สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุเรือล่มที่สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ส่วนเรือเฟอร์รี่เข้าเกาะพะงันไม่สามารถจอดเทียบท่าได้
วันนี้ (17 มี.ค.) ร.ต.ท.ก้องเกียรติ เหมทานนท์ ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ 517 กองกำกับการตำรวจน้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุเรือตกปลาถูกคลื่นสูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มจมลงที่บริเวณห่างจากเกาะปราบ อ.กาญจดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ประมาน 200 เมตร มีชาวบ้านที่ออกไปตกปลาและไต๋เรือลอยคออยู่กลางทะเลประมาณ 10 คน หลังได้รับแจ้งจึงได้ นำเรือตรวจการณ์ 517 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ 6 นาย ออกให้ความช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยผู้ประสบภัยทั้งหมดขึ้นมาอย่างปลอดภัยท่ามกลางคลื่นลมที่สูงกว่า 2 เมตรนี้
นายทศพล สิทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี ไต๋เรือ กล่าวว่า ตนได้นำเรือประมงดัดแปลงชื่อ “ยอดอนงค์” ขนาดความยาว 9 วา ชนิดวางเครื่องท้องกลาง นำชาวบ้านประมาณ 10 คน ออกไปตกปลาที่บริเวณหมู่เกาะอ่างทองตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม เป็นต้นมา ขณะนำเรือ กลับเข้าฝั่งเมื่อมาถึงบริเวณเกาะปราบ เครื่องดูดน้ำเกิดเสียกะทันหันจึงจอดซ่อม ขณะจอดเรือลอยลำอยู่นั้นเกิดฝนตกและมีลมแรงคลื่นสูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มเข้าบริเวณท้ายเรือ จึงเป็นเหตุให้เรืออับปางทันที โชคดีที่ทุกคนสวมเสื้อชูชีพจึงปลอดภัย แต่ก็ต้องลอยคออยู่ในทะเลจนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีเรือลำดังกล่าวประสบเหตุล่มกลางทะเลแล้ว พบว่า เรือประมงซึ่งจอดหลบคลื่นลมอยู่บริเวณอ่าวโฉลกหลำ ม.7 ต.โฉลกหลำ อ.เกาะพะงัน ถูกคลื่นซัดล่มด้วย 3 ลำ โดยที่ลูกเรือประมงสามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้อย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สภาพคลื่นลมแรงในวันนี้ส่งผลให้เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะพะงัน พร้อมผู้โดยสารประมาณ 200 คน ไม่สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ จนต้องกลับไปเทียบท่าที่เกาะสมุยแทนเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวเตือนชาวประมงระมัดระวังในการเดินเรือขณะนี้ เรือเล็กห้ามออกจากฝั่งเด็ดขาด นอกจากนั้น ยังกำชับผู้ปกครองนักเรียน และชาวบ้านที่อยู่ชายทะเล ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลลูกหลานช่วงปิดภาคเรียนห้ามนำเรือออกทะเล เพื่อป้องกันเหตุเรือล่ม หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์นักเรียนนำเรือหางยาวออกไปหาสัตว์ทะเลล่มมาแล้วครั้งหนึ่งจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 ราย
