ปัตตานี - ตำรวจปัตตานี เผยคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าแล้วเผา 3 ศพ ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นฝีมือของกลุ่ม นายอาสมาน เจ๊ะบา และ นายอาฟันดี กาพา คาดเป็นชุดเดียวกันที่ก่อเหตุยิงถล่ม 5 ศพที่ อ.ปะนาเระ ด้วย
ความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มที่ลงมือฆ่าแล้วเผาสองสามีภรรยาและครู รวม 3 ศพ ที่กลับจากงานศพญาติเหตุเกิดในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 ก.พ.) ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำวัตถุพยานปลอกกระสุนปืนสงครามของคนร้ายในที่ก่อเหตุไปตรวจพิสูจน์ถึงกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุเชื่อว่าผลจะออกมาภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุได้มีการสอบสวนพยานบางแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจนรู้กลุ่มคนร้ายที่ลงมือ คือ กลุ่มของ นายอาสมาน เจ๊ะบา อายุ 36 ปี นายอาฟันดี กาพา อายุ 25 ปี แกนนำระดับปฏิบัติการกับแนวร่วมอีก 5 คน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง ว่า กลุ่มดังกล่าวได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ.สายบุรี และเข้าหลบซ่อนตัวและเคลื่อนในพื้นที่ ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายกับชุมชนไทยพุทธ และยังพบว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นชุดเดียวกันที่ก่อเหตุยิงชาวไทยพุทธ 5 ศพ ใน อ.ปะนาเระด้วย เพราะ นายอาสมาน เป็น 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนที่จะมีการออกหมายจับเพิ่มอีก 3 รายและอีก 2 รายของ อ.ยะรัง
สำหรับการวางมาตราการณ์ดูแลความปลอดภัยนั้น พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.ชาญชัย ภู่ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้กำชับกำลังให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดที่สุด และห้ามละหลวมอย่าเปิดช่องวางให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุสร้างสถานการณ์กับประชาชนซึ่งภารกิจที่สำคัญคือการกระจายข่าวให้ทุกชุมชนได้ทราบถึงปัญหา และการสร้างความร่วมมือระหว่างกันทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของทุกฝ่าย
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ว่า สถานการณ์ความไม่สงบขณะนี้พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อโหมกระแสความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังพบว่า กลุ่มคนร้ายพยายามสร้างกระแสความขัดแย้งในกลุ่มประชาชนที่นับถือต่างศาสนา เพื่อแยกความสามัคคีในชุมชน และทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะการมุ่งทำร้ายชาวบ้านที่เป็นกลุ่มชาวไทยพุทธอย่างชัดเจน และจะเพิ่มปริมาณในการก่อเหตุที่ถี่ขึ้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแผนการสำคัญที่กลุ่มขบวนการต้องการให้เกิดรูปแบบสงครามศาสนา โดยใช้อารมณ์และความรู้สึกของประชาชนเป็นเครื่องมือ
ความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มที่ลงมือฆ่าแล้วเผาสองสามีภรรยาและครู รวม 3 ศพ ที่กลับจากงานศพญาติเหตุเกิดในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 ก.พ.) ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำวัตถุพยานปลอกกระสุนปืนสงครามของคนร้ายในที่ก่อเหตุไปตรวจพิสูจน์ถึงกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุเชื่อว่าผลจะออกมาภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุได้มีการสอบสวนพยานบางแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจนรู้กลุ่มคนร้ายที่ลงมือ คือ กลุ่มของ นายอาสมาน เจ๊ะบา อายุ 36 ปี นายอาฟันดี กาพา อายุ 25 ปี แกนนำระดับปฏิบัติการกับแนวร่วมอีก 5 คน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีรายงานจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง ว่า กลุ่มดังกล่าวได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ.สายบุรี และเข้าหลบซ่อนตัวและเคลื่อนในพื้นที่ ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายกับชุมชนไทยพุทธ และยังพบว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นชุดเดียวกันที่ก่อเหตุยิงชาวไทยพุทธ 5 ศพ ใน อ.ปะนาเระด้วย เพราะ นายอาสมาน เป็น 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับก่อนที่จะมีการออกหมายจับเพิ่มอีก 3 รายและอีก 2 รายของ อ.ยะรัง
สำหรับการวางมาตราการณ์ดูแลความปลอดภัยนั้น พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.ชาญชัย ภู่ทอง ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้กำชับกำลังให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดที่สุด และห้ามละหลวมอย่าเปิดช่องวางให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุสร้างสถานการณ์กับประชาชนซึ่งภารกิจที่สำคัญคือการกระจายข่าวให้ทุกชุมชนได้ทราบถึงปัญหา และการสร้างความร่วมมือระหว่างกันทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของทุกฝ่าย
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ว่า สถานการณ์ความไม่สงบขณะนี้พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อโหมกระแสความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังพบว่า กลุ่มคนร้ายพยายามสร้างกระแสความขัดแย้งในกลุ่มประชาชนที่นับถือต่างศาสนา เพื่อแยกความสามัคคีในชุมชน และทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะการมุ่งทำร้ายชาวบ้านที่เป็นกลุ่มชาวไทยพุทธอย่างชัดเจน และจะเพิ่มปริมาณในการก่อเหตุที่ถี่ขึ้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแผนการสำคัญที่กลุ่มขบวนการต้องการให้เกิดรูปแบบสงครามศาสนา โดยใช้อารมณ์และความรู้สึกของประชาชนเป็นเครื่องมือ