กระบี่ - ประธานหอการค้ากระบี่ จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพัฒนาปรับปรุงบ่อน้ำพุร้อนเค็ม "คลองท่อม" แห่งที่ 2 ในโลกให้ถูกทางก่อนทำระบบนิเวศพัง หวั่นเงินลงทุนนับสิบล้านสูญเปล่า
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จุดขายใหม่ที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนใน จ.กระบี่ กำลังดำเนินการประชาสัมพันธ์ ก็คือ การทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศรู้จัก "สปาบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม" ซึ่งถือเป็นบ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งที่ 2 ของโลก ที่แรก คือ ที่สาธารณรัฐเช็ก ส่วนอีกแห่ง คือ ที่ จ.กระบี่ ซึ่งมีพื้นที่ให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวถึง 200 ไร่ที่รอโอกาสในการพัฒนา โดยได้เตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่จะผสมผสานไปกับการท่องเที่ยวแบบลองสเตย์ เน้นไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายไปยังจังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน
ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม หมู่ 8 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มีการพัฒนาน้ำพุร้อนเค็มในด้านต่างๆ เช่น การนำเม็ดเงินไปลงทุน รวมทั้งการออกแบบระบบต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถสนองการพัฒนาของน้ำพุร้อนเค็มที่แท้จริงได้ ซึ่งผู้ที่ออกแบบก็ยังไม่เข้าใจในการที่จะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ขาดความเป็นมืออาชีพ จึงส่งผลให้น้ำพุร้อนเค็มได้รับความเสียหาย แทนที่จะได้รับการพัฒนาไปสู่ระดับโลก
ซึ่งหลังจากที่มีการพัฒนาในจุดแรกแล้ว ผลที่ตามมา คือ นักท่องเที่ยวลดลง เนื่องจากขาดความเป็นธรรมชาติ อุณหภูมิน้ำผิดแปลกไปจากเดิม ไม่มีท่อระบายน้ำ และยังเกิดสิ่งสกปรกหมักหมมกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เป็นการลงทุนที่ไม่เกิดมูลค่า และไม่เกิดประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
นายภูวดิท กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าเสียดายสำหรับน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม เพราะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หาดูยาก จากข้อมูลที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นเอกสารนั้น พบว่ามีอยู่ 2 แห่งในโลก คือที่สาธารณะรัฐเช็ค และที่หมู่ที่ 8 บ้านควน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และทางหอการค้าจังหวัดกระบี่ ได้นำคณะกรรมการเดินทางไปสำรวจบ่อน้ำพุร้อนในเมืองการ์โลวา วารี ประเทศสาธารณรัฐเช็กแล้ว
ปรากฏว่า ไม่เหมือนที่กระบี่ ความจริงแล้ว ลักษณะบ่อน้ำพุร้อนเค็มธรรมชาติน่าจะมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ที่กระบี่เท่านั้น หากมีการพัฒนาอย่างจริงจัง ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของหลายประเทศ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกแน่นอน
“ที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นภาคเอกชนได้มีการนำเสนอเรื่องนี้ไปยังหลายหน่วยงาน เพื่อต้องการที่จะให้มีการพัฒนาน้ำพุร้อนเค็มอย่างจริงจัง แต่น่าเสียดายที่ขณะนี้มีการพัฒนาที่ผิดทิศทางและยังส่งผลให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นกับบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม แทนที่จะเป็นการพัฒนา กลับดูเหมือนว่าทำลายถึงแม้ว่าจะไม่ตั้งใจก็ตาม จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องหาผู้ออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญ มีความเข้าใจในระบบของภูมิสถาปัตย์น้ำพุร้อน เข้าใจในระบบความร้อนเป็นอย่างดีมาดำเนินการ เพื่อที่จะมาต่อยอดการพัฒนาที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก และไม่อยากเห็นเงินงบประมาณจำนวนนับสิบล้านบาทที่ลงทุนไปกับการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งนี้สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์"
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จุดขายใหม่ที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนใน จ.กระบี่ กำลังดำเนินการประชาสัมพันธ์ ก็คือ การทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศรู้จัก "สปาบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม" ซึ่งถือเป็นบ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งที่ 2 ของโลก ที่แรก คือ ที่สาธารณรัฐเช็ก ส่วนอีกแห่ง คือ ที่ จ.กระบี่ ซึ่งมีพื้นที่ให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวถึง 200 ไร่ที่รอโอกาสในการพัฒนา โดยได้เตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่จะผสมผสานไปกับการท่องเที่ยวแบบลองสเตย์ เน้นไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายไปยังจังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน
ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม หมู่ 8 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มีการพัฒนาน้ำพุร้อนเค็มในด้านต่างๆ เช่น การนำเม็ดเงินไปลงทุน รวมทั้งการออกแบบระบบต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถสนองการพัฒนาของน้ำพุร้อนเค็มที่แท้จริงได้ ซึ่งผู้ที่ออกแบบก็ยังไม่เข้าใจในการที่จะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ขาดความเป็นมืออาชีพ จึงส่งผลให้น้ำพุร้อนเค็มได้รับความเสียหาย แทนที่จะได้รับการพัฒนาไปสู่ระดับโลก
ซึ่งหลังจากที่มีการพัฒนาในจุดแรกแล้ว ผลที่ตามมา คือ นักท่องเที่ยวลดลง เนื่องจากขาดความเป็นธรรมชาติ อุณหภูมิน้ำผิดแปลกไปจากเดิม ไม่มีท่อระบายน้ำ และยังเกิดสิ่งสกปรกหมักหมมกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เป็นการลงทุนที่ไม่เกิดมูลค่า และไม่เกิดประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
นายภูวดิท กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าเสียดายสำหรับน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม เพราะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หาดูยาก จากข้อมูลที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นเอกสารนั้น พบว่ามีอยู่ 2 แห่งในโลก คือที่สาธารณะรัฐเช็ค และที่หมู่ที่ 8 บ้านควน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และทางหอการค้าจังหวัดกระบี่ ได้นำคณะกรรมการเดินทางไปสำรวจบ่อน้ำพุร้อนในเมืองการ์โลวา วารี ประเทศสาธารณรัฐเช็กแล้ว
ปรากฏว่า ไม่เหมือนที่กระบี่ ความจริงแล้ว ลักษณะบ่อน้ำพุร้อนเค็มธรรมชาติน่าจะมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ที่กระบี่เท่านั้น หากมีการพัฒนาอย่างจริงจัง ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของหลายประเทศ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกแน่นอน
“ที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นภาคเอกชนได้มีการนำเสนอเรื่องนี้ไปยังหลายหน่วยงาน เพื่อต้องการที่จะให้มีการพัฒนาน้ำพุร้อนเค็มอย่างจริงจัง แต่น่าเสียดายที่ขณะนี้มีการพัฒนาที่ผิดทิศทางและยังส่งผลให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นกับบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม แทนที่จะเป็นการพัฒนา กลับดูเหมือนว่าทำลายถึงแม้ว่าจะไม่ตั้งใจก็ตาม จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องหาผู้ออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญ มีความเข้าใจในระบบของภูมิสถาปัตย์น้ำพุร้อน เข้าใจในระบบความร้อนเป็นอย่างดีมาดำเนินการ เพื่อที่จะมาต่อยอดการพัฒนาที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก และไม่อยากเห็นเงินงบประมาณจำนวนนับสิบล้านบาทที่ลงทุนไปกับการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งนี้สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์"
