ไฟใต้ร้อน “มาร์ค” สั่งเข้มงวดด่านจุดตรวจ หลังพบปล่อยรถโจรใต้ผ่านก่อเหตุถล่มร้านน้ำชาหน้าวัดที่ปัตตานี ทำไทยพุทธดับ 5 ศพ เรียกแม่ทัพภาค 4 ถกด่วนปรับแผนคุ้มครองหลังชาวบ้าน 3 จังหวัดใต้ไม่มั่นใจการดูแลของเจ้าหน้าที่ เผยรัฐบาลเตรียมหาแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่หลังผู้ประกอบการสนใจลงทุน
วันนี้ (3 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.55 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นเป็นรายวัน โดยล่าสุดกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยิงถล่มร้านน้ำชาชาวไทยพุทธที่จังหวัดปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนว่า เมื่อเช้าของวันที่ 3 ก.พ.ได้รับรายงานแล้ว และจะได้มีการกำชับในเรื่องของด่าน ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นจะได้มีการกำชับในเรื่องของด่านที่มันเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่าเป็นรถกระบะที่เข้ามาก่อเหตุ ซึ่งได้พูดคุยกับนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ต้องไปเข้มงวดตรงนั้น และระมัดระวังเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บอกว่า ไม่มั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่แล้ว นายกฯ กล่าวว่า เราทำข้อตกลงกับเขา วันที่ลงไปที่จังหวัดปัตตานีก็ได้มีการพูดคุยเรื่องของวันหยุดว่าจะมีการทบทวนกลไกในการดูแลคุ้มครองอยู่แล้ว เพราะเราทราบว่าต้องมีการปรับไปตามสถานการณ์ เมื่อถามต่อว่า แต่ตอนนี้มันเกิดความหวั่นไหวมากขึ้น ต้องเร่งตรงนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใช่ วันที่ 3 ก.พ.นี้ตนจะพูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 เรื่องของการปรับปรุงด่านจุดตรวจต่างๆ มีบางกรณีพบว่า ปล่อยหลุดเข้ามา ซึ่งต้องมีการเพิ่มความเข้มแข็งมากขึ้น อย่างเรื่องของการคุ้มครองครูมีการทบทวนเป็นระยะอยู่แล้ว ถ้าทางสมาพันธ์ครูเห็นว่าจะต้องการมาตรการเปลี่ยนแปลงวิธีการอะไรเพิ่มเติมก็ขอให้แจ้ง เราพร้อมที่จะให้มีการปรับอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของกำลังคงมีการปรับได้ แต่คงไม่ต้องบอกรายละเอียด
ส่วนที่จะมีการทำพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เราคิดว่าจะมีการเพิ่มแรงจูงใจ เพราะคิดว่ามีนักลงทุนที่เขาพร้อมที่สนใจอยู่ เพียงแต่ต้องการแรงจูงใจเพิ่มเติมจะสอดคล้องกับแนวทางของเราอยู่แล้วเรื่องของการพัฒนา พื้นที่จะดำเนินการจะต้องมีการกำหนดแนวทางให้แตกต่างออกไปด้วย เพราะว่าถ้าเราพูด 5 จังหวัด ไปพูดภาพรวมเดี๋ยวจะไปเฉพาะที่จังหวัดสงขลา มันก็คงไม่ได้ ตรงนี้กำลังดูแลอยู่ ทางนายถาวรก็เพิ่งได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประชุมที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า เรื่องของเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้มีมาตั้งแต่ช่วงเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ๆ ทำไมยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ทำไมต้องมาเริ่มต้นศึกษากันใหม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ศึกษา ตอนนี้จะไปกำหนดลงไปในรายละเอียด ที่ผ่านมาการส่งเสริมในเรื่องของอาชีพอะไรก็ไปได้ การมีมาตรการรองรับผู้ประกอบการก็ได้ทำมาตลอด แต่ขณะนี้กำลังมีการเจรจาในลักษณะของโครงการไปว่า ความต้องการเขาเป็นอย่าง เพราะตอนนี้มีบางรายเสนอตัวเข้ามา และกำลังเจรจา และคงไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปแก้กฎหมายหลัก แต่ขึ้นอยู่กับกลไกตามกฎหมายใหม่ที่กำลังจะมีการเสนอ ที่กำลังดูคือความเป็นไปได้ในการที่จะลงทุนในบางส่วนเข้าไป ที่อาจจะต้องมีการเจรจาเป็นรายๆ ไปที่คิดว่ามีความจำเป็นอะไร รัฐบาลเพิ่มอะไรให้ได้บ้างก็น่าจะทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการสวนทางกันหรือไม่ กับผู้ที่สนใจไปลงทุนในพื้นที่ ขณะนี้เหตุการณ์ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ฝ่ายที่ไม่ต้องการแนวทางนี้เขาก็ต้องพยายามสวนทางอยู่ ต้องว่ากันไป ตรงนี้ยืนยันในบางพื้นที่ยังสนใจอยู่ เราก็ต้องพยายามแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจที่สนใจในลักษณะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการด้านการส่งออกที่ปัจจุบันก็ส่งออกผ่านทางมาเลเซียอยู่แล้ว ถ้าไปตั้งใน 3 จังหวัดก็จะประหยัดต้นทุนได้