กระบี่ -คนร้ายบุกยิงดับนายหน้าค้าที่ดินกระบี่ เผยก่อนถูกสังหารมีโทรศัพท์ข่มขู่หลายครั้งก่อนพบจุดจบ
พ.ต.ท.กิตติธัช แดงนุ้ย สารวัตรเวรสอบสวนสภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เปิดเผยว่ารับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอ่าวลึก แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก. สภ.อ่าวลึก ,พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิไล รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดกระบี่ และชุดสืบสวน
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสมชัย ลาภวานิช อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 ม.3 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก สภาพศพถูกยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัด หน้าอกขวา 2 นัด ต้นแขนขวา 2 นัด และหัวไหล่ขวา 1 นัด ส่วนสถานที่เกิดเหตุทราบว่าอยู่ที่หน้าบ้านของผู้ตาย จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวมีบริเวณ และข้างบ้านเพาะเลี้ยงกล้ายาง ที่บริเวณประตูหน้าบ้านพบกองเลือดจำนวนมาก และห่างจากกองเลือดประมาณ 3 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 4 ปลอก
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรอบๆ บริเวณบ้านเป็นถนนลูกรังข้างบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร พบอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ไม่มีกระสุน รองเท้าหุ้มส้นสีดำ 1 ข้างตกอยู่ในพงหญ้า จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพทำสวนยางพาราและเพาะเลี้ยงกล้ายางขาย รวมทั้งเป็นนายหน้าค้าที่ดิน
ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์กลับจากบ้านญาติ เมื่อมาถึงบ้านได้จอดรถแล้วเปิดประตูเข้าบ้านจากนั้นคนร้ายที่ฉวยโอกาสมาดักรออยู่ได้เดินออกมา และเรียกชื่อผู้ตายก่อนที่จะใช้ปืนยิงใส่ไม่ยั้งก่อนหลบหนีไป
จากการสอบสวนนายนพฤทธิ์ ลาภวานิช บุตรชายของผู้ตายให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินแค่เสียงปืน ซึ่งตนได้ปลูกบ้านห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 20 เมตร เมื่อออกมาดูพบว่าพ่อนอนจมกองเลือดอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ยินเสียงรถใดๆ และเบื้องต้นพบว่ามีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหายไป 1 เส้น โดยผู้ตายนั้นพักอาศัยที่บ้านดังกล่าวเพียงคนเดียว หลังจากแยกทางกับภรรยาเมื่อหลายปีที่แล้ว ขณะที่ลูกๆชายหญิงได้แยกไปสร้างบ้านเรือนตัวเองแต่ก็ไม่ห่างกัน
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวโดยเฉพาะประเด็นการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีโทรศัพท์มาข่มขู่ผู้ตายเกี่ยวกับค่านายหน้าที่ได้มีการขายที่ดินได้แล้ว ไม่ได้แบ่งให้กัน แต่ในส่วนของการชิงทรัพย์ก็ยังไม่ตัดทิ้ง รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่จะต้องสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.ท.กิตติธัช แดงนุ้ย สารวัตรเวรสอบสวนสภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เปิดเผยว่ารับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอ่าวลึก แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก. สภ.อ่าวลึก ,พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิไล รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดกระบี่ และชุดสืบสวน
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสมชัย ลาภวานิช อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 ม.3 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก สภาพศพถูกยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัด หน้าอกขวา 2 นัด ต้นแขนขวา 2 นัด และหัวไหล่ขวา 1 นัด ส่วนสถานที่เกิดเหตุทราบว่าอยู่ที่หน้าบ้านของผู้ตาย จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวมีบริเวณ และข้างบ้านเพาะเลี้ยงกล้ายาง ที่บริเวณประตูหน้าบ้านพบกองเลือดจำนวนมาก และห่างจากกองเลือดประมาณ 3 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 4 ปลอก
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรอบๆ บริเวณบ้านเป็นถนนลูกรังข้างบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร พบอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ไม่มีกระสุน รองเท้าหุ้มส้นสีดำ 1 ข้างตกอยู่ในพงหญ้า จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพทำสวนยางพาราและเพาะเลี้ยงกล้ายางขาย รวมทั้งเป็นนายหน้าค้าที่ดิน
ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์กลับจากบ้านญาติ เมื่อมาถึงบ้านได้จอดรถแล้วเปิดประตูเข้าบ้านจากนั้นคนร้ายที่ฉวยโอกาสมาดักรออยู่ได้เดินออกมา และเรียกชื่อผู้ตายก่อนที่จะใช้ปืนยิงใส่ไม่ยั้งก่อนหลบหนีไป
จากการสอบสวนนายนพฤทธิ์ ลาภวานิช บุตรชายของผู้ตายให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินแค่เสียงปืน ซึ่งตนได้ปลูกบ้านห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 20 เมตร เมื่อออกมาดูพบว่าพ่อนอนจมกองเลือดอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ยินเสียงรถใดๆ และเบื้องต้นพบว่ามีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหายไป 1 เส้น โดยผู้ตายนั้นพักอาศัยที่บ้านดังกล่าวเพียงคนเดียว หลังจากแยกทางกับภรรยาเมื่อหลายปีที่แล้ว ขณะที่ลูกๆชายหญิงได้แยกไปสร้างบ้านเรือนตัวเองแต่ก็ไม่ห่างกัน
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวโดยเฉพาะประเด็นการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีโทรศัพท์มาข่มขู่ผู้ตายเกี่ยวกับค่านายหน้าที่ได้มีการขายที่ดินได้แล้ว ไม่ได้แบ่งให้กัน แต่ในส่วนของการชิงทรัพย์ก็ยังไม่ตัดทิ้ง รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่จะต้องสอบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
