ตรัง - เด็กสาว ม.4 พยานปากเอกในความคุ้มครอง คดีพ่อแม่และเจ้าตัวถูกถล่มเอ็ม 16 ถูกลูกน้องของ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผกก.สภ.เมืองพัทลุง โปะยาสลบจากพัทลุงอุ้มมาทิ้งไว้ลานจอดรถหน้าห้างโรบินสันตรัง เผยเป็นการดิสเครดิ ที่สั่งย้ายลูกน้องคนหนึ่งไปดูแลความปลอดภัยของธนาคาร และเตรียมเสนอชื่อย้ายออกนอกพื้นที่
วันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 00.15 น. ร.ต.ท.จรูญ สังขารา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งจาก พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ว่า มีเด็กสาวถูกมอมยา และถูกลักพาตัวมาทิ้งไว้ที่บริเวณคิวรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าห้างโรบินสัน สาขาตรัง บนถนนสายตรัง-พัทลุง ตำบลทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง
เมื่อไปถึงพบ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ พร้อมตำรวจกว่า 10 นาย ได้นำตัว น.ส.ปานทิพย์ ขุนทอง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง ซึ่งนอนสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยาสลบนำส่งโรงพยาบาลตรัง เพื่อให้แพทย์รักษาอาการโดยเร่งด่วน ขณะเดียวกัน ได้เข้าตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้าย แต่ไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิดของห้างติดตั้งในบริเวณจุดที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ได้เพียงเบาะแสจากพนักงานของร้านเอ็ม.เค.ภายในห้างโรบินสัน สาขาตรัง ที่ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 18 เมษายน เห็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 27 ปี สูงประมาณ 160 ซม.ผิวคล้ำ ลงพุง ได้ฉุดกระชากลากถูผู้หญิงคนหนึ่งตรงจุดเกิดเหตุ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน และอาจมีเรื่องทะเลาะกันเล็กน้อย ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้เสียหาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดไปที่โรงพยาบาลตรัง เพื่อดูอาการของ น.ส.ปานทิพย์ โดยแพทย์ระบุว่า เด็กถูกวางยาสลบไปนานกว่า 3 ชม.พอฟื้นขึ้นมาก็มีอาการสะลึมสะลือ เบลอๆ และร่างกายยังอ่อนเพลีย ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างน้อย 1 คืน และตรวจหาร่องรอยว่าถูกข่มขืนกระทำชำเราด้วยหรือไม่ แต่ทาง นายลิขิต และ นางจำเนียร ซึ่งเป็นพ่อและแม่ เป็นห่วงบุตรสาว เพราะเกรงไม่ปลอดภัย โดยต้องการนำบุตรสาวกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันจะให้ความคุ้มครองเป็นอย่างดี
พ.ต.อ.ตรีวิทย์ เปิดเผยว่า สำหรับ น.ส.ปานทิพย์ ผู้เสียหายนั้นเป็นพยานปากเอกในคดีที่มีกลุ่มคนร้าย 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 กราดยิงถล่มพร้อมกับพ่อและแม่ ขณะที่ขับรถจาก อ.ปากพะยูน มุ่งหน้ากลับบ้านพักในตัวเมืองพัทลุง เหตุเกิดบนถนนสายตำนาน-พัทลุง หมู่ 7 ต.ตำนาน อ.เมืองพัทลุง เมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 27 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้ร้องขอความคุ้มครองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าไม่ปลอดภัยในชีวิต ตนจึงได้ให้เข้ามาพักอาศัยในแฟลตตำรวจ ในช่วงระหว่างที่ยังติดตามจับกุมคนร้าย กระทั่งก่อนเกิดเหตุ น.ส.ปานทิพย์ ได้ไปเรียนพิเศษที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขากลับได้ลงจากรถโดยสารที่จุดจอดรถประจำทางบ้านท่ามิหรำ เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 18 เมษายน จากนั้น ได้เดินข้ามไปยังอีกฝั่งเพื่อโทรศัพท์ให้พ่อมารับกลับบ้านที่แฟลตตำรวจ แต่ยังไม่ทันไร ก็ถูกโปะยาสลบ มารู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ลานจอดรถหน้าห้างโรบินสัน สาขาตรังแล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปบอกพ่อให้มาช่วยเหลือ
พ.ต.อ.ตรีวิทย์ เปิดเผยอีกว่า ในช่วงระหว่างที่ น.ส.ปานทิพย์ ถูกคนร้ายโปะยาสลบนั้น นายลิขิต ซึ่งเป็นพ่อได้พยายามโทรศัพท์หาลูกสาว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนทราบว่า ลูกสาวถูกวางยา และโดนอุ้มไป ประกอบกับหลังก่อเหตุคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของ น.ส.ดวงเดือน ซึ่งเป็นพี่สาวที่กำลังอบรมอยู่ที่กรุงเทพฯ ว่า “ให้เตรียมรับศพน้องสาวได้เลย” ซึ่งทาง น.ส.ดวงเดือน ก็ได้ส่งข้อความดังกล่าว กลับมาหาพ่อและส่งเข้าเครื่องตนด้วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแกะรอยตรวจเช็คจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อตรวจสอบหาจุดที่ผู้เสียหายอยู่ และก็พบว่าอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง จึงประสานกับท้องที่เพื่อติดตามหาตัวผู้เสียหายจนพบ
ส่วนสาเหตุที่คนร้ายวางยาสลบอุ้มเหยื่อสาวมาทิ้งไว้นั้น พ.ต.อ.ตรีวิทย์ เปิดเผยว่า ไม่เกี่ยวกับคดีที่พ่อและแม่ถูกลอบยิง แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานพอจะทราบว่า เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องของตนที่ไม่พอใจ เนื่องจากถูกตนสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ประจำธนาคารอย่างถาวร และเตรียมเสนอชื่อย้ายออกนอกจังหวัดพัทลุง เนื่องจากมีความประพฤติไม่เรียบร้อย มีนิสัยเกเร และไม่ค่อยทำงาน จึงวางแผนนำกระดาษที่มีข้อความเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องชู้สาวไปติดที่หลังบ้านของผู้เสียหาย
จากนั้นไม่นานก็โปะยาสลบลักพาตัวพยานปากเอก ซึ่งอยู่ในความคุ้มครองดูแลของตน เพื่อต้องการดิสเครดิตโดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะฆ่าเด็กสาว ซึ่งจะได้ติดตามไล่ล่าตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ นายลิขิต ผู้เป็นพ่อ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า สาเหตุที่ตนถูกยิงก่อนหน้านี้มาจากถูกกล่าวหาว่าไปแย่งที่ดิน และมีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของกลุ่มคนร้ายที่ยิงถล่มตนจึงทำให้ถูกลอบยิงดังกล่าว