ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผวจ.ภูเก็ต ระบุ 2 เดือนที่ผ่านมา แก้ปัญหายาเสพติดได้แล้ว 70% ขณะที่การบำบัดฟื้นฟูโดยความสมัครใจยังไม่ประสบความสำเร็จเหตุผู้ปกครองไม่ให้ความร่วมมือ
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกลุ่มจังหวัด 2 ศาลากลางจังหวัด (อาคารหลังใหม่) นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการรักษาความรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2/2554 พร้อมกล่าวถึงสถานการณ์การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหายาเสพติดยังถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขตามนโยบายของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2554
ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมชัดเจน จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเร่งรัดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการดำเนินการของศูนย์ให้มีประสิทธิภาพก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ และมีคณะกรรมการฯ ที่จะต้องติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเพื่อเอาชนะยาเสพติดระดับอำเภอ
นายตรี กล่าวต่อไปว่า จากการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตในรอบ 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.54) ซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายในด้านต่างๆ เช่น การปราบปรามและป้องกัน การบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นต้น ภาพรวมสามารถดำเนินการได้มากกว่า 70% โดยบางฝ่ายสามารถดำเนินการได้ทะลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากคณะกรรมการจาส่วนกลางมีกำหนดที่จะมาติดตามผลการดำเนินการก็ขอให้แต่ละฝ่ายเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนในการดำเนินการเร่งด่วน”
นายตรี กล่าวต่อว่า หลายฝ่ายยังคงมีความกังวลใจ ในเรื่องของการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกรณีของการเข้ารับการบำบัดในระบบสมัครใจ เนื่องจากในส่วนของพ่อแม่ผู้ปกครองหรือญาติของผู้เสพจะไม่ให้ความร่วมมือ เดิมกำหนดที่จะส่งตัวผู้เข้ารับการบำบัดไปยังค่ายบำบัดรักษาที่ทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และได้จัดทำเป็นหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา ประกอบกับได้รับการประสานจากทางตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า มีค่ายบำบัดรักษาและยินดีให้การสนับสนุน โดยจะจัดส่งไป 2 รอบ ซึ่งจะส่งไปรอบละ 150 คน
นอกจากนี้ ก็จะพัฒนาในส่วนของค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้เป็นสถานที่ในการฝึกอบรมเกี่ยวกับยาเสพติดและอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้เป้าหมายของการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดแบบสมัครใจในรอบ 3 เดือน กำหนดไว้ 80 คน ขณะนี้ดำเนินการได้แล้ว 60 คน
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกลุ่มจังหวัด 2 ศาลากลางจังหวัด (อาคารหลังใหม่) นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการรักษาความรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2/2554 พร้อมกล่าวถึงสถานการณ์การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหายาเสพติดยังถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขตามนโยบายของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2554
ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมชัดเจน จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเร่งรัดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการดำเนินการของศูนย์ให้มีประสิทธิภาพก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ และมีคณะกรรมการฯ ที่จะต้องติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเพื่อเอาชนะยาเสพติดระดับอำเภอ
นายตรี กล่าวต่อไปว่า จากการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตในรอบ 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.54) ซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายในด้านต่างๆ เช่น การปราบปรามและป้องกัน การบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นต้น ภาพรวมสามารถดำเนินการได้มากกว่า 70% โดยบางฝ่ายสามารถดำเนินการได้ทะลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากคณะกรรมการจาส่วนกลางมีกำหนดที่จะมาติดตามผลการดำเนินการก็ขอให้แต่ละฝ่ายเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนในการดำเนินการเร่งด่วน”
นายตรี กล่าวต่อว่า หลายฝ่ายยังคงมีความกังวลใจ ในเรื่องของการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกรณีของการเข้ารับการบำบัดในระบบสมัครใจ เนื่องจากในส่วนของพ่อแม่ผู้ปกครองหรือญาติของผู้เสพจะไม่ให้ความร่วมมือ เดิมกำหนดที่จะส่งตัวผู้เข้ารับการบำบัดไปยังค่ายบำบัดรักษาที่ทับละมุ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และได้จัดทำเป็นหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา ประกอบกับได้รับการประสานจากทางตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า มีค่ายบำบัดรักษาและยินดีให้การสนับสนุน โดยจะจัดส่งไป 2 รอบ ซึ่งจะส่งไปรอบละ 150 คน
นอกจากนี้ ก็จะพัฒนาในส่วนของค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้เป็นสถานที่ในการฝึกอบรมเกี่ยวกับยาเสพติดและอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้เป้าหมายของการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดแบบสมัครใจในรอบ 3 เดือน กำหนดไว้ 80 คน ขณะนี้ดำเนินการได้แล้ว 60 คน