“วิเชียร” ตรวจทำเนียบฯ ซ้อมแผนรับมือ ลั่นห้ามปิดล้อมเด็ดขาด

ผบ.ตร.ตรวจแถวตำรวจ รปภ.ทำเนียบรัฐบาล กำชับห้ามผู้ชุมนุมปิดล้อมเด็ดขาด ชื่นชมการซ้อมแผนรับมือ เชื่อผู้ชุมนุมไม่เคลื่อนตัววันประชุม ครม.พรุ่งนี้ ลั่นยังไม่จำเป็นต้องสลายชุมนุม หากทำพร้อมรับผิดชอบเองไม่หวันมาตรา 157

วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดย ผบ.ตร.ได้เดินตรวจแถวและแนวกั้นระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล และมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่มีสถานการณ์การชุมนุมว่า ขอให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งและปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างละมุนละม่อมหากมีเหตุกระทบกระทั่งกัน รวมถึงให้ป้องกันทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา จากกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ให้มีการปิดล้อมหรือบุกรุกอย่างเด็ดขาด หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะต้องดำเนินการต่อกลุ่มผู้ชุมนุมตามขั้นตอนของกฎหมายและปฏิบัติตามหลักสากล แต่จะไม่ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งที่ผ่านมาก็ขอชมเชยและพึงพอใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ

ภายหลังมอบนโยบายฯ ผบ.ตร.ได้ชมการสาธิตการซักซ้อมแผนรับมือหากมีการปิดล้อมหรือบุกรุกทำเนียบฯ หรือรัฐสภาของเจ้าหน้าที่ชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนทั้งชายและหญิงที่มาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งภายหลังชมการสาธิต พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า รู้สึกพอใจ และจะต้องมีการซักซ้อมแผนอยู่เป็นระยะเพื่อพัฒนาศักยภาพให้เป็นไปในระดับสากล ส่วนการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้เชื่อว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่มีการเคลื่อนไปปิดล้อม และในส่วนของการขอคืนพื้นที่การจราจรจากกลุ่มผู้ชุมนุมขณะนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติที่ชุมนุมอยู่บริเวณถนนพิษณุโลก กับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ถึงความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองจะมาชุมนุมรวมกันเป็นจุดเดียว เพื่อที่จะได้เปิดเส้นทางการจราจรบางส่วนได้

พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวอีกว่า สำหรับแผนการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมยังใช้ตามแผนกรกฎ 52 ซึ่งมี ผบช.น.และรอง ผบช.น.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ตามลำดับชั้นหากต้องมีการสลายการชุมนุม ซึ่งก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติตามนโยบายที่ตนให้ไว้ ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนมาตรา 157 เล่นงาน เพราะตนจะขอรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวเอง แต่อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ตนยังไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการสลายการชุมนุมแต่อย่างใด เพราะเป็นไปตามสิทธิและยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย