ปัตตานี - โครงการปัตตานีเพลส เดินหน้า เพื่อสนองความสอดคล้องกับวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ โดยมีการปักเสาเข็มแรกในวันนี้ เผยผลตอบรับโฮมออฟฟิศเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะเปิดศูนย์การค้าในปลายปีนี้
วันนี้ (14 มี.ค.) นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ร่วมกันประกอบพิธีละหมาดฮายัตในวันปฐมฤกษ์ของการปักเสาเข็ม เสาแรกของห้างปัตตานีมอลล์ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ดร.วรวิทย์ บารู สมาชิกวุฒิสภาและประธานเครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ นายอันวาร์ สาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปัตตานีและรองเลขานุการคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำศาสนาเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง
นายอิบรอเฮ็ง เจะอาลี ผู้บริหารโครงการปัตตานีเพลส กล่าวว่า วันนี้ได้เริ่มตอกเสาเข็มเข็มแรกของการสร้างศูนย์การค้าปัตตานีมอลล์ และเราได้เตรียมผู้รับเหมาไว้แล้ว 3 ชุด ทั้งงานฐานราก งานโครงสร้าง งานสถาปัตย์ งานระบบ คาดว่าปลายนี้ประมาณ 23 เดือนธันวาคมน่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เพราะเราเตรียมจะเปิดห้างบางส่วนภายในเดือนตุลาคมนี้
“สิ่งที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากหลังจากเราได้ดำเนินการไปในเรื่องของโฮมออฟฟิศกับศูนย์การค้าเฟสที่ 1 เฟสที่ 2 ซึ่งต้องยอมรับว่าเราเป็นคอนโดแรก ซึ่งเฟสที่ 2 เป็นเรื่องของคอนโดซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับสังคมที่นี่ อาจเปลี่ยนวิถีชีวิตไปบ้าง แต่ด้วยความจำเป็นของสภาวะปัจจุบันที่เป็นอยู่ กลายเป็นว่าคอนโดยังเหลือเพียงไม่กี่ยูนิต” นายอิบรอเฮ็ง กล่าวต่อและว่า
ส่วนศูนย์การค้าปัตตานีมอลล์ได้มีประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะลูกค้าที่มาซื้อคอนโดให้ความสนใจอยากมีส่วนทางเราจึงได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาจับจองซื้อหุ้นแต่ในวงจำกัด เพราะปรัชญาของการเปิดศูนย์การค้าเพื่อตอบสนองกับวิถีชีวิตของชาวบ้านและยังสามารถตอบสนองกับทุกภาคส่วนเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์การค้าปัตตานีมอลล์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปัตตานีเพลส ที่ได้ดำเนินการเมื่อต้นปีที่แล้ว ประกอบด้วย โฮมออฟฟิศ คอนโด ห้างศูนย์การค้าปัตตานีมอลล์และโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่ต้องล่าช้าไปจากกำหนดที่จะเปิดเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในส่วนของโรงแรมนั้นต้องพักก่อนโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากเป็นเงื่อนไขของสถาบันการเงินได้ร้องขอเพื่อไม่ให้กระทบกับโรงแรมที่มีเดิมอยู่แล้ว ผู้บริหารโครงการปัตตานีเพลสจึงต้องยอมปฏิบัติตามเพื่อให้โครงการอื่นๆสามารถดำเนินการได้และเกิดประโยชน์ให้กับประชาชนที่นี่
การดำเนินการของปัตตานีเพลสในครั้งนี้ นับเป็นการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่มีความกล้าที่จะดำเนินการในท่ามกลางที่ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ยังคงเกิดเหตุเป็นระยะๆซึ่งในพื้นที่เหลือเพียงการดำเนินโครงการของภาครัฐเพียงอย่างเดียว ยังไม่มีเอกชนหน้าไหนที่กล้าจะดำเนินการโครงการในลักษณะนี้ในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลับให้การสนับสนุบจากสถาบันการเงินน้อยมาก แม้กระทั่งสถาบันการเงินของรัฐเอง จึงอยากให้รัฐบาลควรที่จะเข้ามาให้การสนับสนุนและแสดงความจริงใจ สร้างความเท่าเทียมกันในเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ให้กับคนในพื้นที่ เพื่อให้โอกาสเข้าถึงกับสถาบันการเงินเหมือนภาคอื่นอย่างเท่าเทียมกัน