ตรัง - ฝนหลงฤดูยังคงกระหน่ำต่อเนื่อง ทำให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้ว 7,508 ครัวเรือน หรือ 25,753 คน และมีพืชผลทางการเกษตรเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตรัง ว่า วันนี้ (30 มี.ค.) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง สรุปความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ ว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.หรือราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดสภาวะน้ำท่วมแล้วทั้ง 9 อำเภอ ยกเว้นเพียงแค่อำเภอเดียวเท่านั้น คือ อ.หาดสำราญ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 7,508 ครัวเรือน หรือ 25,753 คน
พืชผลทางการเกษตร เช่น สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน เสียหายแล้วประมาณ 3,000 ไร่ ถนนเสียหาย 2 สาย บริเวณถนนตรัง-พัทลุง ระยะทาง 500 เมตร ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร และถนนเลี่ยงเมืองสายตรัง-ทุ่งสง ช่วง ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด ระยะทาง 400 เมตร ระดับน้ำสูง 60 เซนติเมตร
ทั้งนี้ น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดที่เป็นรอยต่อระหว่าง จ.ตรัง กับ จ.พัทลุง ยังคงไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มริมคลองนางน้อย คลองยน และคลองน้ำเจ็ด ในเขต อ.นาโยง และ อ.เมืองตรังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครตรัง ฝั่งทางด้านทิศตะวันออกและทางด้านทิศใต้ ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลได้รับเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทรัพย์สินเสียหาย ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน เพราะต่างก็ไม่เชื่อว่าในช่วงเดือน มี.ค.ที่เป็นหน้าแล้งจะมีฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานนับสัปดาห์ และมีน้ำไหลหลากลงมาอย่างรุนแรงขนาดนี้ ทำให้ต้องประสบภัยน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 เดือน
โดยเฉพาะถนนพัทลุง ถนนรัษฎา และ ถนนโคกหล่อ ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นถนนสายหลักย่านราชการ และธุรกิจของจังหวัด ต้องประสบกับสภาวะน้ำท่วมอย่างฉับพลันในหลายจุด เช่น บริเวณอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ หน้าสนามกีฬากลางเทศบาลนครตรัง สี่แยกศาลจังหวัดตรัง แผนกคดีเด็กเยาวชนและครอบครัว สี่แยกวังตอ สี่แยกต้นสมอ หรือหน้าวัดคลองน้ำเจ็ด ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตรถึง 1.20 เมตร จนทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ เกิดปัญหาด้านการจราจรอย่างหนัก เนื่องจากต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางรอง แต่ส่วนใหญ่ก็เกิดสภาวะน้ำท่วมรุนแรงไม่แพ้กัน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พนังกั้นแม่น้ำตรังบริเวณพื้นที่ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ได้พังลงมาจำนวน 1 จุด ส่งผลให้น้ำที่ไหลทะลักมาจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งทั้ง 2 ด้านอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของและสัตว์เลี้ยงขึ้นไปอยู่ที่สูงกันอย่างวุ่นวาย โดยอีกส่วนหนึ่งก็ได้มีการนำเต็นท์มากางบนถนน เพื่อใช้เป็นอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งหวั่นเกรงว่าพนังกั้นน้ำแม่น้ำตรัง บริเวณ ต.หนองตรุดและ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ที่เคยพังลงมาแล้วเมื่อคราวน้ำท่วมปลายปี 2553 จะเกิดพังลงมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดย นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิ พร้อมคณะจากส่วนกลางจะเดินทางมามอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ครอบครัว ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น.ณ วัดแจ้ง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง
