ยะลา - รองผอ.รมน.ภาค 4 ชี้ กลุ่มพ่อค้ายาเสพติด และน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่เป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุนให้กับขบวนการก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและดึงกำลังเจ้าหน้าที่ไปทางอื่น ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายของเถื่อน ชี้ หากทางกองทัพสามารถสกัดกั้นแหล่งสนับสนุนเงินทุนทางนี้ได้ กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะลดขีดความสามารถลง
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยภายหลังจากหน่วยกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้เปิดยุทธการกวาดล้างขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน และยาเสพติด ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ว่า จากการตรวจสอบด้านการข่าวในหลายๆด้าน พร้อมกับยืนยันแล้วว่า กลุ่มพ่อค้ายาเสพติด และค้าน้ำมันเถื่อนมีการเชื่อมโยงด้านการให้การสนับสนุนด้านการเงินให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ชุมชนได้มากขึ้น เพื่อจูงความสนใจต่อเหตุการณ์ ให้เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังในการดำเนินการปราบปราม แล้วถือโอกาสขับเคลื่อนขนย้ายของเถื่อนเหล่านี้อย่างเร่งด่วน
ดังนั้น ทาง กอ.รมน.ภาค 4 จำเป็นต้องทำการสกัดกั้นการขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศให้ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง พร้อมกับใช้กฎอัยการศึกต่อขบวนการผู้ค้า เพื่อให้การทำงานของฝ่ายทหาร สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานถูกต้องตามกฎหมายในการตรวจค้น ปิดล้อมได้อย่างสะดวก และจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าของเถื่อนและยาเสพติดมาควบคุมในที่ที่เตรียมไว้ได้ และทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
เมื่อมีการปรากฏว่า มีความจริงในการกระทำความผิดแล้ว ดำเนินการส่งให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายทางอาญากันต่อไป ซึ่งการใช้กฏอัยการศึกเป็นการปฏิบัติการทันต่อเหตุการณ์ในการสกัดกั้นของขบวนการที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายและความเดือดร้อนต่อประชาชนได้ โดยเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ ได้หลอกใช้กลุ่มเยาวชน ในการก่อเหตุร้ายต่างๆ หรือทำการขนย้ายยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ก็ดี หรือขนย้ายน้ำมันเถื่อนก็ดี
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ที่ถูกจับกุม หรือต่อจิกซอว์ การให้ข้อมูลของผู้ที่เข้ามามอบตัวกับทางการ ได้ความว่า หากทางกองทัพสามารถสกัดกั้นแหล่งสนับสนุนเงินทุนทางนี้ได้ กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะลดขีดความสามารถลง ส่วนการดำเนินการทางคดีต่อกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังนั้น ทางฝ่ายทหารจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่งมอบให้ทางตำรวจดำเนินการทางคดีอาญาต่อไป
ส่วนในอนาคต นั้น ทาง กองทัพภาคที่ 4 มีแผนการดำเนินการใช้กฎอัยการศึกในปราบปรามกลุ่มทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หรือหากเห็นว่าสิ่งใดที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัฐ ทางกองทัพจะดำเนินการในทุกเรื่อง
ส่วนกรณีเกิดเหตุร้ายเป็นคาร์บอมบ์ หรือเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในพื้นที่นั้น รองผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า โดยหลักการปฏิบัติงานในขณะนี้นั้น ทางฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครองจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเขตชุมชนเมือง โดยพื้นที่ป่าเขาหรือรอยต่อพื้นที่เขตเมืองกับอำเภอ ทางทหารจะเป็นผู้ดูแล ส่วนในเขตป่าลึกจะใช้กำลังทหารพรานที่คุ้นเคยพื้นที่ในการปฏิบัติการ เพื่อจำกัดเขตพื้นที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ในขณะเดียวกันก็ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนทางด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปด้วย
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยภายหลังจากหน่วยกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้เปิดยุทธการกวาดล้างขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน และยาเสพติด ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ว่า จากการตรวจสอบด้านการข่าวในหลายๆด้าน พร้อมกับยืนยันแล้วว่า กลุ่มพ่อค้ายาเสพติด และค้าน้ำมันเถื่อนมีการเชื่อมโยงด้านการให้การสนับสนุนด้านการเงินให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ชุมชนได้มากขึ้น เพื่อจูงความสนใจต่อเหตุการณ์ ให้เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังในการดำเนินการปราบปราม แล้วถือโอกาสขับเคลื่อนขนย้ายของเถื่อนเหล่านี้อย่างเร่งด่วน
ดังนั้น ทาง กอ.รมน.ภาค 4 จำเป็นต้องทำการสกัดกั้นการขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศให้ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง พร้อมกับใช้กฎอัยการศึกต่อขบวนการผู้ค้า เพื่อให้การทำงานของฝ่ายทหาร สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานถูกต้องตามกฎหมายในการตรวจค้น ปิดล้อมได้อย่างสะดวก และจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าของเถื่อนและยาเสพติดมาควบคุมในที่ที่เตรียมไว้ได้ และทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
เมื่อมีการปรากฏว่า มีความจริงในการกระทำความผิดแล้ว ดำเนินการส่งให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายทางอาญากันต่อไป ซึ่งการใช้กฏอัยการศึกเป็นการปฏิบัติการทันต่อเหตุการณ์ในการสกัดกั้นของขบวนการที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายและความเดือดร้อนต่อประชาชนได้ โดยเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ ได้หลอกใช้กลุ่มเยาวชน ในการก่อเหตุร้ายต่างๆ หรือทำการขนย้ายยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ก็ดี หรือขนย้ายน้ำมันเถื่อนก็ดี
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ที่ถูกจับกุม หรือต่อจิกซอว์ การให้ข้อมูลของผู้ที่เข้ามามอบตัวกับทางการ ได้ความว่า หากทางกองทัพสามารถสกัดกั้นแหล่งสนับสนุนเงินทุนทางนี้ได้ กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะลดขีดความสามารถลง ส่วนการดำเนินการทางคดีต่อกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังนั้น ทางฝ่ายทหารจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่งมอบให้ทางตำรวจดำเนินการทางคดีอาญาต่อไป
ส่วนในอนาคต นั้น ทาง กองทัพภาคที่ 4 มีแผนการดำเนินการใช้กฎอัยการศึกในปราบปรามกลุ่มทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หรือหากเห็นว่าสิ่งใดที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัฐ ทางกองทัพจะดำเนินการในทุกเรื่อง
ส่วนกรณีเกิดเหตุร้ายเป็นคาร์บอมบ์ หรือเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในพื้นที่นั้น รองผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า โดยหลักการปฏิบัติงานในขณะนี้นั้น ทางฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครองจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเขตชุมชนเมือง โดยพื้นที่ป่าเขาหรือรอยต่อพื้นที่เขตเมืองกับอำเภอ ทางทหารจะเป็นผู้ดูแล ส่วนในเขตป่าลึกจะใช้กำลังทหารพรานที่คุ้นเคยพื้นที่ในการปฏิบัติการ เพื่อจำกัดเขตพื้นที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ในขณะเดียวกันก็ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนทางด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปด้วย
