ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - การก่อสร้างบ้านรวมน้ำใจช่วยเหลือนักเรียนประสบภัยในพื้นที่สงขลา เป็นไปอย่างล่าช้า สร้างเกือบ 3 เดือน มีเพียงหลังคา คานและเสา ครอบครัวนักเรียนเดือดร้อนหนักต้องอยู่กินกันในเพิงสังกะสี
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การก่อสร้างบ้านรวมน้ำใจช่วยเหลือนักเรียนประสบภัย โครงงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 สำนักบริหารการมัธยมศึกษาตอนปลายและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่สร้างให้แก่นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอุทกภัยวาตภัยในพื้นที่จ.สงขลา จำนวน 5 หลังๆ ละ 175,000 บาท รวมเป็นเงิน 875,000 บาท เป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ครอบครัวของนักเรียนยังต้องกินนอนในเพิงสังกะสีผุพัง เนื่องจากบ้านใหม่ยังสร้างไม่เสร็จและคาราคาซัง มีเฉพาะหลังคา คาน และเสาบ้าน แม้จะผ่านมากว่า3 เดือน
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของบ้านรวมน้ำใจช่วยเหลือนักเรียนประสบภัย โครงงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม ที่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 4 ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของนายสงวน และนางสงบ ทองแดง พ่อแม่ของ ด.ญ.วรัชยา ทองแดง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสทิงพระวิทยา ที่ได้รับการพิจารณาขอบ้านหลังใหม่ให้จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16
สำหรับบ้านหลังนี้ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2554 เป็นต้นมาเป็นบ้านขนาดกว้าง 4.8 เมตร ยาว 7 เมตร ยกพื้นสูง 1 เมตร หลังคามุงกระเบื้องลอนคู่ ฝาใช้ก่ออิฐบล็อก พื้นใช้แผ่นบล็อกสำเร็จในการปูพื้น โดยใช้แรงงานนักการภารโรงของโรงเรียนเจ้าของบ้านและชาวบ้านเป็นหลักในการก่อสร้าง
แต่เนื่องจากระยะเวลาในการก่อสร้างล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน การก่อสร้างบ้านยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ขณะนี้การก่อสร้างได้ดำเนินการเทคาน ตั้งเสาและมุงหลังคาไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลือการปูพื้นสำเร็จรูป ก่ออิฐบล็อกฝาบ้าน ติดตั้งประตูหน้าต่าง ซึ่งงานที่เหลือยังไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากไม่มีการจ้างช่างก่อสร้างที่มีความชำนาญในการก่อสร้างมาดำเนินการ อีกทั้งนักการภารโรงไม่มีเวลามาทำงานอย่างเต็มที่ เพราะมีภารกิจที่โรงเรียนไม่สามารถมาทำงานได้ทุกวัน ทำให้งานก่อสร้างที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2554 ไม่คืบหน้าไปเท่าที่ควร ในขณะที่บ้านที่ทางทหารมาสร้างให้ประชาชนในพื้นที่ อ.สทิงพระ ใช้เวลาในการก่อสร้างเพียง 20-25 วันต่อหลัง เท่านั้นในงบประมาณที่น้อยกว่า
โดยขณะนี้ ด.ญ.วรัชยา ทองแดง พ่อแม่และน้องสาวจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในเพิงสังกะสีที่สร้างขึ้นชั่วคราว เป็นที่อยู่กินและหลับนอน หลังจากที่บ้านเดิมพังเสียหายทั้งหลังจากพายุถล่มเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา เพื่อรอบ้านหลังใหม่เสร็จ
นางสงบ ทองแดง มารดาของ ด.ญ.วรัชยา ทองแดง กล่าวว่า ช่างที่มาทำไม่ใช่ช่างโดยตรงแต่เป็นนักการภารโรงของโรงเรียน เมื่อเปิดห้องเรียนเสร็จแล้วก็มาทำ เมื่อถึงเวลา 3 โมงเย็นก็ต้องรีบกลับไปปิดประตูหน้าต่างโรงเรียน จึงเกิดความล่าช้า หรือในช่วงที่มีงานโรงเรียนมากก็ทิ้งงานไป 1-2 สัปดาห์ ตอนนี้อยู่กันในเพิงสังกะสีทั้งหมด 4 ชีวิต พ่อแม่ลูก กินนอนอยู่กัน เวลาฝนตกแทบจะไม่มีที่นอน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูการก่อสร้างบ้านรวมน้ำใจช่วยเหลือนักเรียนประสบภัย โครงงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม ของนายไกรวิทย์ คงพันทะระ ที่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 2 ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา การก่อสร้างเพิ่งเริ่มตั้งเสาบ้านไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นกันไม่มีการจ้างช่างมาดำเนินการก่อสร้างเป็นหลักเพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็ว
โดยทั้งสองครอบครัวได้เรียกร้องไปยังกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงลงพื้นที่มาดูแลและเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากการสร้างบ้านในโครงการนี้ได้มอบหมายให้ภารโรงของโรงเรียน ชาวบ้านและเจ้าของบ้านช่วยกันก่อสร้าง จึงเกิดความล่าช้าเพราะส่วนใหญ่ติดภารกิจ หากเป็นไปได้ให้ว่าจ้างช่างที่มีความชำนาญหรือหน่วยทหารช่างเข้ามาดำเนินการเพื่อให้เสร็จเร็วขึ้นเนื่องจากขณะนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเพิงสังกะสีอย่างยากลำบาก
