ชาวสวนยางพัทลุงปลูกแตงกวาแซมสวนยาง สร้างรายได้หลังปลูกยางใหม่

พัทลุง - ชาวสวนยางในจังหวัดพัทลุงหันมาปลูกแตงกวาแซมสวนยางในพื้นที่ว่างที่ปลูกยางใหม่ หลังถูกพายุพัดถล่มสวนยางได้รับความเสียหาย สร้างรายได้งามให้เกษตรกร

วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากที่สวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดพัทลุงได้ถูกพายุพัดถล่มได้รับความเสียหายหลายหมื่นไร่ จนทำให้เกษตรกรชาวสวนยางบางรายต้องล่มสลาย เนื่องจากสวนยางพาราได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่หลังจากที่ชาวสวนได้ตัดต้นยางพาราที่ล้มออกและทำการปลูกทดแทน ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 7 ปี ทำให้ขาดรายได้ไป แต่มีเกษตรกรอีกหลายรายไม่ย่อท้อ ใช้พื้นที่ว่างระหว่างแถวของการปลูกยางพาราสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำการปลูกพืชระยะสั้นอย่างแตงกวา ใช้ระยะการปลูกเพียงไม่กี่วันก็สามารถให้ผลผลิตออกสู่ตลาดสร้างรายได้อย่างงาม

นายสมคิด อ่อนคำวงศ์ เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากที่สวนยางพาราโดนพายุพัดถล่มเสียหาย และได้ทำการปลูกทดแทนใหม่ แต่ต้องรออีก 7 ปี กว่าจะได้รับผล ซึ่งในขณะที่รอนั้นก็ได้ใช้พื้นที่ว่างระหว่างแถวปลูกพืชแซมเพื่อสร้างรายได้ โดยการปลูกแตงกวาในพื้นที่ 5 ไร่ เป็นพืชแซม จนสามารถสร้างรายได้อย่างงาม เนื่องจากช่วงนี้แตงกวามีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ10 บาท ซึ่งตลาดจำหน่ายส่วนใหญ่จะส่งขายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยขณะนี้สามารถให้ผลผลิตวันละไม่ต่ำกว่า 4,000 บาท ต่อวัน

นายสมคิดยังกล่าวอีกว่า สำหรับการปลูกแตงกว่านั้น ต้นทุนการปลูกขณะนี้อยู่ 6,000 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี ค่าร้านให้แตงเลื้อยเกาะ และดินที่เหมาะสมกับการปลูกแตงกวา คือ ดินร่วนปนทราย อากาศที่เหมาะสม จะต้องไม่ร้อนและไม่หนาวเกินไปนัก ถ้าอากาศร้อนเกินไปจะให้ผลผลิตน้อยและมีแมลงรบกวนมาก

นายสมคิดกล่าวเสริมอีกว่า เทคนิคการปลูกแตงให้ได้ผลผลิตดี คือ ต้องหมั่นใส่ใจดูแล บวกกับความขยันรดน้ำให้ชุ่มตลอดเวลา เท่านี้แตงกวาก็สามารถสร้างรายได้อย่างงามในระยะสั้นเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น