นราธิวาส - รองแม่ทัพภาคที่ 4 เผยยกปัญหายาเสพติดเป็นภัยต่อความมั่นคง เล็งนำ พ.ร.ก.และกฎอัยการศึกมาใช้เพื่อปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนใต้ ตั้งเป้า 3 เดือนแรก 180 หมู่บ้านคาดว่าจะประกาศใช้ประมาณ 16 ก.พ.นี้
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้นที่ 4 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พล.ต.สุภัช วิชิตการ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยคณะทำงานตรวจติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปส.จชต.ร่วมติดตามการดำเนินงานเพื่อเอาชนะยาเสพติดในระยะเร่งรัด 3 เดือน ตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ จ.นราธิวาส
พล.ต.สุภัช วิชิตการ กล่าวว่า การปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดกำหนดปฏิบัติการในห้วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 ตามนโยบายของรัฐบาลในการปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน โดยมีแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และแผนการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยภาพรวมทั้งประเทศมีเป้าหมายที่จะต้องนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูภายใน 3 เดือน ให้ได้ 30,000 คน
ซึ่งในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มอบหมายให้ ศปส.จชต.เป็นผู้ดูแลและรวบรวมข้อมูลรายงานไปยังส่วนกลาง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการติดตามผลปฏิบัติการของแต่ละจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อสรุปความก้าวหน้าให้เห็นเป็นรูปธรรม และให้การดำเนินงานของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพบรรลุผลตามนโยบายภายในห้วงเวลาที่กำหนดต่อไป
ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นการปฏิบัติการปราบปราม โดยจะมีการประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นภัยความมั่นคง และอนุญาตให้มีการนำพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก. และกฎอัยการศึกมาใช้ในการปราบปราม หากมีความจำเป็นซึ่งคาดว่าน่าจะประกาศใช้ได้ภายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้
นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ ปลัดจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.นราธิวาสว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่อำเภอชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโก-ลกโดยยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดได้แก่ยาบ้า อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติการเร่งรัดตามแผนการปราบปรามของ จ.นราธิวาส กำหนดที่จะเข้าไปปราบปรามในพื้นที่เป้าหมาย 180 หมู่บ้าน และมีแผนที่จะนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู 400 ราย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมอย่างแน่นอน
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้นที่ 4 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พล.ต.สุภัช วิชิตการ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยคณะทำงานตรวจติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปส.จชต.ร่วมติดตามการดำเนินงานเพื่อเอาชนะยาเสพติดในระยะเร่งรัด 3 เดือน ตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ จ.นราธิวาส
พล.ต.สุภัช วิชิตการ กล่าวว่า การปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดกำหนดปฏิบัติการในห้วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 ตามนโยบายของรัฐบาลในการปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน โดยมีแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และแผนการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยภาพรวมทั้งประเทศมีเป้าหมายที่จะต้องนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูภายใน 3 เดือน ให้ได้ 30,000 คน
ซึ่งในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มอบหมายให้ ศปส.จชต.เป็นผู้ดูแลและรวบรวมข้อมูลรายงานไปยังส่วนกลาง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการติดตามผลปฏิบัติการของแต่ละจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อสรุปความก้าวหน้าให้เห็นเป็นรูปธรรม และให้การดำเนินงานของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพบรรลุผลตามนโยบายภายในห้วงเวลาที่กำหนดต่อไป
ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นการปฏิบัติการปราบปราม โดยจะมีการประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นภัยความมั่นคง และอนุญาตให้มีการนำพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก. และกฎอัยการศึกมาใช้ในการปราบปราม หากมีความจำเป็นซึ่งคาดว่าน่าจะประกาศใช้ได้ภายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้
นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ ปลัดจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.นราธิวาสว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่อำเภอชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ตากใบ และ อ.สุไหงโก-ลกโดยยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดได้แก่ยาบ้า อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติการเร่งรัดตามแผนการปราบปรามของ จ.นราธิวาส กำหนดที่จะเข้าไปปราบปรามในพื้นที่เป้าหมาย 180 หมู่บ้าน และมีแผนที่จะนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู 400 ราย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมอย่างแน่นอน