xs
xsm
sm
md
lg

สองพี่น้องบอดตาใสอยู่ในโลกมืด - พ่อแม่วอนคนใจบุญช่วยรักษาดวงตาลูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สองสามีภรรยา อาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ระทมทุกข์ ลูกชาย-ลูกสาว เกิดมาบอดตาใส อยู่ในโลกมืดทั้ง 2 คน วอนหน่วยงานภาครัฐ ประชาชนผู้ใจบุญช่วยเหลือ ให้แสงสว่างรักษาดวงตาลูก

นางปัทมาภรณ์ บุญวิเศษ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 3 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ขอความช่วยเหลือมายังสื่อมวลชน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า พบ ด.ช.นพรัตน์ วิทยาดิลก อายุ 5 ขวบ และ ด.ญ.กมลทิพย์ วิทยาดิลก อายุ 3 ขวบ อยู่ในโลกมืด บอดตาใสทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นลูกของ นายวรพจน์ อายุ 33 ปี และ นางอมรรัตน์ วิทยาดิลก อายุ 26 ปี พักอยู่ในห้องพักไม่มีเลขที่ ม.3 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ อาชีพรับจ้างก่อสร้าง ซึ่งพ่อแม่ของเด็กได้วอนให้หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้มีใจบุญช่วยเหลือ พาลูกไปรักษาดวงตา เพื่ออนาคตที่ดีของลูก เพราะลำพังครอบตัวเองคงไม่มีปัญญาพาลูกไปรักษาให้หายอย่างแน่นอน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังห้องพักบ้านดังกล่าว ตั้งอยู่ริมทางรถไฟ ระหว่างสถานีสวนนงนุชพัทยา กับสถานีรถไฟพลูตาหลวง พบว่า เด็กทั้ง 2 คน กำลังอยู่ในวัยซน มีพ่อ และแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และได้มีกลุ่มผู้ขับขี่รถ 2 ล้อ ภาคตะวันออก ที่ทราบข่าวเดินทางไปเยี่ยม พร้อมยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้น ด้วยการรวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธาได้จำนวนหนึ่ง แล้วเปิดบัญชีธนาคารให้กับเด็กทั้ง 2 คน เพื่อเก็บไว้รักษาดวงตา พร้อมกับติดต่อประสานงานไปยัง โรงเรียนสอนตาบอด มหาไถ่พัทยา รับตัวไปพักอาศัย ทำการรักษาให้ตาหายบอด

นายวรพจน์ วิทยาดิลก ผู้เป็นพ่อของเด็ก กล่าวว่า เสียใจอย่างมากที่ลูกชายและลูกสาวที่เกิดมามีดวงตาเปิดเหมือนคนทั่วไป แต่ต้องมาบอดตาใส ไม่สามารถมองเห็นต้องอยู่ในโลกมืด ลูกคงทุกข์ทรมานอย่างมาก อีกทั้งคงไม่มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนเหมือนคนอื่นๆ ลุกชายคนโต ตอนเล็กมีอาการเป็นไข้ และชักบ้าง ส่วนลูกสาวคนเล็กไม่มีอาการใดๆ พบความผิดปกติยิ่งเจริญเติบโต ดวงตายิ่งมองไม่เห็น ได้ตรวจสอบทั้งในอดีตและปัจจุบันในตระกูลของตัวเอง และภรรยาไม่มีใครเป็นโรคบอดตาใสแต่อย่างใด หรืออาจจะเป็นเรื่องของเวรกรรมที่ต้องมาดูแลลูกตาบอด จึงขอความกรุณาจากผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือพาลูกไปรักษาให้สามารถพบแสงสว่าง จะได้มีโอกาสเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ ลำพังตัวเองและภรรยา คงไม่มีปัญญาพาลูกไปรักษาได้ อาชีพรับจ้างก่อสร้าง มีเพียงเลี้ยงตัวเอง ครอบครัวให้รอดไปวันๆ เท่านั้น

ทางด้าน นางปัทมาภรณ์ บุญวิเศษ กล่าวว่า เมื่อไม่นานได้ขับรถผ่านมาบนถนนเลียบทางรถไฟ หน้าที่พักของนายวรพจน์ เห็นว่า กำลังจูงมือลูกทั้ง 2 คนเดินแบบสะเปะสะปะ หันรีหันขวาง จึงได้จอดรถถาม จนทราบว่า ลูกทั้ง 2 คนที่ต้องจูง เพราะเขาตาบอดทั้งคู่ จึงได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับเพื่อนๆ กลุ่มผู้ขับขี่รถ 2 ล้อ ภาคตะวันออก จึงได้ร่วมกันบริจาคเงินมาได้บ้าง นำเข้าบัญชีฝากไว้ให้เด็กทั้ง 2 คน ใช้ในการรักษาดวงตา และได้มารับไปส่งที่โรงเรียนสอนคนตาบอด ศูนย์มหาไถ่พัทยา เพื่อหาแนวทางในการช่วยกันรักษาดวงตาเด็กให้พ้นจากการใช้ชีวิตในโลกมืดอีกต่อไป และได้วิงวอนภาครัฐ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันทำบุญรักษาดวงตาเด็ก 2 คน อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีผู้ใจบุญมารับเด็กทั้ง 2 คน ไปอาศัยอยู่ที่โรงเรียนสอนคนตาบอด นายวรพจน์ ได้กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า จำใจ จำทน ต้องพลัดพรากจากลูกตาบอดทั้ง 2 คนให้ไปอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ก็เพราะมีความหวังสูงสุดเพื่ออนาคตที่ดีของลูก

ส่วน เด็กหญิงแพรฟ้า บำรุงกิจ อายุ 6 ขวบ นักเรียนอนุบาล 3 โรงเรียนอนุบาลบ้านเตาถ่านที่คอยดูแล พาน้องทั้ง 2 คนเล่น ทั้งที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน ถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะน้องทั้ง 2 คน ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่อื่นและเป็นห่วงน้อง เกรงน้องจะไม่มีเพื่อนเล่น เหงา ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ต้องน้ำตาไหลไปตามๆ กัน


กำลังโหลดความคิดเห็น