ศูนย์ข่าวภูเก็ต- บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด หรือ กรีนคอร์ป เปิดเส้นทางเดินรถทัวร์ข้ามภูมิภาคเชียงใหม่-ภูเก็ตต้นเดือนมิถุนายนนี้ ด้วยรถวีไอพี 24 ที่นั่ง รองรับการเดินทางเชื่อมเมืองท่องเที่ยวทางเหนือกับใต้ คาดได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยว คนภาคเหนือที่มาทำงานและค้าขายในภูเก็ตและภาคใต้
นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยพัฒนาขนส่ง เชียงใหม่ จำกัด หรือ กรีนคอร์ป เปิดเผยในโอกาสนำสื่อมวลชนจาก จ.เชียงใหม่ เดินทางมายัง จ.ภูเก็ต ด้วยรถโดยสารวีไอพีใหม่ที่เตรีมจะให้บริการเส้นทางเชียงใหม่-ภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน "ม๋วนใจ๋ ภูเก็ต Press Toure" ว่า กรีนคอร์ป เป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งผู้โดยสารด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือกรีนบัส ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือมานานกว่า 47 ปี
ในปี พ.ศ. 2554 ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ให้บริการข้ามภูมิภาคเป็นครั้งแรก ในเส้นทางเชียงใหม่ - ภูเก็ต ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้องค์กรก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจในระดับสากล โดยได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาด้านรถโดยสาร ซึ่งได้นำเข้ารถโดยสารใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งนี้จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต้นเดือนมิถุนายนนี้
บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณจำนวน 45 ล้านบาท ในการจัดหารถโดยสารวีไอพี 24 ที่นั่งใหม่ จำนวน 5 คัน ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากประเทศจีน เพื่อให้บริการเส้นทางภูเก็ต-เชียงใหม่ พร้อมด้วยพนักงานขับรถ จำนวน 12 คน และบัสโฮสเตส จำนวน 8 คน ซึ่งในการให้บริการเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก โดยที่นั่งมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น จอทีวีส่วนตัว เบาะนวดไฟฟ้า ซึ่งในระยะแรกจะเปิดให้บริการวันละ 1 เที่ยวทุกวัน ออกจาก จ.ภูเก็ต เวลาประมาณ 16.00 น. - จ.เชียงใหม่ เวลาประมาณ 15.00 น. และออกจาก จ.เชียงใหม่เวลาประมาณ 15.00 น. - จ.ภูเก็ต ประมาณ 13.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 22-23 ชั่วโมง มีจุดจอดตลอดเส้นทางประมาณ 13 จุด ตามจังหวัดที่รถผ่าน ราคาค่าโดยสาร 1,770 บาท ทั้งนี้สามารถจองตั๋วโดยสารที่สถานีขนส่ง หรือผ่านทางเว็บไซต์ หรือทางหมายเลข 1141 ต่อ 8000
นายสมชาย กล่าวถึงเหตุผลที่เปิดให้บริการเดินรถเส้นทางภูเก็ต-เชียงใหม่ ว่า ด้วยเชียงใหม่เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญอันดับ 2 ของประเทศ ในขณะที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งนอกจากมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปีแล้ว ยังมีประชาชนจากพื้นที่ทางภาคเหนือเดินทางเข้ามาประกอบอาชีพเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การเปิดเส้นทางเดินรถโดยสาร นอกจากจะเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่กลุ่มประชาชนที่เข้ามาประกอบอาชีพแล้ว ยังจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย เพราะเส้นทางจากเชียงใหม่มายังภูเก็ต จะต้องผ่านจังหวัดต่างๆ ถึง 13 จังหวัด เช่น ลำปาง ตาก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามนายสมชาย กล่าวด้วยว่า จากที่ได้มีการศึกษาข้อมูลพบว่าความต้องการของผู้โดยสารมีจำนวนมาก โดยจะใช้เวลา 2 เดือนในการประเมินผลระยะเวลาในการเดินทาง จุดจอดและอื่นๆ เพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม และหากมีจำนวนผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะมีการเพิ่มเที่ยวรถต่อไป ระยะแรกตั้งเป้าผู้โดยสารในแต่ละเที่ยว ประมาณ 90% หรือประมาณ 22 ที่นั่งจากจำนวนที่นั่งทั้งหมด 24 ที่นั่ง กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้จะเป็นกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มาประกอบอาชีพที่ภูเก็ต หรือค้าขายในจังหวัดระหว่างทาง ตลอดจนการขนส่งสินค้าด้วย