ตรัง - พบหนุ่มวัย 28 ปี ป่วยโรคดักแด้มาตั้งแต่เกิด แต่ต่อสู้ชีวิตจนอาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ แม้ไปไหนจะถูกคนมองแต่ก็ไม่สนใจและรู้สึกโกรธ เผยโชคดีได้รับกำลังใจจากครอบครัวจนต่อสู้ทุกอย่างมาได้ พร้อมตั้งเป้าเรียนจบแล้วจะทำงานคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นอาชีพหารายได้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 409/45 ถนนห้วยยอด ตำบลทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง หลังจากได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านรายหนึ่ง กำลังประสบกับอาการป่วยโดยโรคไม่มีต่อมไขมันใต้เซลล์ผิวหนัง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคดักแด้ โดยได้พบกับ นายเฉลิมพันธ์ พันธ์พิเชษฐ์ หรือ บ๊อบ อายุ 28 ปี พร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในครอบครัวที่ช่วยดูแลรักษา รวมทั้งให้กำลังใจให้ลูกชายต่อสู้กับโรคดังกล่าวนี้มาโดยตลอด
นายเฉลิมพันธ์ หรือ บ๊อบ เล่าว่า ตนเองได้มีอาการป่วยเป็นโรคดักแด้มาตั้งแต่กำเนิด และยังเป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด คือ คลอดตอนอายุครรภ์ได้แค่ 7 เดือน ซึ่งในยุคนั้นคุณแม่ก็ไม่ได้มีการตรวจครรภ์ เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ยังไม่ค่อยจะก้าวหน้า จึงทำให้ไม่ทราบถึงอาการผิดปกติดังกล่าวของลุกชายคนที่ 2 ขณะที่ลูกชายคนแรกซึ่งเป็นพี่ชายได้คลอดออกมาเป็นปกติ และไม่มีอาการป่วยด้วยโรคดักแด้แต่อย่างใดเลย
ทั้งนี้ นายเฉลิมพันธ์ หรือ บ๊อบ บอกว่า ยามใดที่เป็นแผลจะทำให้ตนเองมีความรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เนื่องจากโรคนี้จะมีการผลัดเปลี่ยนผิวหนังอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ความเจ็บดังกล่าวนั้นตนเองกลับรู้สึกชาชินแล้วเพราะเป็นมาตลอดทั้งชีวิต แต่หลังจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตนเองได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯ อาการป่วยก็เริ่มจะดีขึ้น ทำให้ตนสามารถเข้าเรียนหนังสือได้เหมือนกับบุคคลทั่วไป และยังสามารถทำงานบ้านได้ทุกอย่างเหมือนกับคนปกติด้วย
สำหรับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคดักแด้นั้น แพทย์ให้ความเห็นว่าสามารถทำให้ดีขึ้นได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลา ซึ่งขณะนี้การรักษาก็มีทั้งการทานยา และการทายา ทั้งนี้ เวลาที่ตนเองต้องออกไปข้างนอกและมีคนมองแต่ก็ไม่ได้โกรธ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนส่วนใหญ่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ทุกคนจะช่วยให้กำลังใจ และแนะนำวิธีรักษา โดยเฉพาะครอบครัวจะให้กำลังใจดีมากๆ จนทำให้ตนเองไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อย และยังดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก
โดยขณะนี้นายเฉลิมพันธ์กำลังเรียนหนังสืออยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. จังหวัดตรัง และมีความหวังว่าในอนาคตตนเองจะได้เข้าทำงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นงานที่ชื่นชอบและสนใจมาอย่างยาวนานแล้ว