ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มก่อสร้างแรงงานเถื่อนชาวกัมพูชาสุดโหด เขม่นเพื่อนร่วมชาติกลางวงเหล้า คว้ามีดปลายแหลมแทงกลางอกซ้าย คมมีดตัดขั้วหัวใจดับอนาถ ก่อนเผ่นหนีหายเข้าป่าพร้อมคนงานชาติเดียวกัน เหลือเพียง 1 ราย เมาสิ้นฤทธิ์นอนฟุบใกล้ผู้ตาย
เวลา 00.30 น.วันนี้ (8 ก.พ.) ร.ต.ท.ปิติชน เทิดเกียรติกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม อยู่ภายในแค้มป์พักคนงานก่อสร้าง ซอยรวมมิตร ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ
ที่เกิดเหตุเป็นแค้มป์พักคนงานก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง มุงด้วยสังกะสีเรียงรายติดกันจำนวน 5 ห้อง บริเวณหน้าห้องที่ 2 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีขาวลายดอก นอนหงายจมกองเลือด สภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้ากลางหัวใจ บาดแผลมีความลึกประมาณ 1 คืบ ปากแผลเปิดกว้างจนเห็นอวัยวะภายใน ทราบชื่อภายหลังคือ นายแพะ อายุ 27 ปี คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ส่วนคนงานก่อสร้างทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา กว่า 10 คน ที่อาศัยอยู่ในแคมป์ดังกล่าว หลังเกิดเหตุทั้งหมดได้วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในป่าด้านหลังแค้มป์คนงาน สามารถติดตามจับกุมได้เพียง 1 ราย คือ นายจันทร์ ทองจันท์ อายุ 31 ปี คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวน นายจันทร์ คนงานก่อสร้างชากัมพูชา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ เนื่องจากได้แสดงท่าทีมีพิรุธ และให้การวงไปวนมา ทราบเพียงว่าก่อนเกิดได้นั่งดื่มเหล้ากับผู้ตาย และคนงานก่อสร้างชาวกัมพูชาด้วยกัน จากนั้นผู้ตายได้เกิดมีปากเสียงกับคนในวงเหล้า (ไม่ทราบชื่อ) จนทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง และชกต่อยกันชุลมุน ก่อนผู้ตายจะพลาดท่าถูกมีดแทงเข้ากลางหัวใจ คมมีดตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาที่ คนร้ายที่ก่อเหตุ รวมถึงคนงานคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ กลัวจะถูกจะกุม จึงได้วิ่งหนีหายเข้าป่าไปคนละทิศละทาง
ร.ต.ท.ปิติชน เทิดเกียรติกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ เผยว่า ในเบื้องต้น ยังไม่ปักใจเชื่อ นายจันทร์ ซึ่งเป็นพยานปากเดียวที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากคำให้การได้พูดวกไปวนมายากจับใจความ และเชื่อว่านายจันทร์ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ไม่กล้าปริปากบอกเพราะเกรงถูกฆ่าตาย
โดยได้ควบคุมตัวนายจันทร์มาทำการสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี พร้อมนำตัวส่งยังโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 ทำการตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการต่อสู้ บาดแผล และหลักฐานอื่นๆ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมือฆ่าโหดคนงานชาติเดียวกันหรือไม่
เวลา 00.30 น.วันนี้ (8 ก.พ.) ร.ต.ท.ปิติชน เทิดเกียรติกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม อยู่ภายในแค้มป์พักคนงานก่อสร้าง ซอยรวมมิตร ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ
ที่เกิดเหตุเป็นแค้มป์พักคนงานก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง มุงด้วยสังกะสีเรียงรายติดกันจำนวน 5 ห้อง บริเวณหน้าห้องที่ 2 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีขาวลายดอก นอนหงายจมกองเลือด สภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้ากลางหัวใจ บาดแผลมีความลึกประมาณ 1 คืบ ปากแผลเปิดกว้างจนเห็นอวัยวะภายใน ทราบชื่อภายหลังคือ นายแพะ อายุ 27 ปี คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ส่วนคนงานก่อสร้างทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา กว่า 10 คน ที่อาศัยอยู่ในแคมป์ดังกล่าว หลังเกิดเหตุทั้งหมดได้วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในป่าด้านหลังแค้มป์คนงาน สามารถติดตามจับกุมได้เพียง 1 ราย คือ นายจันทร์ ทองจันท์ อายุ 31 ปี คนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวน นายจันทร์ คนงานก่อสร้างชากัมพูชา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ เนื่องจากได้แสดงท่าทีมีพิรุธ และให้การวงไปวนมา ทราบเพียงว่าก่อนเกิดได้นั่งดื่มเหล้ากับผู้ตาย และคนงานก่อสร้างชาวกัมพูชาด้วยกัน จากนั้นผู้ตายได้เกิดมีปากเสียงกับคนในวงเหล้า (ไม่ทราบชื่อ) จนทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง และชกต่อยกันชุลมุน ก่อนผู้ตายจะพลาดท่าถูกมีดแทงเข้ากลางหัวใจ คมมีดตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตคาที่ คนร้ายที่ก่อเหตุ รวมถึงคนงานคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ กลัวจะถูกจะกุม จึงได้วิ่งหนีหายเข้าป่าไปคนละทิศละทาง
ร.ต.ท.ปิติชน เทิดเกียรติกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ เผยว่า ในเบื้องต้น ยังไม่ปักใจเชื่อ นายจันทร์ ซึ่งเป็นพยานปากเดียวที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากคำให้การได้พูดวกไปวนมายากจับใจความ และเชื่อว่านายจันทร์ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ไม่กล้าปริปากบอกเพราะเกรงถูกฆ่าตาย
โดยได้ควบคุมตัวนายจันทร์มาทำการสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี พร้อมนำตัวส่งยังโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 ทำการตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการต่อสู้ บาดแผล และหลักฐานอื่นๆ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมือฆ่าโหดคนงานชาติเดียวกันหรือไม่
