กระบี่ - อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จี้ กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง เร่งสำรวจแนวปะการังที่ประกาศปิดแก้ปัญหาปะการังฟอกขาวได้จริงหรือไม่ เผยถูกต่อว่าจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่อย่างต่อเนื่อง เหตุนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าปิดแหล่งดำน้ำชมปะการังทั้งหมด
นายนิรุทธ์ พุทธพงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกรมอุทยานแห่งช่าติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดเขตอุทยาน ในบางพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน ที่ได้รับความเสียหายจากปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว โดยที่จังหวัดกระบี่ได้มีการประกาศปิดแนวปะการังบริเวณหินกลาง ของเกาะพีพี ม.8 ต.อ่าวนาง อ.เมือง และได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงประจำพื้นที่ เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำดูปะการังบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งสังเกตการณ์ฟื้นตัวของปะการังตามจุดต่างๆ พบว่า มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีการฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไม่มีความเชี่ยวชาญ
นายนิรุทธ์ กล่าวอีกว่า การประกาศปิดเขตอุทยานห้ามดำน้ำชมปะการังแนวหินกลาง เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพีนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่อย่างต่อเนื่อง เพราะนักท่องเที่ยวยังเข้าใจว่า ปิดทั้งเกาะพีพี จึงมีการยกเลิกการเดินทางไปแล้วจำนวนมาก และตนก็ถูกผู้ประกอบการต่อว่าอย่างต่อเนื่อง ว่า ช่วงที่เกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวรุนแรง ทำไมไม่มีการประกาศปิด กลับมาปิดในฤดูกาลท่องเที่ยว และยังมีพื้นที่ปะการังเสียหายมากกว่านี้แต่ไม่มีการปิด แต่กลับมาปิดที่แนวปะการังหินกลาง ขณะที่ปัญหาปะการังฟอกขาวนั้นเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการปิดแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ หากไม่มีการเร่งสำรวจสภาพการฟื้นฟูปัญหาปะการังฟอกขาว อาจกระทบการเสนอพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน เป็นพื้นที่มรดกโลกในอนาคตด้วย
“อยากให้หน่วยงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เปิดประเด็นปะการังฟอกขาว เร่งสำรวจแนวปะการัง ว่า มีการฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน แก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ไม่สามารถที่จะอธิบายกับนักท่องเที่ยวได้ว่า ปะการังจะฟื้นตัวอย่างไร และทำไมไม่ปิดตรงจุดที่เสียหายมากกว่านี้ ขณะเดียวกันทางอุทยานมีเจ้าหน้าที่น้อย ต้องส่งเจ้าหน้าที่ออกประจำกลางทะเลทุกวัน โดยพื้นที่รับผิดชอบกว้างกว่า 200 ไร่ แต่กำลังก็ไม่เพียงพอ” นายนิรุทธ์ กล่าว
นายนิรุทธ์ พุทธพงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกรมอุทยานแห่งช่าติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดเขตอุทยาน ในบางพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน ที่ได้รับความเสียหายจากปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว โดยที่จังหวัดกระบี่ได้มีการประกาศปิดแนวปะการังบริเวณหินกลาง ของเกาะพีพี ม.8 ต.อ่าวนาง อ.เมือง และได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงประจำพื้นที่ เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำดูปะการังบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งสังเกตการณ์ฟื้นตัวของปะการังตามจุดต่างๆ พบว่า มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีการฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไม่มีความเชี่ยวชาญ
นายนิรุทธ์ กล่าวอีกว่า การประกาศปิดเขตอุทยานห้ามดำน้ำชมปะการังแนวหินกลาง เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพีนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่อย่างต่อเนื่อง เพราะนักท่องเที่ยวยังเข้าใจว่า ปิดทั้งเกาะพีพี จึงมีการยกเลิกการเดินทางไปแล้วจำนวนมาก และตนก็ถูกผู้ประกอบการต่อว่าอย่างต่อเนื่อง ว่า ช่วงที่เกิดปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวรุนแรง ทำไมไม่มีการประกาศปิด กลับมาปิดในฤดูกาลท่องเที่ยว และยังมีพื้นที่ปะการังเสียหายมากกว่านี้แต่ไม่มีการปิด แต่กลับมาปิดที่แนวปะการังหินกลาง ขณะที่ปัญหาปะการังฟอกขาวนั้นเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการปิดแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ หากไม่มีการเร่งสำรวจสภาพการฟื้นฟูปัญหาปะการังฟอกขาว อาจกระทบการเสนอพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน เป็นพื้นที่มรดกโลกในอนาคตด้วย
“อยากให้หน่วยงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เปิดประเด็นปะการังฟอกขาว เร่งสำรวจแนวปะการัง ว่า มีการฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน แก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ไม่สามารถที่จะอธิบายกับนักท่องเที่ยวได้ว่า ปะการังจะฟื้นตัวอย่างไร และทำไมไม่ปิดตรงจุดที่เสียหายมากกว่านี้ ขณะเดียวกันทางอุทยานมีเจ้าหน้าที่น้อย ต้องส่งเจ้าหน้าที่ออกประจำกลางทะเลทุกวัน โดยพื้นที่รับผิดชอบกว้างกว่า 200 ไร่ แต่กำลังก็ไม่เพียงพอ” นายนิรุทธ์ กล่าว
