ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าชมพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ตแล้ว ททท.-สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว พร้อมช่วยประชาสัมพันธ์เริ่มต้นเน้นรับนักท่องเที่ยวคนไทย-จีน เชื่อเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความเป็นอดีต
วันนี้ (3 มี.ค.) นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกะทู้ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ ประธานชมรมพิพิธภัณฑ์ จังหวัดภูเก็ต และ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รวมกันแถลงข่าวเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าชมพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต ทั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 5 ถนนสายกะทู้-เกาะแก้ว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยจะเริ่มเปิดให้บริการรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ ห้องจัดแสดงบันซ้านบางเหนียว เก่วเกี้ยวในทู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ตพร้อมที่จะรองรับผู้เข้าชมแล้วโดยสร้างอยู่บนพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ ใช้งบประมาณในการดำเนินการทั้งงบอุดหนุนและงบสมทบตั้งแต่ปี 2549-ปี 2551 รวมประมาณ 181 ล้านบาท โดยมีการจัดแสดงเล่นเรื่องราวการทำเหมืองแร่ในอดีตที่ผ่านมาทั้งพื้นที่ด้านนอกอาคาร และภายในอาคาร
ในส่วนของด้านนอกอาคาร ยังสามารถพัฒนาปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่งการสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ตนั้น ตรงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตด้านการท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นนอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีหาดทราย ชายทะเล ซึ่งพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่นั้นเป็นการนำเสนอขายทางด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต
ในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต จะต้องมีสิ่งเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องจะอาศัยขายเพียงธรรมชาติอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้ภูเก็ตเป็นเมือง “ครีเอทีฟทัวริสซึม” เมื่อถึงจุดนั้น จังหวัดภูเก็ตก็จะสามารถเลือกนักท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตได้
ด้าน นายชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกะทู้ กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ตเกิดขึ้นจากแนวความคิดที่จะส่งเสริมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและประวัติศาสตร์ชุมชน โดยเฉพาะตำบลกะทู้ในอดีตมีการทำเหมืองแร่เกือบทั่วพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เป็นการนำต้นทุนทางประวัติศาสตร์มาทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในจัดให้มีการแสดงนิทรรศการภายใต้ชื่อ “เปิดลับแลม่านฟ้าเกาะพญามังกรทอง” มีห้องแสดงนิทรรศการในอังมอเหลา ซึ่งประกอบไปด้วย โปท้องหง่อก่ากี่ชิน วิถีอัญมณีนายหัวเหมือง,เรืองดารากรสายแร่แห่งชีวิต, นิรมิตเล่นแร่แปรธาตุ, ฉลาดนาวาชีวิตลิขิตปรัชญ์สืบสาน, บันซ้านบางเหนียว, เก่วเกี้ยวในทู และห้องอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ด้านนายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ตนั้นเป็นเรื่องที่ดี ที่จะทำให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาวิถีชีวิตของคนภูเก็ตในอดีต รวมทั้งวิถีชีวิตการทำเหมืองแร่ การสร้างเมืองภูเก็ต และจุดเปลี่ยนแบบก้าวกระโดดของการสร้างเมืองภูเก็ต เชื่อว่า พิพิธภัณฑ์เหมืองแต่ภูเก็ตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ เพราะปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวต่างก็ต้องการที่จะศึกษาเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม วิถีชีวิตนอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ
ที่ผ่านมา ภูเก็ตมักจะถูกเปรียบเทียบกับบาหลี ในเรื่องของวัฒนธรรมหลายคน บอกว่า มาภูเก็ตไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ ซึ่งจริงแล้วในส่วนของภูเก็ตเรามีทั้งวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต เพียงแต่ยังมีไม่มีใครนำมาเสนอต่อนักท่องเที่ยวเท่านั้นเอง
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่คาดว่าน่าจะได้รับความสนใจหลังจากมีการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย และคนจีน เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังแสวงหาความเป็นอดีต โดยเฉพาะชาวจีนนั้นสามารถที่จะมาศึกษาวิถีชีวิตของชาวจีน ที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะการศึกษาวิถีชีวิตในช่วงที่จีนปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นจุดขายที่สำคัญของตลาดจีน นอกจากนั้น ในการทำโรดโชว์ในต่างประเทศทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ก็พร้อมที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ
ขณะที่นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ทาง ททท.พร้อมที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและคนไทยได้รู้จัดแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ เพราะถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาท่องเที่ยวในมิติแห่งการเรียนรู้ ซึ่งปัจจุบันนี้เทรนความต้องการของนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการเรียนรู้มากขึ้นโดยเฉพาะทางด้านวัฒนธรรม