ตรัง - สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 10 อำเภอในจังหวัดตรัง ล่าสุดพบว่า ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 1-2 เมตร ในพื้นที่ 6 อำเภอ โดยมียอดผู้ประสบภัยกว่าแสนคน โดยบางครอบครัวถึงกับหมดเนื้อหมดตัวจากเหตุครั้งนี้ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดตรังยังคงวิกฤตต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 32,000 ครัว หรือกว่าแสนคน และบางจุดระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2-4 เมตร
วันนี้ (2 เม.ย.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง สรุปสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 10 อำเภอ ว่า ได้รับกระทบแล้ว 72 ตำบล 5 เทศบาล 17 ชุมชน 32,000 ครัวเรือน หรือกว่าแสนคนแล้ว โดยมีบ้านเสียหายทั้งหลัง 4 หลัง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง ซึ่งเป็นจุดที่พนังกั้นแม่น้ำตรังพังทลายลงมา และมีบ้านเสียหายบางส่วน 18 หลัง
นอกจากนั้น ยังพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย คือ นายวินัย ขาววัด อายุ 40 ปี ชาวหมู่ที่ 3 ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และนายปฐมพร คุ้มช่วย อายุ 16 ปี ชาวหมู่ที่ 4 ตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง โดยทั้งสองเสียชีวิตเนื่องจากถูกกระแสน้ำพัดพาจนจมหายไป
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 10 อำเภอในจังหวัดตรัง ล่าสุดพบว่า ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 1-2 เมตร ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ อ.รัษฎา อ.สิเกา และ อ.กันตัง โดยเฉพาะที่ ต.บางรัก ต.นาตาล่วง ต.นาท่ามเหนือ ต.นาท่ามใต้ ต.หนองตรุด ต.ทับเที่ยง และ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กว่า 20 หมู่บ้าน หรือกว่า 2,000 หลังคาเรือน บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูง 2-4 เมตร ต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา และอาศัยเต็นท์ข้างถนนเป็นที่หลับนอนชั่วคราว นอกจากนี้ ระดับน้ำยังไหลเข้าท่วมชุมชนในเขตเทศบาลนครตรัง จำนวน 17 ชุมชน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้การจราจรหลายจุดต้องติดขัดเป็นอย่างมาก
ส่วนที่วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) อ.เมืองตรัง ระดับน้ำไหลเชี่ยวกราก และเพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 เมตร ต้องอาศัยเรือในการเดินทางเข้าไปถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์-สามเณรที่มีอยู่กว่า 40 รูป ขณะที่พื้นที่ ต.โคกยาง ต.ย่านซื่อ ต.ควนธานี ต.บางหมาก อ.กันตัง รวมทั้งพื้นที่ ต.นาโต๊ะหมิง ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 1 เมตร เนื่องจากรองรับน้ำที่ไหลมาจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง และยังมีฝนตกหนักเป็นระยะ ทำให้ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น และสูงกว่าปี 2548 ส่งผลให้ชาวบ้านหลายพันครัวเรือนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดวิกฤตขนาดนี้ และหลายคนถึงกับหมดเนื้อหมดตัวไปเลยทีเดียว
