สุราษฏร์ธานี-ตำรวจเกาะพะงันฟิตจัด ลุยกวาดล้างยาเสพติดช่วงฟูลมูนปาร์ตี้ สามารถจับกุมเอเยนต์ทั้งชายและหญิง 3 ราย ยาไอซ์ 43 กรัม บัญชีรายชื่อลูกค้าจำนวนมาก
วันนี้ (19 มี.ค.) ตำรวจสถานีตำรวจเกาะงัน นำโดย พ.ต.อ.วิทยา วังส์ด่าน ผกก.สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุญมา แก้วละเอียด รอง.ผกก.ป.,พ.ต.ท.ธนวัฒน์ สุขคะตะ สว.สส.และกำลังตำรวจเกาะพะงัน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กวาดล้างยาเสพติดบนเกาะพะงัน ก่อนเทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้
โดยก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบทราบว่า ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม. 3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุม เสพยาเสพติด จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และทำการปิดล้อมห้องพักดังกล่าว และพบนายสมเจตน์ วังชนะกุล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 ม. 3 ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี และ นางสาวคำปุ่น พุทธสาร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/19 ม. 4 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ภรรยานายสมเจตน์ อยู่ภายในบ้าน จากการตรวจค้นพบ ยาไอซ์และอุปกรณ์ในการเสพ รวมทั้งถุงแบ่งยาเสพติดจำนวนมาก และพบยาไอซ์จำนวน 10 ถุงน้ำหนัก 38.70 กรัม พร้อมโทรศัพท์ 3 เครื่อง
สมุดรายชื่อลูกค้ามีรายชื่อลูกค้ากว่า 100 ราย และสมุดธนาคาร 2 เล่ม มีเงินหมุนเวียนนับล้านบาท จากนั้นได้ควบคุมผู้ต้องหามาทำการสอบสวนขยายผล จนสามารถกุมนายมารุต ทองเมือง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/1 ม. 3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน เพิ่มได้อีก 1 คน จาการตรวจค้นในบ้านพบยาไอซ์ 3 ถุงน้ำหนัก 5 กรัม โทรศัพท์ 2 เครื่อง พร้อมยึดเงินสด กว่า 40,000 บาท จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า รับยาไอซ์ทั้งหมดมาจากนายยุทธนา ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเอเยนต์รายใหญ่ในเกาะพะงัน
โดยยาไอซ์ทั้งหมดที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ คาดว่าจะนำไปขายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวในฟูลมูนปาร์ตี้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นำตังส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.
ด้าน พ.ต.อ.วิทยา วังส์ด่าน ผกก.เปิดเผยว่าเนื่องจากเกาะพะงันมีชื่อเสียงโด่งดัง ในหมู่นักท่องเที่ยว และยาเสพติดกำลังระบาดหนัก และในห่วงเทศกาลฟูนมูลปาร์ตี้ ยาเสพติดจะแพร่หลาย จึงได้ทำการกวาดล้างยาเสพติดก่อนฟูนมูลปาร์ตี้ และในเบื้องต้นทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพไปถึงเครือข่ายในเกาะพะงันหลายราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่า ทำการหาหลักฐานพร้อมจับกุมต่อไป