ชุมพร - กลุ่มเกษตรกรชาวสวนกาแฟใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ถูกพ่อค้าหลอกรับซื้อผลผลิตโกงเงินไปกว่า 7 ล้านบาท รวมตัวร้องนายอำเภอช่วยเหลือ
นางพรพิศ ธิศาเวช พร้อมด้วย นางเพ็ญศรี สุทธสนธิ์ และกลุ่มเกษตรกรชาวสวนกาแฟ บ้านสันกำแพง 1 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ประมาณ 50 คน รวมตัวเข้าพบ นายสุรชัย อุทัยรัตน์ นายอำเภอท่าแซะ เพื่อให้ช่วยเหลือ หลังจากถูกพ่อค้าหลอกรับซื้อผลผลิตกาแฟแล้วหลบหนีทำให้เกษตรกรทั้งหมดต้องสูญเสียเงินรวมเกือบ 10 ล้านบาท
นางพรพิศ ธิศาเวช เปิดเผยว่า ตนเองเป็นตัวแทนเกษตรกรชาวสวนกาแฟคอยรวบรวมผลผลิตเมล็ดกาแฟจากเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรู้จักและเครือญาติกัน ซึ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนกาแฟในพื้นที่หมู่ 19 และหมู่ 23 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ โดยกาแฟที่รวบรวมมาจากเกษตรกรทั้งหมดจะมีนายเชาวนิตย์ ฤทธิ์จำนง อายุ 25 ปี และ น.ส.พิลัยพร พรหมหาร อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 8 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นคนพ่อค้าคนกลางมารับซื้อไปส่งขายให้กับนายทุนใหญ่อีกทอดหนึ่ง เนื่องจากหมู่บ้านที่พวกตนอาศัยอยู่ห่างไกลความเจริญต้องเดินทางไกล หากนำไปขายกันเองจะทำมีมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
นางพรพิศกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนกาแฟได้นำผลผลิตออกมาขายแก่พ่อค้าคนกลางในลักษณะนี้มานาน 2-3 ปีแล้ว จึงไว้เนื้อเชื่อใจกันทุกครั้งที่สองสามีภรรยาดังกล่าวมารับซื้อกาแฟไปส่ง ให้กับนายทุนในตัวเมืองชุมพร จากนั้นราว 2 วันก็จะนำเงินมาให้ตนและตนในฐานนะตัวแทนเกษตรกร ก็จะเอาเงินทั้งหมดไปจ่ายให้กับเจ้าของกาแฟตามรายชื่อที่นำกาแฟมาฝากขายไว้ เมื่อกาแฟราคาสูง กก.ละ 80-90 บาท มีกาแฟทั้งหมดจำนวน 775 กระสอบ รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท
ปรากฏว่า เมื่อนายเชาวนิตย์และ น.ส.พิลัยพร สองสามีภรรยาเอารถมาบรรทุกกาแฟไปส่งขายให้กับนายทุนแล้ว ได้ปิดโทรศัพท์มือถือแล้วหายเข้ากลีบเมฆไปเลย และไปติดตามดูที่บ้านของทั้งสองก็ปิดบ้านหลบหนีไปแล้ว จนขณะนี้นานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ไม่ทราบว่าไปอยู๋ที่ไหน คิดว่าถูกโกงอย่างแน่นอนและได้พากันไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ท่าแซะ เพื่อให้ติดตามตัวสองสามีภรรยามาดำเนินคดี พร้อมกับเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายอำเภอให้ช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย เพราะเกษตรกรเกือบทุกคนต้องกู้หนี้ยืมสินมาจาก ธ.ก.ส.เกือบทุกคน จนหมดตัวไม่มีใช้หนี้ต้องเดือดร้อนกันอย่างหนักในขณะนี้
ด้าน นายสุรชัย อุทัยรัตน์ นายอำเภอท่าแซะ เมื่อทราบเรื่องทั้งหมดได้รายงานไปยังนายพินิจ เจริญพานิชย์ ให้รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ปลัดอำเภอดำเนินการร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งติดตามจับกุมสองสามีภรรยามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และให้ผู้เกี่ยวข้องประสานไปยังธนาคารพาณิชย์ในพื้นที่ทั้งหมด ที่สองสามีภรรยาได้เปิดบัญชีธนาคารไว้เพื่ออายัดทรัพย์สิน พร้อมทั้งหามาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน และประกาศให้รางวัลนำจับแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส หรือพบเห็นจนสามารถจับกุมสองสามีภรรยาได้ เป็นเงินจำนวนรายละ 5 หมื่นบาทด้วย
