นครศรีธรรมราช - ทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมเมืองคอนอย่างต่อเนื่อง ใช้ ฮ.ชีนุก บินยกสะพานเชื่อมถนนหลายสายสัญจรได้แล้ว ขณะที่ชาวบ้านพบรอยแยกใหม่ แถมฝนมาอีกระลอก วันที่ 8-12 เม.ย.นี้ ตามอุตุฯพยากรณ์หวั่นถล่มเพิ่ม ส่วนผู้อพยพในศูนย์ ร.ร.นบพิตำ เหลืออีก 162 คน ประธานหอการค้านครศรีฯ วอนนายกฯ เร่งฟื้นฟูระบบเกษตรกรรม-สถาบันการเงินผ่อนชำระหนี้ ขณะที่ครูหนุ่มเครียดน้ำท่วมกระโดดแม่น้ำตาปีฆ่าตัวตายยังไม่เจอศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่นครศรีธรรมราช วันนี้ (8 เม.ย.) ว่า การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูเปิดทางสัญจรในพื้นที่ อ.นบพิตำ ที่ถูกตัดขาดจากกระแสน้ำป่า จากเทือกเขาหลวงปริมาณมหาศาลนับสิบจุดในพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่มีสะพานข้ามธารน้ำสายต่างๆ โดยทีมทหารช่างจากกรมกองต่างๆ เกือบ 1,000 นาย
นายเดชา กังสะนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย อ.นบพิตำ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้ ฮ.ลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปอีกหลายหมู่บ้าน เนื่องจากยังไม่สามารถเดินทางด้วยรถได้ และยังเข้าไม่ถึงแม้แต่รถโฟร์วีล เช่น หมู่ 3 หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่ 8 ต.นบพิตำ การช่วยเหลือต้องใช้ ฮ.เป็นหลักแต่น้อยลง เพราะเส้นทางใช้การไม่ได้ ขณะนี้ต้องรอสะพานแบริ่งที่จะขนส่งมาถึงเป็นสะพานขนาดใหญ่ยาว 24 เมตร 3 ท่อน จากนั้นจะใช้ ฮ.ชีนุก บินหิ้วขึ้นไปวางตามจุดเชื่อมต่างๆ
พล.ต.เดชา กิ่งวงษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า วันนี้ได้มีกำลังพลจากหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ ที่ 43 จ.พัทลุง จำนวนหนึ่งพร้อมเครื่องจักรกลหนัก ได้เดินทางมาร่วมสมทบกับกำลังทหารช่างของกรมทหารช่างราชบุรี และเจ้าหน้าที่แขวงการทางนครศรีธรรมราช ได้เร่งระดมการซ่อมสะพานและถนนที่ถูกตัดขาดในพื้นที่ ต.กรุงชิง อีกหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ ม.3, 6, 7 และ 8 ต.กรุงชิง ยังถูกตัดขาดอยู่
จุดที่เจ้าหน้าที่ทหารช่างกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อซ่อมเชื่อมต่อสะพานข้ามคลองบ้านปากลง ม.5 และ ม.6 ต.กรุงชิง ซึ่งสะพานขาดเป็นระยะทางยาวถึง 100 เมตร เจ้าหน้าที่กำลังเร่งใช้สะพานแบริ่งจำนวน 3 ท่อนมาต่อเชื่อมกัน เพื่อซ่อมสะพานบ้านปากลงให้ได้ภายในวันนี้ (8 เม.ย.) แต่ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก คาดว่า หากใช้สะพานแบริ่ง 3 ท่อนเชื่อมต่อกันได้ก็จะสามารถเปิดเส้นทางสายหลักเข้าไปในพื้นที่ ต.กรุงชิง ได้ตลอดสาย
รวมทั้งวันนี้ ทหารช่างยังนำรถแบ็กโฮ และรถแทรกเตอร์ กรุยดินที่สไลด์ลงมาทับปิดถนนในพื้นที่ ต.กรุงชิง หลายจุดเพื่อเปิดเส้นทางสายหลักให้มีการสัญจรไปมาได้สะดวกแล้วในวันนี้ เพราะบางจุดมีดินสไลด์ลงมาถล่มปิดถนนเหลือเพียง 1 เมตรเท่านั้น เมื่อเปิดเส้นทางให้กว้างขึ้นแล้วก็จะสามารถสัญจรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
พบรอยแยกใหม่หวั่นฝนมาอีกระลอก
8-12 เม.ย.ตามอุตุฯพยากรณ์ทำถล่มเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แจ้งทางเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการพบรอยแยกจุดที่ 3 บนภูเขาแห่งใหม่บนยอดเขาเหล็ก ม.1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย อ.นบพิตำ และชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันเดินทางบินขึ้นไปตรวจสอบ พบว่า รอยแยกดังกล่าวอยู่บนยอดเขาเหล็ก ม.1 ต.กรุงชิง ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร กว้าง 1 เมตร ส่วนความลึกนั้นยังไม่สามารถวัดได้
รอยแยกใหม่แห่งนี้เป็นจุดที่ 3 ที่มีการตรวจพบ โดยอยู่ห่างจากจุดรอยแยกจุดที่ 1 ที่พบครั้งแรกประมาณ 1 กม.เมื่อหลายวันก่อน และพบรอยแยกที่ 2 บนยอดเขาหวายช่อ ม.2 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ และวันนี้ (8 เม.ย.) ก็มาพบรอยแยกที่ 3 เป็นจุดรอยแยกแห่งใหม่ พล.ต.เดชา กิ่งวงษา รอง มทภ.4 และ นายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบรอยแยกดังกล่าวอย่างละเอียด และอพยพราษฎร ที่อยู่บริเวณเชิงเขาใกล้รอยแยกดังกล่าวไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
“เอ๋ สันติภาพ” ร่วมฟรีคอนเสิร์ต
พร้อมหนังตะลุงปลอบใจชาวนบพิตำ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (8 เม.ย.) นายสมพงษ์ จิตรเที่ยง อายุ 35 ปี หรือ “หลวงไก่” นักร้องชื่อดังได้เดินทางมาเยี่ยมราษฎรที่ศูนย์อพยพ ร.ร.นบพิตำวิทยา อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งมอบผ้าห่มจำนวน 100 ผืน เพื่อนำไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้มีนักศึกษาจากศูนย์นักศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง (กทม.) ร่วมกับเยาวชนกลุ่มนาครธิปไตย ได้ร่วมกันจัดแสดงคอนเสิร์ตงานลูกหลานห่วงใยส่งกำลังใจถึงบ้าน โดยมีศิลปินนักร้องชื่อดัง คือ เอ๋ สันติภาพ และหนังตะลุงมนต์ชัยตะลุงสากล และกิจกรรมภาคบันเทิงมากมายมาแสดงเพื่อกล่อมปลอบขวัญราษฎร ที่ประสบภัยในศูนย์อพยพ รร.นบพิตำวิทยา ในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) เป็นฟรีคอนเสิร์ต คาดว่า จะมีชาว อำเภอนบพิตำมาชมการแสดงเพื่อคลายเครียดจำนวนมาก
ผู้อพยพในศูนย์ รร.นบพิตำ เหลือ 162 คน
หลังถนนสามารถสัญจรได้
พ.อ.สมชาย ภุมรินทร์ รองเสนาธิการ ทภ.4 กล่าวว่า วันนี้ (8 เม.ย.) ภารกิจใช้ ฮ.เพื่อขนอพยพผู้ประสบภัยได้หยุดแล้ว เพราะไม่มีผู้อพยพออกมาแล้ว แต่วันนี้เน้นใช้ ฮ.ขนน้ำดื่มและข้าวสารอาหารแห้งและอุปกรณ์ต่างๆ ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ที่ยังถูกตัดขาดใน ม.3 ม.6 ม.7 และ ม.8 ต.กรุงชิง เพราะยังสัญจรไปทางภาคพื้นดินไม่ได้ จากสะพานและถนนในหมู่บ้านดังกล่าวยังถูกตัดขาดอยู่ และขณะนี้มีจำนวนผู้อพยพที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยที่ รร.นบพิตำวิทยา ได้เหลือเพียง 162 คนเท่านั้น จากทั้งหมด 777 คน เพราะยังไม่สามารถกลับเข้าไปในหมู่บ้านตนเองได้เส้นทางยังถูกตัดขาดอยู่ ส่วนที่กลับไปแล้วก็ทราบว่า ที่หมู่บ้านตัวเองสามารถสัญจรไปมาได้แล้ว จึงอพยพกลับไปแล้วจำนวนมาก
กำนันสิชลเตรียมร้อง “มาร์ค”
ขอ นอภ.-บ้านน็อกดาวน์-เงิน 5 พันที่ค้างจ่าย
นายสมหมาย ชลสินธ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ อ.สิชล และอ.นบพิตำ ตนจะเสนอขอนายอำเภอประจำอำเภอนพพิตำหลัง ตำแหน่งว่างเว้นมาร่วม 6 เดือนแล้ว และขอบ้านน็อกดาวน์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ที่บ้านพังอย่างสิ้นเชิงโดยเร่งด่วน และจะขอเงิน 5,000 บาท ที่ยังค้างจ่ายประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ อ.สิชล จากครั้งที่แล้วและมาครั้งนี้อีก ซึ่งขอให้เร่งรัดและรีบแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รวมไปถึงเรื่องของการทำกินในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายด้วย
ปธ.หอการค้าวอนนายกฯ เร่งฟื้นฟูระบบเกษตรกรรม
สถาบันการเงินผ่อนชำระหนี้
นายบุญทวี ริเริ่มสุนทร ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขอให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน มีความซาบซึ้งใจผู้ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ สำหรับผลกระทบมีหลายด้าน แต่ที่หนักที่สุดคือด้านเกษตรกรรรม ผลผลิตของเกษตรกรถึงเวลาเก็บเกี่ยว แต่ถูกน้ำท่วมเสียหาย คิดว่ารัฐบาลควรช่วยเหลือเกษตรกรก่อนเป็นลำดับแรก
สำหรับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนตกตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมจนถึงปลายเดือน ทำให้การค้าขายลดลงไป 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลขายสินค้า ทำกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัด แต่เกิดภาวะน้ำท่วม สร้างผลกระทบอย่างฉับพลัน คาดว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นในไม่ช้านี้
มาตรการในการช่วยเหลือ หอการค้านครศรีธรรมราชกับหอการค้าไทย ได้ประชุมแล้วมีแนวทางที่จะเสนอรัฐบาล เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขอให้สถาบันการเงิน ควรผ่อนปรนหรือผ่อนผันการชำระหนี้แก่เกษตรกรและผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ทดแทนแก่ผู้ประกอบการ ที่ต้องสูญเสียรายได้ไปจากภาวะน้ำท่วม เป็น 2 มาตรการหลักที่เราผลักดัน รวมทั้งในการซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกมากขึ้น การท่องเที่ยวจะได้กลับฟื้นขึ้นมา
ครูหนุ่มเครียดน้ำท่วมกระโดดแม่น้ำตาปียังไม่เจอศพ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 เม.ย.) พ.ต.ท.ธวัชชัย ดีลิ่น สวส.สภ.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนกระโดดลงแม่น้ำตาปีหวังฆ่าตัวตาย เหตุเกิดบริเวณริมฟุตปาทสวนสาธารณะตลาดทานพอ หมู่ที่ 3 ต.ไม้เรียง หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ไม้เรียง นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง และหน่วยกู้ภัยฉวาง ร่วมกันไปสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสวนสาธารณะตลาดทานพอ ริมแม่น้ำตาปี ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่าที่ริมผนังกั้นฟุตบาทติดแม่น้ำตาปี มีกระเป๋าเสื้อผ้าใบหนึ่งวางอยู่ที่พื้นฟุตปาท ในกระเป๋ามีแต่เสื้อผ้าแว่นตาและโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนละแวกดังกล่าว ซึ่งมีคนงานของโรงเลื่อยทานพอ ใกล้สวนสาธารณะแจ้งกับตำรวจ ว่า ก่อนหน้านี้ ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนเหม่อลอยอยู่ที่ริมตลิ่งแม่น้ำตาปีเป็นเวลานานจู่ๆ ชายคนดังกล่าวปีนขึ้นผนังกั้นริมตลิ่งแล้วกระโดดลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากคนงานที่เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งมายังจุดที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะช่วยเหลือแต่ก็ไม่สามารถจะช่วยเหลือได้เห็นแต่ร่างชายคนดังกล่าวถูกกระแสน้ำไหลม้วนร่างชายคนดังกล่าวจมหายไปต่อหน้าต่อตา
ต่อมาได้มี นายวินัย ธรฤทธิ์ อายุ 47 ปี ซึ่งเปิดร้านค้าอยู่ในตลาดทานพอ ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง เข้าพบตำรวจที่ สภ.ไม้เรียง และขอดูกระเป๋าเสื้อผ้าของชายที่กระโดดลงแม่น้ำ แล้วแจ้งกับตำรวจว่าชายที่กระโดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตาย คือ นายวิทยา เทพบุรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1796/18 ถนนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนมารีย์พิทักษ์ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้เดินทางมาหาและพักอยู่ที่บ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งปกตินายวินัยจะเป็นคนที่เงียบขรึมไม่ค่อยพูดและเมื่อคืนนี้บอกว่าเครียดมาก เพราะที่บ้านถูกน้ำท่วมเสียหายหมดแล้วไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งรุ่งเช้าได้บอกว่า จะเดินทางกลับบ้านแล้วออกจากบ้านไป กระทั่งได้ยินคนพูดกันว่ามีคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ด้วยความสงสัยจึงมาตรวจสอบที่โรงพักเพื่อที่ดูว่าเป็นใคร จนมาทราบว่าเป็นนายวินัยเพื่อนรักของตน ซึ่งสันนิษฐานสาเหตุกระโดดแม่น้ำตาปีครั้งนี้ อาจจะเกิดความเครียดจากน้ำท่วมบ้านเสียหายจนหมดเนื้อหมดตัว จึงคิดฆ่าตัวตาย ล่าสุดขณะนี้ยังไม่พบร่างนายวินัยแต่อย่างใด
ผู้ว่าฯนครศรีฯลงพื้นที่ อ.สิชล
นำถุงของขวัญพระราชทานแจกคนสูงอายุ
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับมอบหมายให้นำถุงยังชีพพระราชทานมอบให้แก่ผู้สูงอายุที่ประสบภัย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้สูงอายุ โดยมีผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี และสูงสุด 96 ปี มารับถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 72 คน และรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับถุงยังชีพพระราชทานในครั้งนี้ ทำให้มีกำลังใจ และมีความเข้มแข็งขึ้น ที่จะต่อสู้ชีวิตเคียงไหล่บุตรหลานต่อไป ซึ่งในพื้นที่ตำบลฉลอง อำเภอสิชล ถือว่าได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้มากอีกจุดหนึ่ง
เผย 23 อำเภอ โดยเฉพาะนบพิตำ สิชล
ได้รับผลกระทบมากสุด
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ดินสไลด์ ที่หมู่ที่ 10 ตำบลเทพราช อำเภอสิชล ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากสุด 2 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 10 และ 15 จำนวน 250 ครัวเรือน ประมาณ 400 คน เกิดดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลัง
สำรวจได้ขณะนี้ของอำเภอสิชล จำนวน 98 หลัง จาก 9 ตำบล 110 หมู่บ้าน ทำให้สะพาน ถนนเสียหายกว่า 440 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณกว่า 320 ล้านบาท ขณะนี้ประชาชนในหลายหมู่บ้านไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ เนื่องจากสวนยางพารา พืชไร่ และสวนปาล์ม ได้รับความเสียหาย และต้องการให้ภาคส่วนต่างๆ เร่งเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการประกอบอาชีพ ซ่อมแซมถนน สะพานให้สามารถใช้งานได้โดยด่วน ส่วนผู้ที่ประสบภัย ทีมแพทย์สาธารณสุขได้ลงพื้นที่เข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจแล้ว
เทศบาลนครนครศรีฯ
เคลื่อนย้ายจระเข้กลับบ่อเลี้ยง
ที่สวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช นายสัตวแพทย์ นพราช อินทร์ทองคำ สัตวแพทย์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ควบคุมการเคลื่อนย้ายจระเข้ในส่วนของสวนสัตว์ที่หลุดออกไป โดยใช้รถเครนยกจระเข้ขนาดความยาวกว่า 3 เมตร น้ำหนัก 200 กก.ที่จับได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขึ้นมาจากน้ำ และจะข้ามถนนเพื่อไปยังบึงน้ำฝั่งตรงข้าม และอีกตัวที่มีความยาวเกือบ 4 เมตร น้ำหนักกว่า 250 กก.ที่จับได้เมื่อหลายวันก่อน ใส่ในกรงเลี้ยงภายในสวนสัตว์ ซึ่งจระเข้ทั้งสองตัวนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับได้ภายในบริเวณสวนสัตว์
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสูงจนจระเข้สามารถหลุดหนีออกไปจากกรงขังภายในสวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ซึ่งสวนสัตว์ทุ่งท่าลาดมีจระเข้อยู่ทั้งหมด 11 ตัว หนีออกไปได้ จำนวน 10 ตัว และตายอยู่ภายในกรงขังอีก1 ตัว โดยล่าสุดในขณะนี้ได้รับรายงานว่าสามารถจับจระเข้ได้แล้ว 6 ตัว เป็นการจับตาย 4 และจับเป็น 2 ตัว ส่วนยังเหลือ 5 ตัว ทราบว่า จำนวน 3 ตัวอยู่ในบึงน้ำภายในสวนสัตว์ และอีก 2 ตัว ชาวบ้านพบเห็นอยู่ที่บริเวณคลองวัดโคกสะท้อน และภายในบ่อเลี้ยงปลาของประมงจังนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้ง 2 ที่อยู่ใกล้สวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามและเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานงานขอความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ที่พบเห็นจระเข้ ให้ช่วยแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูงทำให้เป็นอุปสรรค แต่ยังคงมีรายงานการปรากฏตัวของจระเข้ในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่นครศรีธรรมราช วันนี้ (8 เม.ย.) ว่า การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูเปิดทางสัญจรในพื้นที่ อ.นบพิตำ ที่ถูกตัดขาดจากกระแสน้ำป่า จากเทือกเขาหลวงปริมาณมหาศาลนับสิบจุดในพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่มีสะพานข้ามธารน้ำสายต่างๆ โดยทีมทหารช่างจากกรมกองต่างๆ เกือบ 1,000 นาย
นายเดชา กังสะนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย อ.นบพิตำ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้ ฮ.ลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปอีกหลายหมู่บ้าน เนื่องจากยังไม่สามารถเดินทางด้วยรถได้ และยังเข้าไม่ถึงแม้แต่รถโฟร์วีล เช่น หมู่ 3 หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่ 8 ต.นบพิตำ การช่วยเหลือต้องใช้ ฮ.เป็นหลักแต่น้อยลง เพราะเส้นทางใช้การไม่ได้ ขณะนี้ต้องรอสะพานแบริ่งที่จะขนส่งมาถึงเป็นสะพานขนาดใหญ่ยาว 24 เมตร 3 ท่อน จากนั้นจะใช้ ฮ.ชีนุก บินหิ้วขึ้นไปวางตามจุดเชื่อมต่างๆ
พล.ต.เดชา กิ่งวงษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า วันนี้ได้มีกำลังพลจากหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ ที่ 43 จ.พัทลุง จำนวนหนึ่งพร้อมเครื่องจักรกลหนัก ได้เดินทางมาร่วมสมทบกับกำลังทหารช่างของกรมทหารช่างราชบุรี และเจ้าหน้าที่แขวงการทางนครศรีธรรมราช ได้เร่งระดมการซ่อมสะพานและถนนที่ถูกตัดขาดในพื้นที่ ต.กรุงชิง อีกหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ ม.3, 6, 7 และ 8 ต.กรุงชิง ยังถูกตัดขาดอยู่
จุดที่เจ้าหน้าที่ทหารช่างกำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อซ่อมเชื่อมต่อสะพานข้ามคลองบ้านปากลง ม.5 และ ม.6 ต.กรุงชิง ซึ่งสะพานขาดเป็นระยะทางยาวถึง 100 เมตร เจ้าหน้าที่กำลังเร่งใช้สะพานแบริ่งจำนวน 3 ท่อนมาต่อเชื่อมกัน เพื่อซ่อมสะพานบ้านปากลงให้ได้ภายในวันนี้ (8 เม.ย.) แต่ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก คาดว่า หากใช้สะพานแบริ่ง 3 ท่อนเชื่อมต่อกันได้ก็จะสามารถเปิดเส้นทางสายหลักเข้าไปในพื้นที่ ต.กรุงชิง ได้ตลอดสาย
รวมทั้งวันนี้ ทหารช่างยังนำรถแบ็กโฮ และรถแทรกเตอร์ กรุยดินที่สไลด์ลงมาทับปิดถนนในพื้นที่ ต.กรุงชิง หลายจุดเพื่อเปิดเส้นทางสายหลักให้มีการสัญจรไปมาได้สะดวกแล้วในวันนี้ เพราะบางจุดมีดินสไลด์ลงมาถล่มปิดถนนเหลือเพียง 1 เมตรเท่านั้น เมื่อเปิดเส้นทางให้กว้างขึ้นแล้วก็จะสามารถสัญจรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
พบรอยแยกใหม่หวั่นฝนมาอีกระลอก
8-12 เม.ย.ตามอุตุฯพยากรณ์ทำถล่มเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แจ้งทางเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการพบรอยแยกจุดที่ 3 บนภูเขาแห่งใหม่บนยอดเขาเหล็ก ม.1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย อ.นบพิตำ และชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันเดินทางบินขึ้นไปตรวจสอบ พบว่า รอยแยกดังกล่าวอยู่บนยอดเขาเหล็ก ม.1 ต.กรุงชิง ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร กว้าง 1 เมตร ส่วนความลึกนั้นยังไม่สามารถวัดได้
รอยแยกใหม่แห่งนี้เป็นจุดที่ 3 ที่มีการตรวจพบ โดยอยู่ห่างจากจุดรอยแยกจุดที่ 1 ที่พบครั้งแรกประมาณ 1 กม.เมื่อหลายวันก่อน และพบรอยแยกที่ 2 บนยอดเขาหวายช่อ ม.2 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ และวันนี้ (8 เม.ย.) ก็มาพบรอยแยกที่ 3 เป็นจุดรอยแยกแห่งใหม่ พล.ต.เดชา กิ่งวงษา รอง มทภ.4 และ นายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบรอยแยกดังกล่าวอย่างละเอียด และอพยพราษฎร ที่อยู่บริเวณเชิงเขาใกล้รอยแยกดังกล่าวไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
“เอ๋ สันติภาพ” ร่วมฟรีคอนเสิร์ต
พร้อมหนังตะลุงปลอบใจชาวนบพิตำ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (8 เม.ย.) นายสมพงษ์ จิตรเที่ยง อายุ 35 ปี หรือ “หลวงไก่” นักร้องชื่อดังได้เดินทางมาเยี่ยมราษฎรที่ศูนย์อพยพ ร.ร.นบพิตำวิทยา อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งมอบผ้าห่มจำนวน 100 ผืน เพื่อนำไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้มีนักศึกษาจากศูนย์นักศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง (กทม.) ร่วมกับเยาวชนกลุ่มนาครธิปไตย ได้ร่วมกันจัดแสดงคอนเสิร์ตงานลูกหลานห่วงใยส่งกำลังใจถึงบ้าน โดยมีศิลปินนักร้องชื่อดัง คือ เอ๋ สันติภาพ และหนังตะลุงมนต์ชัยตะลุงสากล และกิจกรรมภาคบันเทิงมากมายมาแสดงเพื่อกล่อมปลอบขวัญราษฎร ที่ประสบภัยในศูนย์อพยพ รร.นบพิตำวิทยา ในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) เป็นฟรีคอนเสิร์ต คาดว่า จะมีชาว อำเภอนบพิตำมาชมการแสดงเพื่อคลายเครียดจำนวนมาก
ผู้อพยพในศูนย์ รร.นบพิตำ เหลือ 162 คน
หลังถนนสามารถสัญจรได้
พ.อ.สมชาย ภุมรินทร์ รองเสนาธิการ ทภ.4 กล่าวว่า วันนี้ (8 เม.ย.) ภารกิจใช้ ฮ.เพื่อขนอพยพผู้ประสบภัยได้หยุดแล้ว เพราะไม่มีผู้อพยพออกมาแล้ว แต่วันนี้เน้นใช้ ฮ.ขนน้ำดื่มและข้าวสารอาหารแห้งและอุปกรณ์ต่างๆ ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ที่ยังถูกตัดขาดใน ม.3 ม.6 ม.7 และ ม.8 ต.กรุงชิง เพราะยังสัญจรไปทางภาคพื้นดินไม่ได้ จากสะพานและถนนในหมู่บ้านดังกล่าวยังถูกตัดขาดอยู่ และขณะนี้มีจำนวนผู้อพยพที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยที่ รร.นบพิตำวิทยา ได้เหลือเพียง 162 คนเท่านั้น จากทั้งหมด 777 คน เพราะยังไม่สามารถกลับเข้าไปในหมู่บ้านตนเองได้เส้นทางยังถูกตัดขาดอยู่ ส่วนที่กลับไปแล้วก็ทราบว่า ที่หมู่บ้านตัวเองสามารถสัญจรไปมาได้แล้ว จึงอพยพกลับไปแล้วจำนวนมาก
กำนันสิชลเตรียมร้อง “มาร์ค”
ขอ นอภ.-บ้านน็อกดาวน์-เงิน 5 พันที่ค้างจ่าย
นายสมหมาย ชลสินธ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ อ.สิชล และอ.นบพิตำ ตนจะเสนอขอนายอำเภอประจำอำเภอนพพิตำหลัง ตำแหน่งว่างเว้นมาร่วม 6 เดือนแล้ว และขอบ้านน็อกดาวน์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ที่บ้านพังอย่างสิ้นเชิงโดยเร่งด่วน และจะขอเงิน 5,000 บาท ที่ยังค้างจ่ายประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ อ.สิชล จากครั้งที่แล้วและมาครั้งนี้อีก ซึ่งขอให้เร่งรัดและรีบแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รวมไปถึงเรื่องของการทำกินในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายด้วย
ปธ.หอการค้าวอนนายกฯ เร่งฟื้นฟูระบบเกษตรกรรม
สถาบันการเงินผ่อนชำระหนี้
นายบุญทวี ริเริ่มสุนทร ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขอให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน มีความซาบซึ้งใจผู้ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ สำหรับผลกระทบมีหลายด้าน แต่ที่หนักที่สุดคือด้านเกษตรกรรรม ผลผลิตของเกษตรกรถึงเวลาเก็บเกี่ยว แต่ถูกน้ำท่วมเสียหาย คิดว่ารัฐบาลควรช่วยเหลือเกษตรกรก่อนเป็นลำดับแรก
สำหรับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนตกตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมจนถึงปลายเดือน ทำให้การค้าขายลดลงไป 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลขายสินค้า ทำกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัด แต่เกิดภาวะน้ำท่วม สร้างผลกระทบอย่างฉับพลัน คาดว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นในไม่ช้านี้
มาตรการในการช่วยเหลือ หอการค้านครศรีธรรมราชกับหอการค้าไทย ได้ประชุมแล้วมีแนวทางที่จะเสนอรัฐบาล เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขอให้สถาบันการเงิน ควรผ่อนปรนหรือผ่อนผันการชำระหนี้แก่เกษตรกรและผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ทดแทนแก่ผู้ประกอบการ ที่ต้องสูญเสียรายได้ไปจากภาวะน้ำท่วม เป็น 2 มาตรการหลักที่เราผลักดัน รวมทั้งในการซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกมากขึ้น การท่องเที่ยวจะได้กลับฟื้นขึ้นมา
ครูหนุ่มเครียดน้ำท่วมกระโดดแม่น้ำตาปียังไม่เจอศพ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 เม.ย.) พ.ต.ท.ธวัชชัย ดีลิ่น สวส.สภ.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนกระโดดลงแม่น้ำตาปีหวังฆ่าตัวตาย เหตุเกิดบริเวณริมฟุตปาทสวนสาธารณะตลาดทานพอ หมู่ที่ 3 ต.ไม้เรียง หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ไม้เรียง นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง และหน่วยกู้ภัยฉวาง ร่วมกันไปสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสวนสาธารณะตลาดทานพอ ริมแม่น้ำตาปี ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่าที่ริมผนังกั้นฟุตบาทติดแม่น้ำตาปี มีกระเป๋าเสื้อผ้าใบหนึ่งวางอยู่ที่พื้นฟุตปาท ในกระเป๋ามีแต่เสื้อผ้าแว่นตาและโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนละแวกดังกล่าว ซึ่งมีคนงานของโรงเลื่อยทานพอ ใกล้สวนสาธารณะแจ้งกับตำรวจ ว่า ก่อนหน้านี้ ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนเหม่อลอยอยู่ที่ริมตลิ่งแม่น้ำตาปีเป็นเวลานานจู่ๆ ชายคนดังกล่าวปีนขึ้นผนังกั้นริมตลิ่งแล้วกระโดดลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากคนงานที่เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งมายังจุดที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะช่วยเหลือแต่ก็ไม่สามารถจะช่วยเหลือได้เห็นแต่ร่างชายคนดังกล่าวถูกกระแสน้ำไหลม้วนร่างชายคนดังกล่าวจมหายไปต่อหน้าต่อตา
ต่อมาได้มี นายวินัย ธรฤทธิ์ อายุ 47 ปี ซึ่งเปิดร้านค้าอยู่ในตลาดทานพอ ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง เข้าพบตำรวจที่ สภ.ไม้เรียง และขอดูกระเป๋าเสื้อผ้าของชายที่กระโดดลงแม่น้ำ แล้วแจ้งกับตำรวจว่าชายที่กระโดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตาย คือ นายวิทยา เทพบุรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1796/18 ถนนท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนมารีย์พิทักษ์ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้เดินทางมาหาและพักอยู่ที่บ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งปกตินายวินัยจะเป็นคนที่เงียบขรึมไม่ค่อยพูดและเมื่อคืนนี้บอกว่าเครียดมาก เพราะที่บ้านถูกน้ำท่วมเสียหายหมดแล้วไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งรุ่งเช้าได้บอกว่า จะเดินทางกลับบ้านแล้วออกจากบ้านไป กระทั่งได้ยินคนพูดกันว่ามีคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ด้วยความสงสัยจึงมาตรวจสอบที่โรงพักเพื่อที่ดูว่าเป็นใคร จนมาทราบว่าเป็นนายวินัยเพื่อนรักของตน ซึ่งสันนิษฐานสาเหตุกระโดดแม่น้ำตาปีครั้งนี้ อาจจะเกิดความเครียดจากน้ำท่วมบ้านเสียหายจนหมดเนื้อหมดตัว จึงคิดฆ่าตัวตาย ล่าสุดขณะนี้ยังไม่พบร่างนายวินัยแต่อย่างใด
ผู้ว่าฯนครศรีฯลงพื้นที่ อ.สิชล
นำถุงของขวัญพระราชทานแจกคนสูงอายุ
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับมอบหมายให้นำถุงยังชีพพระราชทานมอบให้แก่ผู้สูงอายุที่ประสบภัย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้สูงอายุ โดยมีผู้สูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี และสูงสุด 96 ปี มารับถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 72 คน และรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับถุงยังชีพพระราชทานในครั้งนี้ ทำให้มีกำลังใจ และมีความเข้มแข็งขึ้น ที่จะต่อสู้ชีวิตเคียงไหล่บุตรหลานต่อไป ซึ่งในพื้นที่ตำบลฉลอง อำเภอสิชล ถือว่าได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้มากอีกจุดหนึ่ง
เผย 23 อำเภอ โดยเฉพาะนบพิตำ สิชล
ได้รับผลกระทบมากสุด
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ดินสไลด์ ที่หมู่ที่ 10 ตำบลเทพราช อำเภอสิชล ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากสุด 2 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 10 และ 15 จำนวน 250 ครัวเรือน ประมาณ 400 คน เกิดดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายทั้งหลัง
สำรวจได้ขณะนี้ของอำเภอสิชล จำนวน 98 หลัง จาก 9 ตำบล 110 หมู่บ้าน ทำให้สะพาน ถนนเสียหายกว่า 440 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณกว่า 320 ล้านบาท ขณะนี้ประชาชนในหลายหมู่บ้านไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ เนื่องจากสวนยางพารา พืชไร่ และสวนปาล์ม ได้รับความเสียหาย และต้องการให้ภาคส่วนต่างๆ เร่งเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการประกอบอาชีพ ซ่อมแซมถนน สะพานให้สามารถใช้งานได้โดยด่วน ส่วนผู้ที่ประสบภัย ทีมแพทย์สาธารณสุขได้ลงพื้นที่เข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจแล้ว
เทศบาลนครนครศรีฯ
เคลื่อนย้ายจระเข้กลับบ่อเลี้ยง
ที่สวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช นายสัตวแพทย์ นพราช อินทร์ทองคำ สัตวแพทย์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ควบคุมการเคลื่อนย้ายจระเข้ในส่วนของสวนสัตว์ที่หลุดออกไป โดยใช้รถเครนยกจระเข้ขนาดความยาวกว่า 3 เมตร น้ำหนัก 200 กก.ที่จับได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขึ้นมาจากน้ำ และจะข้ามถนนเพื่อไปยังบึงน้ำฝั่งตรงข้าม และอีกตัวที่มีความยาวเกือบ 4 เมตร น้ำหนักกว่า 250 กก.ที่จับได้เมื่อหลายวันก่อน ใส่ในกรงเลี้ยงภายในสวนสัตว์ ซึ่งจระเข้ทั้งสองตัวนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับได้ภายในบริเวณสวนสัตว์
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสูงจนจระเข้สามารถหลุดหนีออกไปจากกรงขังภายในสวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ซึ่งสวนสัตว์ทุ่งท่าลาดมีจระเข้อยู่ทั้งหมด 11 ตัว หนีออกไปได้ จำนวน 10 ตัว และตายอยู่ภายในกรงขังอีก1 ตัว โดยล่าสุดในขณะนี้ได้รับรายงานว่าสามารถจับจระเข้ได้แล้ว 6 ตัว เป็นการจับตาย 4 และจับเป็น 2 ตัว ส่วนยังเหลือ 5 ตัว ทราบว่า จำนวน 3 ตัวอยู่ในบึงน้ำภายในสวนสัตว์ และอีก 2 ตัว ชาวบ้านพบเห็นอยู่ที่บริเวณคลองวัดโคกสะท้อน และภายในบ่อเลี้ยงปลาของประมงจังนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้ง 2 ที่อยู่ใกล้สวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามและเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานงานขอความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ที่พบเห็นจระเข้ ให้ช่วยแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูงทำให้เป็นอุปสรรค แต่ยังคงมีรายงานการปรากฏตัวของจระเข้ในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนเป็นอย่างมาก