ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้เหิมกราดยิงด้วยอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนสั้นใส่ชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายซื้อของเดินทางไปวัดและนั่งจิบน้ำชาหน้าร้าน จนทำให้มีเสียผู้ชีวิต 5 ศพสาหัส 3 ราย ชาวบ้านโวย จนท.ช่วยชาวบ้านไม่ได้ เรียกร้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ไม่ต้องการเพียงเงินเยียวยาหลังจากสูญเสีย ด้าน ศอ.บต.ตั้งรางวัล 5 หมื่นผู้แจ้งเบาะแส
วานนี้(3 ก.พ.)เวลา 06.30 น. พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายกราดยิงชาวบ้านมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากที่บนถนนสายท่าข้าม-น้ำบ่อ ม.1 ต.คอกกระบือ อ.ปานาเระ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด 5 ศพ ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คนจึงรีบลำเลียงนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระ
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ศพ คือ 1.นางลัดดาวรรณ ยอดแก้ว อายุ 60 ปี ข้าราชการครูบำนาญ 2.นายนิพนธ์ เสริมกลิ่น อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญชลประทานปัตตานี 3.นายพงษ์ศักดิ์ เพ็ชร อายุ 53 ปีศึกษานิเทศ เขต 1 ปัตตานี 4.นายนุ่น บุญมาก อายุ 73 ปี และ 5.นางพิกุล แสนหนู เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน คือ 1.นายพงษ์ศักดิ์ ยอดแก้ว อายุ 60 ปี 2.นางซิม ตันตพงษ์ อายุ 78 ปี และ 3.ด.ช.ภูฐิกรณ์ ดอร์ อายุ 12 ปี
ตรวจสอบมรที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนเอชเค 20 ปลอก เอ็ม 16 ปืน 20 ปลอก ปืนพกสั้นขนาด 11 มม.2 ปลอก ขนาด 9 มม.3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นชุมชนไทยพุทธอาศัยอยู่จำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกำลังเดินบนถนนเพื่อซื้อกับข้าวและเดินไปวัด และบางส่วนกำลังนั่งจิบน้ำชาหน้าร้าน ปรากฏว่าได้มีคนร้ายใช้รถยนต์รกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีคนร้ายนั่งอยู่ท้ายกระบะรถ ประมาณ 3-4 คน เมื่อขับมาถึงคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนสงครามและปืนสั้นกราดยิงชาวบ้านตลอดเส้นทางที่มีชาวบ้านอยู่ ทำให้ชาวบ้านต่างวิ่งหนีตายและร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังสนั่น หลังเกิดเหตุคนร้ายเร่งเครื่องหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.ปะนาเระ ได้สั่งกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุทันทีในรัศมี 500 เมตร เชื่อคนร้ายน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่โดยมีแนวร่วมให้การช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ตอบโต้เจ้าหน้าที่ โดยการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีลางบอกเหตุตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดไฟฟ้าขัดข้อง จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะตัดไฟเพื่อให้เกิดไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ตรวจสอบแล้วปรากฏว่ากล้องเสียไม่สามารถใช้การได้
**ชาวบ้านโวย-จี้เพิ่มมาตรการ รปภ.
นายถัด สุขประเสริฐ ราษฎรในที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าถึงนาทีระทึกว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังเปิดร้านขายของชำ เป็นไปตามปกติของทุกวัน ในระหว่างนั้นได้เกิดเหตุเสียงปืนดังขึ้นจึงออกมาดูเห็นมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนแต่งชุดคล้ายเจ้าหน้าที่สีเขียว มีอาวุธปืนยาวครบมือเข้ายิง นางลดาวัลย์ ยอดแก้ว และนายนุ่ม บุญมาก ที่กำลังถือข้าวต้มเตรียมนำไปถวายพระสงฆ์ที่วัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที ตนจึงรีบหลบเข้าบ้านทันที จากนั้นคนร้ายเข้ามาก่อเหตุยิงชาวบ้านที่นั่งบนเก้าอี้หินอ่อน แล้วคนร้ายได้ขยับรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดกลางชุมชนอย่างอุกอาจ แล้วเข้ามาไล่ยิงชาวบ้านในรัศมี 100 เมตรอีกจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายเจ็บอีก 4 ราย
นายถัด สุขประเสริฐ กล่าวอีกว่า เหตุในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดเหตุกลางชุมชนแต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือได้บ้างเลย จึงอยากเรียกร้องให้ราชการกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่ามาปลอบใจหลังจากเกิดเหตุการณ์สูญเสีย เพราะชาวบ้านไม่ใช่อยากได้เงินช่วยเหลือจากราชการที่มอบให้เป็นค่าเยียวยา
"แต่ที่ชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้มีความขัดแย้งกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่มาก่อนเลย เราอยู่ด้วยกันมีการพึ่งพาซึ่งกันและกัน และก่อนหน้านี้ได้มีการยิงกราดร้านน้ำชาในชุมชนมุสลิมบ้านพ่อมิ่ง ที่อยู่ห่างกันเพียง 1 กิโลเมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งการก่อเหตุในครั้งเหมือนมีความพยายามที่จะให้พี่น้องไทยพุทธกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่เกิดการเข้าใจผิดกัน จึงอยากให้หน่วยราชการเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย"
**ศอ.บต.ตั้งรางวัล5หมื่นคนแจ้งเบาะแส
นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวตนได้แจ้งขอความร่วมมือเครือข่ายวิทยุที่อยู่ในพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 30 สถานี ทั้งในส่วนของวิทยุตำรวจ ทหาร และวิทยุชุมชนต่างๆ ให้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากคนร้ายได้ใช้รถยนต์กระบะสีขาว สเป็คแค๊บ อีซูซุ เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ซึ่งเชื่อว่าอาจมีผู้พบเห็นรถต้องสงสัยได้และให้แจ้งเบาะแส โดยจะมีรางวัลให้ 50,000 บาทเพื่อจูงใจและสร้างความกระตือรือล้นให้กับทุกฝ่ายได้ร่วมกันแกะรอยและติดตามหากลุ่มคนร้ายที่ลงมืออุกอาจในครั้งนี้
"หลังเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพาหนะที่คนร้ายใช้ได้ชัดเจน ดังนั้นการแจ้งขอความร่วมมือให้ชาวบ้านร่วมกันแจ้งเบาะแสผ่านวิทยุชุมชน หรือสื่อต่างๆ โดยมีรางวัลให้ 50,000 บาทเป็นสินน้ำใจให้กับคึนแจ้งเบาะแสน่าจะเป็นช่องทางหนึ่งในการแกะรอยคนร้ายได้เร็วขึ้น หลังจากที่ในปี53 ช่องทางการแจ้งเบาะแสของรัฐสามารถยับยั้งเหตุระเบิดได้ถึง 53 ครั้งจากเหตุระเบิดทั้งหมด 251 ครั้ง "
นายภาณุ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการยั่วยุและต้องการสร้างความแตกแยกของชาวบ้านในพื้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าไปช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเร่งด่วนแล้ว
**กอ.รมน.ภาค4ร่อนแถลงการณ์เสียใจ
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เบื้องต้น กอ.รมน.ภาค 4 ได้ออกแถลงการณ์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกราย โดยเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นความพยายามในการสร้างกระแสความรุนแรงในช่วงวันตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการก่อเหตุในครั้งนี้มีการเลือกพื้นที่เป้าหมายซึ่งมีผลต่อความรู้สึกและจิตวิทยามวลชนในระดับพื้นที่เพื่อโหมความรุนแรงและนำมาสู่ประเด็นความหวาดระแวงและขัดแย้งของชาวบ้านที่นับถือศาสนาที่ต่างกัน
"คนร้ายมีแผนที่ชัดเจนในการก่อเหตุกับเป้าหมายที่มีผลต่อความรู้สึกของชาวบ้านในภาพรวม หรือที่เรียกว่าแผน "ก่อเหตุด้านการทหาร หวังผลการเมือง" โดยพยายามจุดชนวนในประเด็นเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อกระตุ้น หรือเร่งความรู้สึกให้เกิดความเกลียด กลัว และระแวงกันเองเพื่อจะได้ทำลายฐานมวลชนที่เป็นของรัฐซึ่งจะมีคนไทยพุทธและมุสลิมซึ่งหากสามารถบ่อนทำลายความสามัคคีได้จะได้กลับเข้ามีอิทธิพลอีกครั้ง"พ.อ.บรรพต กล่าว
โฆษกกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการติดตามและไล่ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้ได้มีการสนธิกำลังร่วมกัน 3 ฝ่ายเพื่อปิดล้อมและตรวจค้นพื้นที่ในรัศมี 2 กิโลเมตร เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะยังกบดานในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเชิงเขาท่าน้ำที่อยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุเพื่อกดดันกลุ่มคนร้าย
วานนี้(3 ก.พ.)เวลา 06.30 น. พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายกราดยิงชาวบ้านมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากที่บนถนนสายท่าข้าม-น้ำบ่อ ม.1 ต.คอกกระบือ อ.ปานาเระ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด 5 ศพ ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คนจึงรีบลำเลียงนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระ
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ศพ คือ 1.นางลัดดาวรรณ ยอดแก้ว อายุ 60 ปี ข้าราชการครูบำนาญ 2.นายนิพนธ์ เสริมกลิ่น อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญชลประทานปัตตานี 3.นายพงษ์ศักดิ์ เพ็ชร อายุ 53 ปีศึกษานิเทศ เขต 1 ปัตตานี 4.นายนุ่น บุญมาก อายุ 73 ปี และ 5.นางพิกุล แสนหนู เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน คือ 1.นายพงษ์ศักดิ์ ยอดแก้ว อายุ 60 ปี 2.นางซิม ตันตพงษ์ อายุ 78 ปี และ 3.ด.ช.ภูฐิกรณ์ ดอร์ อายุ 12 ปี
ตรวจสอบมรที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนเอชเค 20 ปลอก เอ็ม 16 ปืน 20 ปลอก ปืนพกสั้นขนาด 11 มม.2 ปลอก ขนาด 9 มม.3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นชุมชนไทยพุทธอาศัยอยู่จำนวนมาก ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกำลังเดินบนถนนเพื่อซื้อกับข้าวและเดินไปวัด และบางส่วนกำลังนั่งจิบน้ำชาหน้าร้าน ปรากฏว่าได้มีคนร้ายใช้รถยนต์รกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีคนร้ายนั่งอยู่ท้ายกระบะรถ ประมาณ 3-4 คน เมื่อขับมาถึงคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนสงครามและปืนสั้นกราดยิงชาวบ้านตลอดเส้นทางที่มีชาวบ้านอยู่ ทำให้ชาวบ้านต่างวิ่งหนีตายและร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังสนั่น หลังเกิดเหตุคนร้ายเร่งเครื่องหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วัลลพ จำนงอาสา ผกก.สภ.ปะนาเระ ได้สั่งกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุทันทีในรัศมี 500 เมตร เชื่อคนร้ายน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่โดยมีแนวร่วมให้การช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ตอบโต้เจ้าหน้าที่ โดยการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีลางบอกเหตุตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดไฟฟ้าขัดข้อง จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะตัดไฟเพื่อให้เกิดไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ตรวจสอบแล้วปรากฏว่ากล้องเสียไม่สามารถใช้การได้
**ชาวบ้านโวย-จี้เพิ่มมาตรการ รปภ.
นายถัด สุขประเสริฐ ราษฎรในที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าถึงนาทีระทึกว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังเปิดร้านขายของชำ เป็นไปตามปกติของทุกวัน ในระหว่างนั้นได้เกิดเหตุเสียงปืนดังขึ้นจึงออกมาดูเห็นมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนแต่งชุดคล้ายเจ้าหน้าที่สีเขียว มีอาวุธปืนยาวครบมือเข้ายิง นางลดาวัลย์ ยอดแก้ว และนายนุ่ม บุญมาก ที่กำลังถือข้าวต้มเตรียมนำไปถวายพระสงฆ์ที่วัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที ตนจึงรีบหลบเข้าบ้านทันที จากนั้นคนร้ายเข้ามาก่อเหตุยิงชาวบ้านที่นั่งบนเก้าอี้หินอ่อน แล้วคนร้ายได้ขยับรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดกลางชุมชนอย่างอุกอาจ แล้วเข้ามาไล่ยิงชาวบ้านในรัศมี 100 เมตรอีกจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายเจ็บอีก 4 ราย
นายถัด สุขประเสริฐ กล่าวอีกว่า เหตุในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดเหตุกลางชุมชนแต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือได้บ้างเลย จึงอยากเรียกร้องให้ราชการกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่ามาปลอบใจหลังจากเกิดเหตุการณ์สูญเสีย เพราะชาวบ้านไม่ใช่อยากได้เงินช่วยเหลือจากราชการที่มอบให้เป็นค่าเยียวยา
"แต่ที่ชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้มีความขัดแย้งกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่มาก่อนเลย เราอยู่ด้วยกันมีการพึ่งพาซึ่งกันและกัน และก่อนหน้านี้ได้มีการยิงกราดร้านน้ำชาในชุมชนมุสลิมบ้านพ่อมิ่ง ที่อยู่ห่างกันเพียง 1 กิโลเมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งการก่อเหตุในครั้งเหมือนมีความพยายามที่จะให้พี่น้องไทยพุทธกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่เกิดการเข้าใจผิดกัน จึงอยากให้หน่วยราชการเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย"
**ศอ.บต.ตั้งรางวัล5หมื่นคนแจ้งเบาะแส
นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวตนได้แจ้งขอความร่วมมือเครือข่ายวิทยุที่อยู่ในพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 30 สถานี ทั้งในส่วนของวิทยุตำรวจ ทหาร และวิทยุชุมชนต่างๆ ให้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากคนร้ายได้ใช้รถยนต์กระบะสีขาว สเป็คแค๊บ อีซูซุ เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ซึ่งเชื่อว่าอาจมีผู้พบเห็นรถต้องสงสัยได้และให้แจ้งเบาะแส โดยจะมีรางวัลให้ 50,000 บาทเพื่อจูงใจและสร้างความกระตือรือล้นให้กับทุกฝ่ายได้ร่วมกันแกะรอยและติดตามหากลุ่มคนร้ายที่ลงมืออุกอาจในครั้งนี้
"หลังเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพาหนะที่คนร้ายใช้ได้ชัดเจน ดังนั้นการแจ้งขอความร่วมมือให้ชาวบ้านร่วมกันแจ้งเบาะแสผ่านวิทยุชุมชน หรือสื่อต่างๆ โดยมีรางวัลให้ 50,000 บาทเป็นสินน้ำใจให้กับคึนแจ้งเบาะแสน่าจะเป็นช่องทางหนึ่งในการแกะรอยคนร้ายได้เร็วขึ้น หลังจากที่ในปี53 ช่องทางการแจ้งเบาะแสของรัฐสามารถยับยั้งเหตุระเบิดได้ถึง 53 ครั้งจากเหตุระเบิดทั้งหมด 251 ครั้ง "
นายภาณุ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความพยายามของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการยั่วยุและต้องการสร้างความแตกแยกของชาวบ้านในพื้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าไปช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเร่งด่วนแล้ว
**กอ.รมน.ภาค4ร่อนแถลงการณ์เสียใจ
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เบื้องต้น กอ.รมน.ภาค 4 ได้ออกแถลงการณ์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกราย โดยเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นความพยายามในการสร้างกระแสความรุนแรงในช่วงวันตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการก่อเหตุในครั้งนี้มีการเลือกพื้นที่เป้าหมายซึ่งมีผลต่อความรู้สึกและจิตวิทยามวลชนในระดับพื้นที่เพื่อโหมความรุนแรงและนำมาสู่ประเด็นความหวาดระแวงและขัดแย้งของชาวบ้านที่นับถือศาสนาที่ต่างกัน
"คนร้ายมีแผนที่ชัดเจนในการก่อเหตุกับเป้าหมายที่มีผลต่อความรู้สึกของชาวบ้านในภาพรวม หรือที่เรียกว่าแผน "ก่อเหตุด้านการทหาร หวังผลการเมือง" โดยพยายามจุดชนวนในประเด็นเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อกระตุ้น หรือเร่งความรู้สึกให้เกิดความเกลียด กลัว และระแวงกันเองเพื่อจะได้ทำลายฐานมวลชนที่เป็นของรัฐซึ่งจะมีคนไทยพุทธและมุสลิมซึ่งหากสามารถบ่อนทำลายความสามัคคีได้จะได้กลับเข้ามีอิทธิพลอีกครั้ง"พ.อ.บรรพต กล่าว
โฆษกกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการติดตามและไล่ล่ากลุ่มคนร้ายนั้น ขณะนี้ได้มีการสนธิกำลังร่วมกัน 3 ฝ่ายเพื่อปิดล้อมและตรวจค้นพื้นที่ในรัศมี 2 กิโลเมตร เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะยังกบดานในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเชิงเขาท่าน้ำที่อยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดเหตุเพื่อกดดันกลุ่มคนร้าย
