สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ขณะนี้ยังพบพื้นที่ถูกไฟไหม้เพิ่มขึ้น โดยจะเป็นพื้นที่สวนยางพารา และสวนปาล์มถูกไฟไหม้ไปกว่า 600 ไร่แล้ว อีกทั้งในช่วงนี้ลมที่พัดแรง ทำให้ไฟขยายวงกว้างออกไปอีก ส่วนที่ทำให้ควบคุมไฟล่าช้า เพราะแหล่งน้ำในป่าพรุมีน้อย ต้องผันน้ำจากคลองยะกัง เข้าไปใช้ในการดับไฟ
นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่เป็นอุปสรรคในการควบคุมไฟ ชาวบ้านไม่กล้าไปดับไฟ เนื่องจากเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย
ซึ่ง นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ระบุว่า สาเหตุไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะมาจากชาวบ้านจุดไฟ เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกและกำจัดวัชพืช ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านแล้ว ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นพบว่า ชาวบ้านกระทุง อ.บาเจาะ เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จากควันไฟที่ปกคลุมหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน เนื่องจากว่าอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนราธิวาาสประมาณ 30 กิโลเมตร
นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่เป็นอุปสรรคในการควบคุมไฟ ชาวบ้านไม่กล้าไปดับไฟ เนื่องจากเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย
ซึ่ง นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ระบุว่า สาเหตุไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะมาจากชาวบ้านจุดไฟ เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกและกำจัดวัชพืช ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านแล้ว ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นพบว่า ชาวบ้านกระทุง อ.บาเจาะ เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จากควันไฟที่ปกคลุมหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน เนื่องจากว่าอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนราธิวาาสประมาณ 30 กิโลเมตร