xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายปาดคอชิงทรัพย์นักข่าวไทยโพสต์ในซอยเสือใหญ่ฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุวัฒน์ ปัญจวงศ์ อายุ 29 ปี ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ สื่อมวลชนเคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อโจรกลางกรุงที่มีชุกชุม
คนร้ายปาดคอชิงทรัพย์นักข่าวไทยโพสต์บาดเจ็บสาหัสภายในซอยเสือใหญ่อุทิศ หามส่งโรงพยาบาลลาดพร้าวรอดหวุดหวิด หมอเผยคนเจ็บได้สติแล้วแต่การตอบสนองยังช้าให้รอดูอาการ ในห้องไอซียู 5 -7 วัน

วันนี้ (18 มี.คง) เมื่อเวลา 05.30 น. นายนายสมชาย ปัญจวงศ์ อายุ 58 ปี อาจารย์สอนหนังสือที่โรงเรียนวัดลาดปลาเค้าวิทยาคม บิดาของ นายสุวัฒน์ ปัญจวงศ์ อายุ29 ปี ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพส สายอาชญากรรม ประจำศาลอาญา ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ชานนท์ ทองเกษม พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้ถูกคนร้ายชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันที่บริเวณคอด้านซ้ายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคนร้ายได้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6300 ราคาประมาณ 8-9 พันบาท หลบหนีไป เหตุเกิดใกล้ร้านเหล้า ชื่อสเตลเลอร์ (Sterler ) เลขที่ 19/9 ด้านหลัง ม.ราชภัฎจันทร์เกษม ซ.รัชดาภิเษก 36 แยก9-11 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลาประมาณ 02.00 ของวันที่ 18 มีนาคม โดยขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลลาดพร้าว อาการสาหัส แพทย์ช่วยเหลือผ่าตัดอยู่ในห้องไอซียูอย่างเร่งด่วน

นายสมชาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุลุกชายได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนรุ่นน้องอีก 2 คน ที่ร้านสเตลเลอร์ จากนั้นหลังร้านปิด ลูกชายได้เดินออกจากซอยมากับเพื่อนรุ่นน้องเพื่อเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน เนื่องจากบริเวณหน้าร้านเหล้าไม่ค่อยมีแท็กซี่วิ่งผ่าน ซึ่งภายในซอยเป็นจุดเปลี่ยวและมืดมาก โดยรุ่นน้องทั้งสองคนได้เรียกแท็กซี่นั่งกลับไปพร้อมกัน ระหว่างที่ลูกชายกำลังรอรถแท็กซี่อยู่คนเดียว ได้มีคนร้ายเป็นชายใช้อาวุธมีดสปาต้า เข้ามาข่มขู่เอาโทรศัพท์มือถือไป ซึ่งลูกชายก็ให้ไปเพราะกลัวถูกทำร้าย แต่คนร้ายยังข่มขู่จะเอากระเป๋าสะพายอีก ซึ่งข้างในมีแท็บเลตและกระเป๋าเงินอยู่ด้วย โดยลูกชายตนไม่ยอมให้จึงได้มีการยื้อยุดฉุดกระชากกัน

นายสมชาย กล่าวอีกว่า จากนั้นคนร้ายจึงใช้มีดฟันที่ลำคอลูกชายและวิ่งหลบหนีไป โดยได้ทรัพย์สินโทรศัพท์มือถือไปเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น หลังเกิดเหตุลูกชายตั้งสติได้เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงพยาบาลลาดพร้าว และระหว่างทางได้โทรศัพท์บอกตนให้ทราบเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น แต่ระหว่างนั่งรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล โชเฟอร์แท็กซี่สังเกตเห็นลูกชายมีเลือดออกมาก จึงได้แวะเข้าไปยังโรงพยาบาลเปาโลฯ โชคชัย 4 ก่อน เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาเบื้องต้น ซึ่งแพทย์ระบุว่าถ้ามาช้ากว่านี้เพียงแค่ 2 นาทีก็อาจเสียชีวิตได้ เพาะบาดแผลฉกรรจ์สาหัสมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว เพื่อทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนจนพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเกือบที่จะสูญเสียลูกชายไป

ขณะนี้อาการนายสุวัฒน์ ได้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูของโรงพยาบาลลาดพร้าว มีบาดแผลสาหัสที่ลำคอด้านซ้าย โดยแพทย์ได้ทำการเข้าเฝือกที่ให้เพื่อรักษาบาดแผล ขณะนี้รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังตอบสนองได้ช้า โดยแพทย์ให้รอดูอาการ 5-7 วัน เพราะเกรงว่าอาจจะติดเชื้อได้

ด้าน พ.ต.ท.ศันย์ชัย พานิชกุล รอง ผกก.สส. สน.พหลโยธิน กล่าวว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบลงไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ หาพยานที่เห็นเหตุการณ์ และกล้องวงจรปิดใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก เพราะจุดเกิดเหตุเป็นซอยมืดและเปลี่ยว ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เพราะว่าอาการยังสาหัส จึงต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นเสียก่อน


ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.อ.ต.ธนกฤต ลิ้มรัตน์ ผอ.โรงพยาบาลลาดพร้าว เปิดเผยอาการล่าสุด ของนายสุวัฒน์ ว่า ในขณะนี้ผู้บาดเจ็บอาการปลอดภัยแล้ว รู้สึกตัวและมีสติดี โดยดูจากบาดแผลคนร้ายได้ใช้ของแข็งที่มีคม ลักษณะกระแทกเข้าที่ไหปลาร้าด้านซ้าย ถูกเส้นเลือดดำใหญ่ฉีกขาด และบาดแผลมีความลึก 7 เซนติเมตร ความยาว 3 - 4 เซนติเมตร โดยแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการเย็บเส้นเลือดดำและผิวหนังปิดอีก 1 ชั้น และจากบาดแผลดังกล่าวได้ส่งผลให้แขนข้างซ้ายของคนไข้มีอาการอ่อนแรง ซึ่งส่งผลมาจากบาดแผลดังกล่าวกระทบเส้นประสาท คาดว่าหลังจากนี้จะต้องทำกายภาพบำบัดด้วย และจะต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากนี้จะต้องรอดูอาการว่าจะมีสภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อหรือไม่ เนื่องจากไม่ทราบว่าอาวุธที่คนร้ายใช้สกปรกหรือมีเชื้อโรคหรือไม่ ซึ่งต้องเฝ้าดูอาการติดเชื้อภายใน 48 ชั่วโมง และใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลกว่า 2 สัปดาห์ ถึงจะสามารถกลับบ้านได้
พ.ต.อ. ชาตรี กาณจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน เข้าเยี่ยมอาการ ต้นไทยโพสต์ที่โรงพยาบาลลาดพร้าว
ที่เกิดเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น