ยะลา - ผบ.ฉก.ยะลา 11 ลงพื้นที่เหตุคาร์บอมบ์รับฟังความเดือดร้อน จากผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมปรับแผนใหม่ กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนเพิ่ม เผยสวบสวนผู้ต้องสงสัย 9 รายคืบ รอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายนำรถยนต์ซุกซ่อนวัตถุระเบิด มาจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 33 ถนน ณ นคร ข้างร้านเฮนเบเกอรี่ เขตเทศบาลนครยะลา แล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหารวิ่งผ่านมา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังทำให้บ้านเรือนที่เป็นร้านค้าถูกเพลิงไหม้นับสิบคูหา เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
เวลา 08.30 น. วันนี้ (15 ก.พ.) พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อพบปะกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพูดคุยรับทราบปัญหา และแนวทางในการประสานงานให้ความช่วยเหลือ
นางมาลัย โภคสมบูรณ์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านรัฐกิจ ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ได้กล่าวกับ พ.ท.ธนุตม์ ว่าที่ผ่านมาตรงถนน ณ นคร ตรงนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย มีเพียงช่วงกลางคืนที่จะมี อพปร.และหน่วยกู้ภัย ที่มาอยู่ที่บริเวณหน้าธนาคารเท่านั้น แต่กลางวันไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากถนนรวมมิตร ที่จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทุกแยก จึงอยากขอให้ช่วยพิจารณาด้วย
พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผบ.ฉก.ยะลา 11 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งพบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ชาวบ้านก็เล่าให้ทราบถึงความเดือดร้อนที่ได้รับ ตนเองก็จะนำสิ่งที่ชาวบ้านพูดคุย ไปประชุมปรับแผนร่วมกับฝ่ายตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อบูรณาการแผนการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินในบริเวณย่านการค้า ย่านชุมชน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการปรับแผนการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
พ.ท.ธนุตม์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 9 ราย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ข่าวสารพอสมควร ซึ่งอยู่ในระหว่างการรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อมายืนยัน ซึ่งการดำเนินการก็จะใช้กฎหมาย ตามที่ท่านแม่ทัพภาค 4 ได้เน้นย้ำในการปฏิบัติด้วยความละมุนละม่อม รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจทุกช่วงเวลา หากผู้ต้องสงสัยทั้ง 9 เมื่อผ่านการซักถาม แล้วตรวจสอบไม่พบความเกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ก็จะปล่อยตัวไป รวมทั้งจะไปพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อสร้างความเข้าใจ และยืนยันว่าการปฏิบัติตัวกับประชาชนทั้ง 9 รายนั้น จะไม่มีการใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด
