ชุมพร - นายกเทศบาลตำบลบางลึก กำนัน ชาวบ้าน เรียกร้องตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินออกโดยมิชอบทับหนองน้ำสาธารณะ ทางเข้าโครงการพระราชดำริฯ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัด เผยกลุ่มนายทุกบุกรุกอำพรางทำเป็นแปลงเกษตร หวังสร้างบ้านจัดสรร รีสอร์ตในอนาคต
วันนี้ (12 พ.ค.) นายสมผล สุทธิพล นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร นายอำพล สกุลนิมิต กำนันตำบลบางลึก ร่วมกันเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนพร้อมกับชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร และหมู่บ้านใกล้เคียง ประมาณ 100 คนได้รวมตัวกันคัดค้าน นายทุนที่นำเครื่องจักรเข้าไปปรับที่ดินที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ นส.3 ก.บริเวณปากทางเข้าโครงการพระราชดำริฯแก้มลิงหนองใหญ่ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิการได้มาของที่ดินแปลงดังกล่าว
เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสาขานครศรีธรรมราชได้ มีคำพิพากษา เกี่ยวกับที่ดินแปลงดังกล่าว หลังจากที่องค์การบริการส่วนตำบลบางลึก ได้ยื่นฟ้องเจ้าพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน 13 ไร่ 3 งาน 53 ตารางวา ที่อาจจะทับที่ดิน หนองอานาง หนองน้ำธรรมชาติเก่าแก่ของตำบลบางลึก และจากคำพิพากษาของศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้ระบุให้ผู้ดูแลที่ดินตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อพิสูจน์สิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวภายใน 60 วัน ซึ่งทาง เทศบาลตำบลบางลึกได้แจ้งไปยังอำเภอเมืองชุมพรทราบแล้ว
นายสมผล กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมามีผู้อ้างสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินได้นำรถแบ็คโครเข้าไปยกร่องเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ขอให้ชะลอการปรับที่ดินไว้ก่อนเนื่องจากอยู่ระหว่างศาลปกครองมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ แต่เจ้าของที่แปลงดังกล่าวอ้างว่าเป็นที่เอกสารสิทธิ นส.3 ก ไม่ยอมหยุดจึงเป็นเหตุให้มีชาวบ้านกว่า 100 คน รวมประท้วงมาแล้ว
ด้านนายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดชุมพร กล่าวว่าตนได้ไปพบหารือกับแกนนำชาวบ้านแล้ว และได้ข้อตกลงว่า จะนำเรื่องที่ดินแปลงดังกล่าวที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งผู้มีส่วนได้เสียให้รับทราบ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐ หรือ คบร.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าวโดยเฉพาะบริเวณโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้กับตัวเมืองชุมพร ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ ทีทิวทัศน์สวยงาม กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด
โดยก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านรวมตัวกันประท้วงนายทุนที่เข้าไปบุกรุกยึดครองที่ดินและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบจำนวนเกือบ 1000 ไร่ ในพื้นที่ดังกล่าว และเรื่องอยู่ระหว่างการเสนออธิบดีกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์อยู่ขณะนี้
นอกจากนี้ ยังกลุ่มนายทุนเข้ามาบุกรุกยึดครองเพื่อทำเป็นแปลงเกษตรปลูกปาล์ม ยางพารา จากนั้นก็จะปรับเปลี่ยนเป็นก่อสร้างบ้านจัดสรรและรีสอร์ท ที่พัก ไว้รองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มเข้าไปรับผลประโยชน์ด้วย
วันนี้ (12 พ.ค.) นายสมผล สุทธิพล นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร นายอำพล สกุลนิมิต กำนันตำบลบางลึก ร่วมกันเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนพร้อมกับชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร และหมู่บ้านใกล้เคียง ประมาณ 100 คนได้รวมตัวกันคัดค้าน นายทุนที่นำเครื่องจักรเข้าไปปรับที่ดินที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ นส.3 ก.บริเวณปากทางเข้าโครงการพระราชดำริฯแก้มลิงหนองใหญ่ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิการได้มาของที่ดินแปลงดังกล่าว
เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสาขานครศรีธรรมราชได้ มีคำพิพากษา เกี่ยวกับที่ดินแปลงดังกล่าว หลังจากที่องค์การบริการส่วนตำบลบางลึก ได้ยื่นฟ้องเจ้าพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน 13 ไร่ 3 งาน 53 ตารางวา ที่อาจจะทับที่ดิน หนองอานาง หนองน้ำธรรมชาติเก่าแก่ของตำบลบางลึก และจากคำพิพากษาของศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้ระบุให้ผู้ดูแลที่ดินตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อพิสูจน์สิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวภายใน 60 วัน ซึ่งทาง เทศบาลตำบลบางลึกได้แจ้งไปยังอำเภอเมืองชุมพรทราบแล้ว
นายสมผล กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมามีผู้อ้างสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินได้นำรถแบ็คโครเข้าไปยกร่องเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ขอให้ชะลอการปรับที่ดินไว้ก่อนเนื่องจากอยู่ระหว่างศาลปกครองมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ แต่เจ้าของที่แปลงดังกล่าวอ้างว่าเป็นที่เอกสารสิทธิ นส.3 ก ไม่ยอมหยุดจึงเป็นเหตุให้มีชาวบ้านกว่า 100 คน รวมประท้วงมาแล้ว
ด้านนายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดชุมพร กล่าวว่าตนได้ไปพบหารือกับแกนนำชาวบ้านแล้ว และได้ข้อตกลงว่า จะนำเรื่องที่ดินแปลงดังกล่าวที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งผู้มีส่วนได้เสียให้รับทราบ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐ หรือ คบร.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าวโดยเฉพาะบริเวณโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้กับตัวเมืองชุมพร ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ ทีทิวทัศน์สวยงาม กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด
โดยก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านรวมตัวกันประท้วงนายทุนที่เข้าไปบุกรุกยึดครองที่ดินและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบจำนวนเกือบ 1000 ไร่ ในพื้นที่ดังกล่าว และเรื่องอยู่ระหว่างการเสนออธิบดีกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์อยู่ขณะนี้
นอกจากนี้ ยังกลุ่มนายทุนเข้ามาบุกรุกยึดครองเพื่อทำเป็นแปลงเกษตรปลูกปาล์ม ยางพารา จากนั้นก็จะปรับเปลี่ยนเป็นก่อสร้างบ้านจัดสรรและรีสอร์ท ที่พัก ไว้รองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มเข้าไปรับผลประโยชน์ด้วย