ตรัง - ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองตรัง ไม่พอใจการทำงานของหน่วยงานท้องถิ่นที่ไม่เอาจริงเอาจังกับการช่วยเหลือชาวบ้าน เบิกงบฉุกเฉินมาหลายครั้ง แต่ความช่วยเหลือไม่เคยทั่วถึง สุดช้ำหนีบเรือท้องแบนไว้ให้ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” และคณะ แทนที่จะนำมาช่วยชาวบ้านที่เป็นปัญหาเร่งด่วน ซ้ำร้ายยังรายงานเท็จ น้อยใจแม้ได้เงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ไม่สามารถกู้ชีวิตคนหมดตัวได้
วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง รายงานว่า สำหรับระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง โดยเฉพาะที่หน้าโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยตรัง ซึ่งเคยมีน้ำท่วมสูง 4-5 เมตร และแม้ขณะนี้น้ำจะเริ่มลดลง 2 เมตรแล้ว แต่ชาวบ้านยังกลับเข้าบ้านไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงอยู่ ต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์ข้างถนนอีกหลายครอบครัว
ส่วนที่ วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) ต.บางรัก ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำตรัง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีระดับน้ำท่วมสูงถึง 4 เมตร โดยล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงเหลือประมาณ 50 ซม.แล้ว พระและเณรต่างออกสำรวจความเสียหาย และเร่งทำความสะอาดอุโบสถ รวมทั้งศาสนสถาน และเครื่องใช้ต่างๆ
นายบุญเที่ยง กิ้มเฉี้ยง หนึ่งในชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วม พื้นที่ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง กล่าวว่า แม้ว่าฝนจะหยุดตกมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่บางจุด ที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากไม่มีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้จุดดังกล่าว ยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง และจากการที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานานหลายวัน ขณะที่ของก็แพงขึ้น
ดังนั้น จึงส่งผลให้ชาวบ้านเริ่มมีความเครียดเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวตามปกติได้ เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งแปลงปลูกผัก บ่อเลี้ยงปลา และทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ถูกกระแสน้ำพัดพาจมหายไป จนต้องหมดเนื้อหมดตัว ซึ่งสิ่งที่ทำได้ขณะนี้ คือ การประหยัดรายจ่ายให้มากที่สุด เพื่อพยุงครอบครัวให้อยู่รอดได้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้
นายบุญเที่ยง กล่าวต่อไปว่า ชาวบ้านคงไม่คาดหวังที่จะให้ อบต.เข้ามาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานดังกล่าว มักจะของบฉุกเฉินเวลาเกิดภัยพิบัติในพื้นที่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้เท่าที่ควร เพราะมักจะอิงนักการเมืองระดับชาติทุกครั้ง จึงทำให้ชาวบ้านเริ่มรู้สึกเบื่อ ผิดหวัง และชินชากับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะรู้ว่าพูดไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ขึ้นมา ก็อย่าพูดดีกว่า
ล่าสุด ที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่อนุญาตให้นำเรือท้องแบนทุกลำที่ อบต.จัดเตรียมไว้ให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คชอ.และคณะเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เรือมากกว่า
นอกจากนั้น ยังมีการรายงานข้อมูลที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงด้วย ทำให้ชาวบ้านผิดหวังอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะชดเชยเงินจำนวน 5,000 บาท ให้กับผู้ประสบภัย แต่เมื่อเทียบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น จะสูงมากกว่าเงินที่รัฐบาลชดเชยให้ และชาวบ้านก็ไม่คาดหวังที่จะได้รับเงินนี้เช่นกัน
นายบุญเที่ยง ยังเรียกร้องให้มีการสร้างพนังกั้นแม่น้ำตรัง ให้มีความมั่นคงแข็งแรงถาวรมากยิ่งขึ้นกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามีการก่อสร้างแบบผลาญงบประมาณ จนทำให้พนังกั้นแม่น้ำตรังพังทลายลงมาหลายครั้ง ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก ในพื้นที่หลายตำบลของ อ.เมืองตรัง จึงขึ้นอยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหน