นราธิวาส - ผอ.ชลประทาน จ.นราธิวาส เสริมเครื่องสูบน้ำเข้าดับไฟพรุบาเจาะ ด้านนายอำเภอบาเจาะ เผย เจ้าของสวนปาล์ม และสวนยางพารา จาก 4 หมู่บ้านใน 2 ตำบล แจ้งความแล้ว 32 ราย คิดเป็นเนื้อที่ 640 ไร่ พร้อมเร่งหามือวางเพลิงมาดำเนินคดีโดยด่วน
วันนี้ (8 มี.ค.) นายประดิษฐ์ ปิ่นกระจาย ผู้อำนวยการชลประทาน จ.นราธิวาส กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไฟไหม้วัชพืชชั้นใต้ดินภายในพรุบาเจาะ ทำให้สวนปาล์มและสวนยางพาราของชาวบ้านถูกไฟเผาไหม้ได้รับความเสียหายไปแล้วเป็นวงกว้าง ว่า วันนี้ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว มาติดตั้งเพิ่มอีก 1 ตัว หลังจากสูบน้ำจากคลองทำนบซองเข้าดับไฟไหม้ในพื้นที่สวนปาล์มและสวนยางพารามาตลอดทั้งคืนของวันที่ 7 ต่อเนื่องถึงวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าสามารถดับไฟไหม้ไปได้แล้วกว่า 100 ไร่ และคาดว่า จะสามารถสูบน้ำเพื่อให้ซึมลึกลงไปดับไฟไหม้วัชพืชในชั้นใต้ดินได้ทั้งหมดภายใน 3-5 วันนี้
ด้าน นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอบาเจาะ กล่าวว่า ล่าสุดมีเจ้าของสวนปาล์มและสวนยางพารา จาก 4 หมู่บ้านใน 2 ตำบล คือ บ้านฮูแตทูวอ หมู่ 6, บ้านบือเร๊ะ 2 หมู่ 7 ต.บาเร๊ะใต้ และบ้านกระทุง หมู่ 3, บ้านบากง หมู่ 6 ต.ลูโบ๊ะสาวอ มาแจ้งความเรื่องทรัพย์สินถูกไฟเผาไหม้เสียหายแล้วจำนวน 32 ราย คิดเป็นเนื้อที่รายละ 20 ไร่ รวมเป็น 640 ไร่ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ เร่งทำการสอบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายที่ลอบวางเพลิงเผาผืนป่าพรุมาดำเนินคดีให้ได้ตามคำสั่งของ นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส อย่างเร่งด่วนต่อไป
