ASTVผู้จัดการรายวัน-"สมเด็จราชินี" ทรงห่วงใยเหยื่อไฟใต้ โปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์มอบชุดของขวัญพระราชทาน แก่ผู้บาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ที่ยะลาและหาดใหญ่ ตำรวจชี้เหตุระเบิด “ลี การ์เดนส์” เกิดจากเกลือเป็นหนอน เผยคนร้ายฉวยช่วงสับเปลี่ยนเวร ขับรถเข้าจอด “ยุทธศักดิ์”เตือน เม.ย.-พ.ค. ระวังโจรใต้บึ้มซ้ำ "ประยุทธ์”ประณามโจรใต้เลวเป็นหมาลอบกัด พร้อมใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากหาดใหญ่รุนแรง
วานนี้ (3 เม.ย.) เวลา 09.00 น.ที่โรงพยาบาลยะลา อ.เมือง จ.ยะลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยะลา 30 ราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดยมีนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมคณะเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นายแพทย์ พีระพงศ์ ภาวนาสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา แพทย์ พยาบาล ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
ในการนี้นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้กล่าวกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดใน จ.ยะลา ซึ่งมีราษฎรเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ จำนวนมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตน นำชุดของขวัญพระราชทานมามอบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 11.55 น.วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายนำรถยนต์ที่ซุกซ่อนระเบิดไปจอดไว้ 2 จุดที่บริเวณถนนสายรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา แล้วจุดขนวนระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 109 ราย นอกจากนั้นแรงระเบิดยังทำให้บ้านเรือน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 03.00 น.วานนี้ (3เม.ย.) นางสาวจุไร ลีลา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ ได้เสียชีวิตลง รวมล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คาร์บอมจำนวน 11 ราย
วันเดียวกันที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ใน จังหวัดสงขลา ซึ่งมีราษฎร เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำชุดของขวัญพระราชทาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลา ดังนี้
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จำนวน 13 ราย โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี 12 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ 5 ราย โรงพยาบาลหาดใหญ่ 23 ราย และโรงพยาบาลศิครินทร์หาดใหญ่ 12 ราย รวม จำนวน 52 ราย ส่วนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กับบ้านได้แล้ว โดยมี นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางขนิษฐา บุญราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลาและเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้นำพระกระแสความห่วงใยใน พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย มายังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ความว่าพระองค์ท่านมีความห่วงใย และพระราชทานขวัญกำลังใจ และชุดของขวัญเยี่ยม ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และจะทรงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีจิตใจที่เข้มแข็ง ผ่านพ้นวิกฤตการณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
**เคลียร์ลานจอดรถใต้ดิน“ลีการ์เดนส์”
ด้านความคืบหน้าการเข้าเคลียร์พื้นที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินทั้ง 5 ชั้นภายในโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า ที่ถูกลอบวางระเบิดและไฟไหม้ เมื่อวันที่ 31มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียติดอยู่ภายในชั้นใต้ดินอีกนับร้อยคัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อบ่ายวานนี้ (3 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อลงไปเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์ออกจากชั้นใต้ดินของโรงแรมแล้ว โดยมีการนำรถจักรยานยนต์ออกมาก่อนกว่า 300 คัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอหาดใหญ่ มาตรวจสภาพรถว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ หากคันไหนได้รับความเสียหายจะได้มีการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ส่วนรถยนต์คาดว่าจะนำออกได้ภายในวันที่ 6 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่เคลียร์สิ่งกีดขวางบนเส้นทางออกก่อน ส่วนรถยนต์ต้องสงสัยอีกเกือบ 40 คัน ซึ่งยังมีปัญหาในเรื่องการครอบครองรถ และป้ายทะเบียนไม่ตรงกับรถ เจ้าหน้าที่จะนำไปเก็บไว้ที่ค่ายเสนาณรงค์เพื่อให้เจ้าของนำหลักฐานที่มาที่ไปของรถมายืนยัน จากนั้นจะทยอยเคลียร์รถยนต์ที่ถูกไฟไหม้อีกเกือบ 50 คัน ซึ่งส่วนใหญ่เหลือแต่ซากออกมาเพื่อให้ทางโรงแรมดำเนินการซ่อมแซมพื้นที่
ขณะเดียวกันนายสุกิจ วัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการช่างเทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวว่า ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุระเบิดว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนใดบ้างเพื่อความปลอดภัย
ในขณะที่เส้นทางถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นถนนตัดผ่านหน้าโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า ได้มีการเปิดเส้นทางให้รถสามารถสัญจรได้ตามปกติแล้ว
**ชี้“เกลือเป็นหนอน”บึ้ม"ลีการ์เดนส์”
พล.ต.อ.วีรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าของคดี โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ยังคงหาเบาะแส 2 ผู้ต้องสงสัยจากภาพวงจรปิด แต่เชื่อว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมที่มีประวัติอยู่แล้ว
ขณะที่มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า การก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีคนในมีส่วนร่วมเพราะคนร้ายฉวยโอกาสขับรถเข้าไปยังลานจอดรถในช่วงที่มีการสับเปลี่ยนเวรยามเวลาประมาณ 10.00 น. จึงไม่มีการตรวจและไม่มีหางบัตรสำหรับจอดรถ และยังพบว่ารถที่ใช้ก่อเหตุได้ขับเข้าไปพักในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย 1 วันก่อนที่จะขับมาวางระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งหาเบาะเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ
**ตรวจสอบรร.ปอเนอะหาเส้นทางคาร์บอมบ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนตาร์เบียตุลวาตันมูลนิธิ ตั้งอยู่ หมู่ 1 บ้านพงยือไร ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 11 ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายสืบจากสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา กว่า 60 นาย เข้าตรวจค้นภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามตาร์เบียตุลวาตัน (โรงเรียนปอเนาะ) หลังภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ออกมาจากโรงเรียนแห่งนี้ โดยเจ้าหน้าได้ตรวจสอบรถยนต์ และบุคคลต้องสงสัยพร้อมตรวจสอบ ดีเอ็นเอ เพื่อนำไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ต่อไป
**“ยุทธศักดิ์”เตือนเม.ย.-พ.ค.ระวังบึ้มซ้ำ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เรารู้ว่า เป็นการตอบโต้ของกลุ่มหัวรุนแรง ต่อการกวาดล้าง และการดำเนินการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ดำเนินการกวาดล้างอย่างรุนแรง รวมถึงใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนพ.ค. โดยการอาศัยช่องโหว่ เวลา และจังหวะ เข้าไปดำเนินการให้เกิดความรุนแรง และทำให้ประชาชนหวาดกลัว ในการที่จะเข้ามาอยู่ฝ่ายเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมจะเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ตนกับ ผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มีการประชุมที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเราไม่ได้พูดถึงเรื่องการเจรจา การเจรจาจะต้องทำกับทุกกลุ่ม ถ้าทำได้กับทุกกลุ่ม ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจรจากับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มที่ไม่ได้เจรจาจะไม่รับผิดชอบ และจะแสดงตนว่า ยังอยู่ โดยการสร้างเหตุการณ์ให้เกิดขึ้น ดังนั้นการเจรจาไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง หากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่พูดคุยกันได้ไปดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ ก็ไม่ขัดข้อง อาจเป็นเรื่องดีที่ทำคู่ขนานกันได้
ส่วนจะมีการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลับมาใช้หรือไม่นั้น จะมีการประเมินทุก 3 เดือน โดยคณะกรรมการพิจารณาสถานการณ์รุนแรง ที่จะดูว่าพื้นที่ใดมีความรุนแรง และประกาศใช้ หรือ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่หากมีเหตุการณ์รุนแรง อาจมีการประชุมวิสามัญได้เลยทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบ 3 เดือน
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานที่ทำให้เกิดช่องโหว่ ไม่สนใจการแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เราสามารถจับภาพคนร้าย และทราบว่าเป็นใคร ส่วนกรณีที่ประเทศมาเลเซียได้ขอความมั่นใจจากรัฐบาลไทยให้ความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนั้น ผมยืนยันความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงการจัดระเบียบเข้มงวดพื้นที่ชุมนุม เช่น การจอดรถ จะต้องมีการเข้าออกเส้นทางเดียว การจอดรถมอเตอร์ไซด์ ต้องมีระเบียบ และต้องทำความเข้าใจกับประชาชน กับนักท่องเที่ยว ถึงมาตรการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย และรถยนต์ทุกคันต้องลงทะเบียน พร้อมตั้งจุดตรวจ ในส่วนของตำรวจจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วใน อ.หาดใหญ่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่จะได้ออกปฏิบัติได้ทันที นอกจากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดใน จ.ปัตตานี และนราธิวาส ที่อาจเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่จะมีการประชุมเกี่ยวข้องกับชาติมุสลิม" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุ
**”ประยุทธ์”ประณามโจรใต้เลว-หมาลอบกัด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ทุกภาคส่วนจะต้องเพิ่มความเข้มงวดให้ได้ตลอด 24 ชม.โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเราต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ทั้งภัยแทรกซ้อน ยาเสพติด ของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้วันสงกรานต์ อาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่งทุกอย่างเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายทางตำรวจก็ทราบตัวแล้วโดยมี 2 กลุ่ม และมีชื่ออยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดจากสาเหตุใด แต่มีคนที่พยายามใช้ความรุนแรงอยู่ในพื้นที่ที่มีการซ่องสุม และเพิ่มเติมกำลัง แต่เขาไม่ได้กระทำเพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดนเพียงอย่างเดียว พร้อมที่จะทำในทุกงานที่ได้รับสินจ้าง หรือรางวัล หรือเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม เพราะฉะนั้นเราจะทำอะไรก็ตาม จะต้องไม่ทำให้คน 2 ศาสนา มีความขัดแย้งกัน
"ผมอยากประณามคนพวกนี้ว่า มันเลว มันฆ่าคนผู้บริสุทธิ์ ไม่สนใจว่าเป็นไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม ซึ่งคนพวกนี้ใช้ไม่ได้ มันคือโจร มันเป็นสุนัขลอบกัด ต่อหน้ามันไม่เคยสู้เราได้อยู่แล้ว ดังนั้น เราจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการขจัดคนเหล่านี้ไป หรือไม่ก็เรียกเขาเข้ามาในมาตรา 21 เรายังให้อภัยเขาเสมอ ถึงจะโกรธ จะไม่พอใจ แต่เราเป็นเจ้าหน้าที่ และเราเป็นคนไทย เราให้โอกาส มาเถอะ และมาต่อสู้กันทางคดี ส่วนจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็จะต้องมีการประกาศ ส่วนงานด้านการข่าว เรารู้ ซึ่งไม่ใช่การข่าวเหมือนในภาพยนตร์ เรารู้แต่เพียงคร่าวๆ ว่าเขาจะทำตรงนั้นตรงนี้ แต่ไม่สามารถระบุความชัดเจนได้ ทุกคนจะต้องระมัดระวัง และงานด้านการข่าว ก็ไม่ได้สร้างภายในวันสองวัน ซึ่งที่ผ่านมาแหล่งข่าวของเราก็ถูกทำลายไปเยอะ วันนี้เราก็กำลังสร้างขึ้นมาใหม่อีก" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
**ปชป.ใต้ยื่นหนังสือ“ปู” ขอเปิดอภิปรายทั่วไป
ที่พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดยนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ เรียกประชุม ส.ส. 5 จังหวัด ภายหลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จ.ยะลา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมนายถาวร กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภา อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อหารือถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมีมติยื่นกระทู้ถามสดเรื่องนี้ในที่ประชุมสภาฯในวันที่ 5 เม.ย.นี้ด้วย
จากนั้นเวลา 12.40 น.นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส และนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ทำเรื่องถึงประธานรัฐสภา ในการขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อรับฟังความคิดเห็นของสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 โดยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับหนังสือ
**จัดกิจกรรมเร่งด่วนฟื้นฟูท่องเที่ยว
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะหารือกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ จัดกิจกรรม กระตุ้นตลาดส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดใหญ่อย่างเร่งด่วน โดยจะจัดกิจกรรมแกรนด์เซล ดึงห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก โรงแรม ลดราคาสินค้า เพื่อดึงนักท่องเที่ยว และการเชิญสื่อมวลชนจากมาเลเซียและสิงคโปร์ มาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว และดูระบบการรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจ และช่วยฟื้นการท่องเที่ยวที่หาดใหญ่
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นท์ฯ อ.หาดใหญ่ คาดว่าจะกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวชะลอตัวระยะสั้น ราว 1 สัปดาห์ เท่านั้น ในส่วนของกิจกรรมตลาดในประเทศที่จะจัดในพื้นที่ดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อไป โดยเดือนเม.ย. มี 3 กิจกรรมใหญ่ จัดตามกำหนดเดิม ได้แก่ การแข่งขันเทนนิส แข่งขันกอล์ฟ TAT Challenge และกิจกรรมจักรยานท่องเที่ยวเฉลิมพระเกียรติ รวมจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 1,500 คน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปัจจุบัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอังกฤษ ได้ออกคำเตือน นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมา 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสงขลา ในระดับ 4 เป็นการเตือนให้ระวัง ไม่ใช่การห้ามไม่ให้เดินทางมา
**ถล่มบ้าน ส.อบต.ที่รือเสาะพรุนรถพังยับ
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 11.30 น.เกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มใส่บ้านพักเลขที่ 4/1 ม.5 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้บ้านพักและรถยนต์ได้รับความเสียหาย บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายฮาเบร์ บูกาวาลี อายุ 41 ปี เป็นสมาชิก อบต.บาตง ม.5 ต.บาตง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสร้างเหตุร้ายรายวัน และประเด็นความขัดแย้งในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
**ยิงรอง สวป.สภ.เมืองปัตตานีเจ็บสาหัส
ส่วนเวลา 12.30 น.คนร้ายได้ลอบยิง ร.ต.อ.โชค อ้วนศรีไสย อายุ 48 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณท่าเทียบเรือ ม.6 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้รุดไปตรวจสอบพร้อมสั่งกำลังไล่ล่าคนร้ายทันที ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า เป็นปมขัดแย้งส่วนตัว หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ป่วน ทั้งนี้ คาดว่า คนร้ายอาจจะรู้ว่า ร.ต.อ.โชคจะอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจึงวางแผนสังหาร
วานนี้ (3 เม.ย.) เวลา 09.00 น.ที่โรงพยาบาลยะลา อ.เมือง จ.ยะลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยะลา 30 ราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดยมีนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมคณะเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นายแพทย์ พีระพงศ์ ภาวนาสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา แพทย์ พยาบาล ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
ในการนี้นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้กล่าวกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดใน จ.ยะลา ซึ่งมีราษฎรเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ จำนวนมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตน นำชุดของขวัญพระราชทานมามอบ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 11.55 น.วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายนำรถยนต์ที่ซุกซ่อนระเบิดไปจอดไว้ 2 จุดที่บริเวณถนนสายรวมมิตร เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา แล้วจุดขนวนระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 109 ราย นอกจากนั้นแรงระเบิดยังทำให้บ้านเรือน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 03.00 น.วานนี้ (3เม.ย.) นางสาวจุไร ลีลา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ ได้เสียชีวิตลง รวมล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คาร์บอมจำนวน 11 ราย
วันเดียวกันที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ใน จังหวัดสงขลา ซึ่งมีราษฎร เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำชุดของขวัญพระราชทาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลา ดังนี้
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จำนวน 13 ราย โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี 12 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ 5 ราย โรงพยาบาลหาดใหญ่ 23 ราย และโรงพยาบาลศิครินทร์หาดใหญ่ 12 ราย รวม จำนวน 52 ราย ส่วนที่เหลือแพทย์อนุญาตให้กับบ้านได้แล้ว โดยมี นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางขนิษฐา บุญราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลาและเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ได้นำพระกระแสความห่วงใยใน พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย มายังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ความว่าพระองค์ท่านมีความห่วงใย และพระราชทานขวัญกำลังใจ และชุดของขวัญเยี่ยม ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และจะทรงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีจิตใจที่เข้มแข็ง ผ่านพ้นวิกฤตการณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
**เคลียร์ลานจอดรถใต้ดิน“ลีการ์เดนส์”
ด้านความคืบหน้าการเข้าเคลียร์พื้นที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินทั้ง 5 ชั้นภายในโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า ที่ถูกลอบวางระเบิดและไฟไหม้ เมื่อวันที่ 31มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียติดอยู่ภายในชั้นใต้ดินอีกนับร้อยคัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อบ่ายวานนี้ (3 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อลงไปเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์ออกจากชั้นใต้ดินของโรงแรมแล้ว โดยมีการนำรถจักรยานยนต์ออกมาก่อนกว่า 300 คัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอหาดใหญ่ มาตรวจสภาพรถว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ หากคันไหนได้รับความเสียหายจะได้มีการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ส่วนรถยนต์คาดว่าจะนำออกได้ภายในวันที่ 6 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่เคลียร์สิ่งกีดขวางบนเส้นทางออกก่อน ส่วนรถยนต์ต้องสงสัยอีกเกือบ 40 คัน ซึ่งยังมีปัญหาในเรื่องการครอบครองรถ และป้ายทะเบียนไม่ตรงกับรถ เจ้าหน้าที่จะนำไปเก็บไว้ที่ค่ายเสนาณรงค์เพื่อให้เจ้าของนำหลักฐานที่มาที่ไปของรถมายืนยัน จากนั้นจะทยอยเคลียร์รถยนต์ที่ถูกไฟไหม้อีกเกือบ 50 คัน ซึ่งส่วนใหญ่เหลือแต่ซากออกมาเพื่อให้ทางโรงแรมดำเนินการซ่อมแซมพื้นที่
ขณะเดียวกันนายสุกิจ วัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการช่างเทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวว่า ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุระเบิดว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนใดบ้างเพื่อความปลอดภัย
ในขณะที่เส้นทางถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นถนนตัดผ่านหน้าโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า ได้มีการเปิดเส้นทางให้รถสามารถสัญจรได้ตามปกติแล้ว
**ชี้“เกลือเป็นหนอน”บึ้ม"ลีการ์เดนส์”
พล.ต.อ.วีรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและติดตามความคืบหน้าของคดี โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ยังคงหาเบาะแส 2 ผู้ต้องสงสัยจากภาพวงจรปิด แต่เชื่อว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมที่มีประวัติอยู่แล้ว
ขณะที่มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า การก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีคนในมีส่วนร่วมเพราะคนร้ายฉวยโอกาสขับรถเข้าไปยังลานจอดรถในช่วงที่มีการสับเปลี่ยนเวรยามเวลาประมาณ 10.00 น. จึงไม่มีการตรวจและไม่มีหางบัตรสำหรับจอดรถ และยังพบว่ารถที่ใช้ก่อเหตุได้ขับเข้าไปพักในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย 1 วันก่อนที่จะขับมาวางระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งหาเบาะเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ
**ตรวจสอบรร.ปอเนอะหาเส้นทางคาร์บอมบ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนตาร์เบียตุลวาตันมูลนิธิ ตั้งอยู่ หมู่ 1 บ้านพงยือไร ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา นายประยูร รัตนเสนีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 11 ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายสืบจากสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา กว่า 60 นาย เข้าตรวจค้นภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามตาร์เบียตุลวาตัน (โรงเรียนปอเนาะ) หลังภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ออกมาจากโรงเรียนแห่งนี้ โดยเจ้าหน้าได้ตรวจสอบรถยนต์ และบุคคลต้องสงสัยพร้อมตรวจสอบ ดีเอ็นเอ เพื่อนำไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ต่อไป
**“ยุทธศักดิ์”เตือนเม.ย.-พ.ค.ระวังบึ้มซ้ำ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เรารู้ว่า เป็นการตอบโต้ของกลุ่มหัวรุนแรง ต่อการกวาดล้าง และการดำเนินการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ดำเนินการกวาดล้างอย่างรุนแรง รวมถึงใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนพ.ค. โดยการอาศัยช่องโหว่ เวลา และจังหวะ เข้าไปดำเนินการให้เกิดความรุนแรง และทำให้ประชาชนหวาดกลัว ในการที่จะเข้ามาอยู่ฝ่ายเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมจะเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ตนกับ ผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มีการประชุมที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเราไม่ได้พูดถึงเรื่องการเจรจา การเจรจาจะต้องทำกับทุกกลุ่ม ถ้าทำได้กับทุกกลุ่ม ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจรจากับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มที่ไม่ได้เจรจาจะไม่รับผิดชอบ และจะแสดงตนว่า ยังอยู่ โดยการสร้างเหตุการณ์ให้เกิดขึ้น ดังนั้นการเจรจาไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง หากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่พูดคุยกันได้ไปดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ ก็ไม่ขัดข้อง อาจเป็นเรื่องดีที่ทำคู่ขนานกันได้
ส่วนจะมีการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลับมาใช้หรือไม่นั้น จะมีการประเมินทุก 3 เดือน โดยคณะกรรมการพิจารณาสถานการณ์รุนแรง ที่จะดูว่าพื้นที่ใดมีความรุนแรง และประกาศใช้ หรือ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่หากมีเหตุการณ์รุนแรง อาจมีการประชุมวิสามัญได้เลยทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบ 3 เดือน
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานที่ทำให้เกิดช่องโหว่ ไม่สนใจการแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เราสามารถจับภาพคนร้าย และทราบว่าเป็นใคร ส่วนกรณีที่ประเทศมาเลเซียได้ขอความมั่นใจจากรัฐบาลไทยให้ความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนั้น ผมยืนยันความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงการจัดระเบียบเข้มงวดพื้นที่ชุมนุม เช่น การจอดรถ จะต้องมีการเข้าออกเส้นทางเดียว การจอดรถมอเตอร์ไซด์ ต้องมีระเบียบ และต้องทำความเข้าใจกับประชาชน กับนักท่องเที่ยว ถึงมาตรการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย และรถยนต์ทุกคันต้องลงทะเบียน พร้อมตั้งจุดตรวจ ในส่วนของตำรวจจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วใน อ.หาดใหญ่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่จะได้ออกปฏิบัติได้ทันที นอกจากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดใน จ.ปัตตานี และนราธิวาส ที่อาจเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่จะมีการประชุมเกี่ยวข้องกับชาติมุสลิม" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุ
**”ประยุทธ์”ประณามโจรใต้เลว-หมาลอบกัด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ทุกภาคส่วนจะต้องเพิ่มความเข้มงวดให้ได้ตลอด 24 ชม.โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเราต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ทั้งภัยแทรกซ้อน ยาเสพติด ของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้วันสงกรานต์ อาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่งทุกอย่างเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายทางตำรวจก็ทราบตัวแล้วโดยมี 2 กลุ่ม และมีชื่ออยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดจากสาเหตุใด แต่มีคนที่พยายามใช้ความรุนแรงอยู่ในพื้นที่ที่มีการซ่องสุม และเพิ่มเติมกำลัง แต่เขาไม่ได้กระทำเพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดนเพียงอย่างเดียว พร้อมที่จะทำในทุกงานที่ได้รับสินจ้าง หรือรางวัล หรือเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม เพราะฉะนั้นเราจะทำอะไรก็ตาม จะต้องไม่ทำให้คน 2 ศาสนา มีความขัดแย้งกัน
"ผมอยากประณามคนพวกนี้ว่า มันเลว มันฆ่าคนผู้บริสุทธิ์ ไม่สนใจว่าเป็นไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม ซึ่งคนพวกนี้ใช้ไม่ได้ มันคือโจร มันเป็นสุนัขลอบกัด ต่อหน้ามันไม่เคยสู้เราได้อยู่แล้ว ดังนั้น เราจะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการขจัดคนเหล่านี้ไป หรือไม่ก็เรียกเขาเข้ามาในมาตรา 21 เรายังให้อภัยเขาเสมอ ถึงจะโกรธ จะไม่พอใจ แต่เราเป็นเจ้าหน้าที่ และเราเป็นคนไทย เราให้โอกาส มาเถอะ และมาต่อสู้กันทางคดี ส่วนจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็จะต้องมีการประกาศ ส่วนงานด้านการข่าว เรารู้ ซึ่งไม่ใช่การข่าวเหมือนในภาพยนตร์ เรารู้แต่เพียงคร่าวๆ ว่าเขาจะทำตรงนั้นตรงนี้ แต่ไม่สามารถระบุความชัดเจนได้ ทุกคนจะต้องระมัดระวัง และงานด้านการข่าว ก็ไม่ได้สร้างภายในวันสองวัน ซึ่งที่ผ่านมาแหล่งข่าวของเราก็ถูกทำลายไปเยอะ วันนี้เราก็กำลังสร้างขึ้นมาใหม่อีก" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
**ปชป.ใต้ยื่นหนังสือ“ปู” ขอเปิดอภิปรายทั่วไป
ที่พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดยนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ เรียกประชุม ส.ส. 5 จังหวัด ภายหลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จ.ยะลา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมนายถาวร กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภา อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อหารือถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมีมติยื่นกระทู้ถามสดเรื่องนี้ในที่ประชุมสภาฯในวันที่ 5 เม.ย.นี้ด้วย
จากนั้นเวลา 12.40 น.นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส และนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ทำเรื่องถึงประธานรัฐสภา ในการขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อรับฟังความคิดเห็นของสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 โดยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับหนังสือ
**จัดกิจกรรมเร่งด่วนฟื้นฟูท่องเที่ยว
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะหารือกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ จัดกิจกรรม กระตุ้นตลาดส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดใหญ่อย่างเร่งด่วน โดยจะจัดกิจกรรมแกรนด์เซล ดึงห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก โรงแรม ลดราคาสินค้า เพื่อดึงนักท่องเที่ยว และการเชิญสื่อมวลชนจากมาเลเซียและสิงคโปร์ มาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว และดูระบบการรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจ และช่วยฟื้นการท่องเที่ยวที่หาดใหญ่
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นท์ฯ อ.หาดใหญ่ คาดว่าจะกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวชะลอตัวระยะสั้น ราว 1 สัปดาห์ เท่านั้น ในส่วนของกิจกรรมตลาดในประเทศที่จะจัดในพื้นที่ดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อไป โดยเดือนเม.ย. มี 3 กิจกรรมใหญ่ จัดตามกำหนดเดิม ได้แก่ การแข่งขันเทนนิส แข่งขันกอล์ฟ TAT Challenge และกิจกรรมจักรยานท่องเที่ยวเฉลิมพระเกียรติ รวมจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 1,500 คน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปัจจุบัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอังกฤษ ได้ออกคำเตือน นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมา 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสงขลา ในระดับ 4 เป็นการเตือนให้ระวัง ไม่ใช่การห้ามไม่ให้เดินทางมา
**ถล่มบ้าน ส.อบต.ที่รือเสาะพรุนรถพังยับ
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 11.30 น.เกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มใส่บ้านพักเลขที่ 4/1 ม.5 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้บ้านพักและรถยนต์ได้รับความเสียหาย บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายฮาเบร์ บูกาวาลี อายุ 41 ปี เป็นสมาชิก อบต.บาตง ม.5 ต.บาตง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือเป็นฝีมือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสร้างเหตุร้ายรายวัน และประเด็นความขัดแย้งในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป
**ยิงรอง สวป.สภ.เมืองปัตตานีเจ็บสาหัส
ส่วนเวลา 12.30 น.คนร้ายได้ลอบยิง ร.ต.อ.โชค อ้วนศรีไสย อายุ 48 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณท่าเทียบเรือ ม.6 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้รุดไปตรวจสอบพร้อมสั่งกำลังไล่ล่าคนร้ายทันที ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า เป็นปมขัดแย้งส่วนตัว หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ป่วน ทั้งนี้ คาดว่า คนร้ายอาจจะรู้ว่า ร.ต.อ.โชคจะอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจึงวางแผนสังหาร
