ตรัง - ผู้ช่วยฝ่ายการเงินบริษัท นาเมืองเพชรพาราวู้ด ดวงซวย ตระเวนเบิกเงินสดจากธนาคารแล้วไปแวะร่วมงานแต่งเพื่อน โดยเอาเงินใส่กระเป๋าซุกไว้ในรถกระบะ แต่เมื่อกลับมาที่รถกลับต้องใจหายวาบ เพราะมีร้องรอยถูกคนร้ายงัดแงะ หลังตรวจสอบพบเงินสดที่เบิกธนาคารมาหายไปทั้งหมด 1 ล้านบาท
วันนี้ (13 พ.ค.) พ.ต.ท.บรรเทา ปลอดทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในรถยนต์ ที่บริเวณ ซ.8 ถ.ห้วยยอด ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองตรัง
โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สตราด้า สีดำ ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บฉ 6388 ตรัง ซึ่งเป็นของบริษัท นาเมืองเพชรพาราวู้ด จำกัด โรงเลื่อยรับซื้อไม้ยางพารา และจำหน่ายไม้แปรรูปส่งออกไปยังต่างประเทศ ใน อ.สิเกา จ.ตรัง จอดอยู่ริมถนนภายในซอยดังกล่าว โดยมี น.ส.พรทิพย์ แก่นเมือง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้ช่วยฝ่ายการเงินของบริษัทดังกล่าว และ นายอนุเทพ กิ้มห้อง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 6 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นคนขับรถ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
น.ส.พรทิพย์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่ตนพร้อมด้วย นายอนุเทพ ได้เดินทางออกจากบริษัทเพื่อมาเบิกเงินสดที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารทหารไทย รวมจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนในบริษัท ทั้งนี้ หลังจากเบิกเงินสดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แวะไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนภายในซอยดังกล่าว โดยเมื่อเดินทางไปถึงนายอนุเทพก็ได้จอดรถกระบะไว้ที่ริมถนน ซึ่งมีห้องแถวตั้งอยู่ติดกันหลายห้อง และตนก็ได้นำกระเป๋าที่มีเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท แอบไว้ที่เบาะรถ
จากนั้นได้ลงจากรถไปร่วมงานแต่งงานกับ นายอนุเทพ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร และลงไปร่วมงานเลี้ยงนานประมาณ 30 นาที จึงพากันเดินทางกลับ แต่เมื่อมาถึงรถ ขณะที่ นายอนุเทพ เตรียมจะไขกุญแจรถ ก็พบว่าที่ประตูมีร่องรอยถูกงัดแงะ และเมื่อตรวจสอบภายในรถ ก็พบว่า กระเป๋าหนังสีดำ ซึ่งภายในมีเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท ที่เพิ่งเบิกมาจากธนาคารทั้ง 4 แห่ง ได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.ตรัง ได้เข้าตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าว และเก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่ทิ้งร่องรอยอยู่ตามประตูรถ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับคดีลักทรัพย์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะติดตามผู้เสียหายมาจากธนาคาร และเมื่อเห็นว่ามีการเบิกเงินสดจำนวนมาก จึงใช้โอกาสในช่วงที่ผู้เสียหายทั้ง 2 คน เดินลงจากรถเพื่อไปร่วมงานแต่งงาน ทำการงัดแงะรถพร้อมกับกวาดเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท หลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นบุคคลภายในบริษัท ที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายทั้ง 2 คน ว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากปกติจะเดินทางเข้ามาในตัวเมืองตรัง เพื่อมาเบิกเงินสดของบริษัทเฉพาะวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ อีกทั้งรถกระบะคันเกิดเหตุ ก็มีบุคคลภายในบริษัทใช้กันหลายคน และอาจจะมีการแอบปั๊มกุญแจสำรวจเอาไว้ก็เป็นได้ ซึ่งจะได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม และดำเนินการติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป