ตรัง - ชาวบ้านที่ทำโพงพางในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 200 คน ลุกฮือบุกศาลากลาง เรียกร้องให้ชะลอการจับกุม ตัดฟันทำลายโพงพางไปอีก 1 ปี พร้อมหาอาชีพใหม่รองรับระยะยาว
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ศาลากลาง จ.ตรัง นายวุฒิพงศ์ สาเล้ เลขานุการนายก อบต.ท่าข้าม พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 2 และ 4 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 200 คน ที่ยึดอาชีพการทำโพงพาง ได้มารวมตัวชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องให้จังหวัดชะลอการผ่อนผันจับกุมผู้ที่ทำโพงพางออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีอาชีพอื่นรองรับ ต่อมากลุ่มผู้ประท้วงได้ส่งตัวแทนประมาณ 50 คน เข้าหารือเพื่อหาข้อสรุปกับทางนายสุชิน สุธาชีวะ ป้องกัน จ.ตรัง นายเฉลิมชัย จันดี ปลัดอาวุโส อ.ปะเหลียน นายสุริยะ วิฑูรย์พันธุ์ ประมง จ.ตรัง ที่ห้องประชุมพระยารัษฎา ชั้น 3 ศาลากลาง จ.ตรัง
นายวุฒิพงษ์ สาเล้ แกนนำชาวบ้าน ระบุว่า ขณะนี้ในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน ยังมีผู้ที่ทำโพงพางเหลืออยู่ 4 หมู่บ้าน จำนวน 150 ลำ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านก็ไม่อยากทำอาชีพนี้ เพราะทราบดีว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จำเป็นต้องทำเพราะความอยู่รอดของครอบครัว โดยยืนยันว่าการทำโพงพางในพื้นที่ไม่มีนายทุนเข้ามาว่าจ้าง แต่ปรากฏว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเรือตรวจการณ์ใบไม้เขียว จาก จ.กระบี่ ประมาณ 7-8 คน ได้เข้ามาในพื้นที่ข่มขู่จะตัดโพงพาง ทำให้ชาวบ้านกลัวว่าจะมีการสั่งตัดฟันทำลาย และจับกุมชาวบ้าน จึงรวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้ทางจังหวัดผ่อนผันการจับกุมออกไปก่อน 1 ปี และให้หาอาชีพอื่นตามความถนัดมารองรับ
ทั้งนี้จากการที่จังหวัดได้เรียกชาวบ้านที่ทำโพงพาง ร่วมหารือแก้ไขปัญหาการทำประมงด้วยเครื่องมือโพงพาง เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นอาชีพอื่นตามถนัดที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลเมืองกันตัง เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านเห็นว่า ไม่ได้หาทางออกให้กับชาวบ้านระดับรากหญ้า กลับเป็นการซ้ำเติมทำให้ชาวบ้านหวาดผวาเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากเห็นว่า กฏหมายที่ประกาศบังคับใช้ไม่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม และไม่มีองค์กรเข้ามารองรับการปรับเปลี่ยนอาชีพอื่นเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กลับชาวบ้านอย่างแท้จริง ดังนั้นหากรัฐเข้ามาดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจัง เชื่อว่าต่อไปชาวบ้านจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินโดยไม่ต้องหวาดผวากลัวว่าจะถูกจับกุมอีก
นายสุชิน สธาชีวะ ป้องกัน จ.ตรัง กล่าวว่า ที่ผ่านมานายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มีประกาศห้ามใช้เครื่องมือโพงพางในการทำประมง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.54 แต่ปรากฏว่าบางพื้นที่ยังคงมีการลักลอบทำผิดกฎหมายอยู่ ซึ่งจังหวัดก็ได้ผ่อนผันชะลอมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าในช่วงดังกล่าว มีหลายพื้นที่ เช่น อ.กันตังได้ถูกเรือตรวจการณ์ใบไม้เขียว เข้าตัดฟันทำลายโพงพางชาวบ้านไปแล้ว 125 ปาก จำนวน 12 ราย ซึ่งรวมถึง อ.สิเกา อ.หาดสำราญ ส่วน ต.ท่าข้าม ยังโชคดีที่ยังไม่มีการเข้าไปตัดฟันทำลาย แม้ที่ผ่านมาจังหวัดพยายามขอชะลอการจับกุมและตัดฟันทำลายกับทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งทางหน่วยงานเกี่ยวข้องยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางจังหวัดยืนยันว่าแม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังจะไม่มีอำนาจในการสั่งการเรือใบไม้เขียวให้ชะลอตัดฟันทำลายโพงพาง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ ดังนั้นเบื้องต้นชาวบ้านควรจะรวมตัวเสนอข้อเรียกร้องพูดคุยกับ ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่า จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า ขณะเดียวกันจังหวัดพยายามเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำประชาคมหาอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านพร้อมกับรวบรวมรายชื่อส่งมาจังหวัด เพื่อเสนอของบประมาณในการปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านโดยเร่งด่วน
ต่อมา นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงก็ได้เข้ามาเจรจากับกลุ่มชาวบ้านและรับปากว่า จะส่งเรื่องที่ชาวบ้านขอผ่อนผันการตัดฟันทำลายโพงพางในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน ภายในระยะเวลา 1 ปี ระหว่างที่จังหวัดหาอาชีพอื่นมารองรับ ไปยัง นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจะให้คำตอบกับชาวบ้านภายใน 10 วัน ว่า ทาง นายสุวิทย์ จะยินยอมตามข้อเสนอของชาวบ้านหรือไม่ ในที่สุดชาวบ้านพอใจและสลายตัวในที่สุด
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ศาลากลาง จ.ตรัง นายวุฒิพงศ์ สาเล้ เลขานุการนายก อบต.ท่าข้าม พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 2 และ 4 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 200 คน ที่ยึดอาชีพการทำโพงพาง ได้มารวมตัวชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องให้จังหวัดชะลอการผ่อนผันจับกุมผู้ที่ทำโพงพางออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีอาชีพอื่นรองรับ ต่อมากลุ่มผู้ประท้วงได้ส่งตัวแทนประมาณ 50 คน เข้าหารือเพื่อหาข้อสรุปกับทางนายสุชิน สุธาชีวะ ป้องกัน จ.ตรัง นายเฉลิมชัย จันดี ปลัดอาวุโส อ.ปะเหลียน นายสุริยะ วิฑูรย์พันธุ์ ประมง จ.ตรัง ที่ห้องประชุมพระยารัษฎา ชั้น 3 ศาลากลาง จ.ตรัง
นายวุฒิพงษ์ สาเล้ แกนนำชาวบ้าน ระบุว่า ขณะนี้ในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน ยังมีผู้ที่ทำโพงพางเหลืออยู่ 4 หมู่บ้าน จำนวน 150 ลำ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านก็ไม่อยากทำอาชีพนี้ เพราะทราบดีว่าผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จำเป็นต้องทำเพราะความอยู่รอดของครอบครัว โดยยืนยันว่าการทำโพงพางในพื้นที่ไม่มีนายทุนเข้ามาว่าจ้าง แต่ปรากฏว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเรือตรวจการณ์ใบไม้เขียว จาก จ.กระบี่ ประมาณ 7-8 คน ได้เข้ามาในพื้นที่ข่มขู่จะตัดโพงพาง ทำให้ชาวบ้านกลัวว่าจะมีการสั่งตัดฟันทำลาย และจับกุมชาวบ้าน จึงรวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้ทางจังหวัดผ่อนผันการจับกุมออกไปก่อน 1 ปี และให้หาอาชีพอื่นตามความถนัดมารองรับ
ทั้งนี้จากการที่จังหวัดได้เรียกชาวบ้านที่ทำโพงพาง ร่วมหารือแก้ไขปัญหาการทำประมงด้วยเครื่องมือโพงพาง เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นอาชีพอื่นตามถนัดที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลเมืองกันตัง เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านเห็นว่า ไม่ได้หาทางออกให้กับชาวบ้านระดับรากหญ้า กลับเป็นการซ้ำเติมทำให้ชาวบ้านหวาดผวาเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากเห็นว่า กฏหมายที่ประกาศบังคับใช้ไม่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม และไม่มีองค์กรเข้ามารองรับการปรับเปลี่ยนอาชีพอื่นเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กลับชาวบ้านอย่างแท้จริง ดังนั้นหากรัฐเข้ามาดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจัง เชื่อว่าต่อไปชาวบ้านจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินโดยไม่ต้องหวาดผวากลัวว่าจะถูกจับกุมอีก
นายสุชิน สธาชีวะ ป้องกัน จ.ตรัง กล่าวว่า ที่ผ่านมานายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มีประกาศห้ามใช้เครื่องมือโพงพางในการทำประมง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.54 แต่ปรากฏว่าบางพื้นที่ยังคงมีการลักลอบทำผิดกฎหมายอยู่ ซึ่งจังหวัดก็ได้ผ่อนผันชะลอมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าในช่วงดังกล่าว มีหลายพื้นที่ เช่น อ.กันตังได้ถูกเรือตรวจการณ์ใบไม้เขียว เข้าตัดฟันทำลายโพงพางชาวบ้านไปแล้ว 125 ปาก จำนวน 12 ราย ซึ่งรวมถึง อ.สิเกา อ.หาดสำราญ ส่วน ต.ท่าข้าม ยังโชคดีที่ยังไม่มีการเข้าไปตัดฟันทำลาย แม้ที่ผ่านมาจังหวัดพยายามขอชะลอการจับกุมและตัดฟันทำลายกับทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งทางหน่วยงานเกี่ยวข้องยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางจังหวัดยืนยันว่าแม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังจะไม่มีอำนาจในการสั่งการเรือใบไม้เขียวให้ชะลอตัดฟันทำลายโพงพาง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ ดังนั้นเบื้องต้นชาวบ้านควรจะรวมตัวเสนอข้อเรียกร้องพูดคุยกับ ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่า จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า ขณะเดียวกันจังหวัดพยายามเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำประชาคมหาอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านพร้อมกับรวบรวมรายชื่อส่งมาจังหวัด เพื่อเสนอของบประมาณในการปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านโดยเร่งด่วน
ต่อมา นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงก็ได้เข้ามาเจรจากับกลุ่มชาวบ้านและรับปากว่า จะส่งเรื่องที่ชาวบ้านขอผ่อนผันการตัดฟันทำลายโพงพางในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน ภายในระยะเวลา 1 ปี ระหว่างที่จังหวัดหาอาชีพอื่นมารองรับ ไปยัง นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจะให้คำตอบกับชาวบ้านภายใน 10 วัน ว่า ทาง นายสุวิทย์ จะยินยอมตามข้อเสนอของชาวบ้านหรือไม่ ในที่สุดชาวบ้านพอใจและสลายตัวในที่สุด
