาวุธ เจษฎาไกรสร ผู้ประกอบการโรงแรมปาร์ควิว เขตเทศบาลนครยะลาอ.เมืองยะลา กล่าวว่า ตนเองมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหนก็แล้วแต่ ต้องแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมาเป็นอันดับแรก หากรัฐมีความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากรัฐไม่สร้างเงื่อนไขกับพี่น้องประชาชน ตนเองคิดว่าเหตุการณ์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ แต่เมื่อไม่นานนี้ก็มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งมีคนบางส่วนทำให้สถานการณ์ในพื้นที่รุนแรงมากขึ้น เกิดการทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ในเรื่องนี้ จะเป็นรัฐบาลไหนก็แล้วแต่จะต้องมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายอาวุธ กล่าวอีกว่า ตนเองคิดว่าที่ผ่านมาการแก้ปัญหาเดินมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ทางภาครัฐต้องใช้ความเข้มมากขึ้น ต้องมีการเยียวยา ต้องมีการให้โอกาส ซึ่งในพื้นที่ในขณะนี้ ก็มี ท่านภาณุ อุทัยรัตน์ เป็น เลขาธิการ ศอ.บต. ประจำอยู่ ซึ่งท่านก็เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งหากสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น เศรษฐกิจที่ดีก็จะตามมา
ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา ภาคเศรษฐกิจ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซบเซามาก ตราบใดที่ปัญหาการก่อความไม่สงบยังคงอยู่ หรือมีความรุนแรงมากขึ้น และไม่ดีขึ้น เรื่องการลงทุนต่างๆในพื้นที่ คงเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ ตนเองก็เชื่อว่าหากหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครองช่วยกันทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบ พร้อมๆกับการทำความเข้าใจในปมปัญหาต่างๆ โดยขอความร่วมมือกับผู้นำศาสนา และ ชาวบ้าน ให้มากกว่าเดิม สถานการณ์ในพื้นที่ก็จะดีขึ้นตามลำดับ
