เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ข้ามแดนเข้าเขมรไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้ ( 3 ก.พ.) สำหรับ รมว.ต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ จุดหมายแรกจะไปที่ “เสียมราฐ” ก่อน เพื่อร่วมประชุม กรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (เจซี) จากนั้นข่าวว่าจะบินต่อเข้าพนมเปญไปพบ “ฮุนเซน” ผู้นำ “กุ๊ย” ที่ตนเองเคยเหยียดหยามเอาไว้ในอดีตอีกด้วย บอกว่าอาจมีการหารือกันถึงเรื่องความช่วยเหลือ “วีระ-ราตรี” สองคนไทยที่ยังถูก “จับเป็นตัวประกัน” อยู่ในขณะนี้ มันก็ทำให้มี “ประเด็น” น่าสนใจขึ้นมาอีก
00 อย่างว่า บางครั้งโลกมัน “ไร้พรมแดน” เหมือนอย่างที่ “กษิต” เคยว่าไว้จริงๆ เพราะถ้าย้อนกลับไปเปิดดูข่าวในหน้าอินโดจีนใน “เว็บผู้จัดการ” ปลายสัปดาห์ก่อนก็ทำให้เห็น “ร่องรอย” บางอย่าง เพราะสื่อเขมรมันรายงานว่า จะมีการถก “เจซี” ที่เสียมราฐ แถมยังอ้างคำพูดของ ฮุนเซน อีกว่า จะส่ง “สกอาน” รองนายกฯเขมร มาหารือแบ่งปันผลประโยชน์ด้าน “พลังงาน” ในอ่าวไทยกับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ในเร็วๆนี้ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีจังหวะ ดันมี “ไอ้พวกพันธมิตรฯ” มาชุมนุม “ขัดคอ” เสียก่อน จึงต้องรีรอ ไม่กล้าผลีผลาม กลัวพลาดพลั้ง “ตายหมู่” ใช่มั๊ย เทือก
00 เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวจนเห็นภาพ มันก็ทำให้ “ตาสว่าง” ได้เหมือนกันว่า ทำไม คนในรัฐบาลไทยถึงได้ยอม “อ่อนข้อ” ให้กับเขมรนัก แต่มองอีกมุมหนึ่ง “ผลประโยชน์” ที่ “สวมตอ” มาจากยุคทักษิณ มันมหาศาลแค่ไหน ลองคิดดูเอาเอง ดังนั้นความเคลื่อนไหวทั้งฝ่ายรัฐบาลมาร์ค มาจนถึงผู้นำกองทัพที่ “ทำท่าขยับ” อยู่ตามชายแดน หากพิจารณากันมาตั้งแต่ต้น มันก็จับพิรุธเหมือนกับว่า เป็นแค่การ “เล่นละคร-ตบตา” เท่านั้น ขณะที่ “วีระ-ราตรี” ก็จะถูกผลักไส ยัดเยียดข้อหาจากการ “สมคบคิด” ทั้งจากไทย-กัมพูชา จนต้องติดคุกยาว
00 เวลานี้ถ้าจับสัญญาณแล้ว บรรดา “นักเลือกตั้ง” ทั้งหลาย น่าจะเริ่มได้กลิ่นเลือกตั้งโชยเข้ามาแตะจมูกเข้มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่ “กำหนดเกม” ในรัฐบาลทั้งหลาย ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นช่วง “ชั่วโมงทำกิน” เร่งระดมสะสมเสบียงให้ได้มากที่สุด ที่เห็นเป็นเรื่องน่าจับตาไม่กระพริบก็คือ โครงการ “นำเข้าน้ำมันปาล์ม” ที่อ้างว่า “ขาดแคลน” ทำให้ราคาแพง ซึ่ง “ตามสูตร” ก็ต้องนำเข้า แต่ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า ทั้งคนนำเข้า และคนสั่งมันอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน อ้อยังรวมถึงคนที่ “กักตุน” ล้วนเป็นคนกันเอง ทั้งสิ้น
00 สังคมเริ่มสงสัยกันว่า วันๆนี่ “พ่อเทพเทือก” นี่มันมีความสามารถวิเศษวิโสอะไรนัก ถึงได้ลงมาเป็นประธานนั่น ประธานนี่ จนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ถ้าสังเกตให้ดี ล้วนแล้วแต่ “มหาศาล” ทั้งสิ้น ทั้งเรื่องปาล์มน้ำมัน รถไฟความเร็วสูง แม้กระทั่งแบ่งปันผลประโยชน์ด้านพลังงานในอ่าวไทยกับเขมร ก็ยังไปเจ้ากี้เจ้าการ ยังงงไม่หายว่า รองนายกฯด้านความมั่นคง นี่มันภารกิจเยอะจริงๆ แต่ถึงบางอ้อ เมื่อเรื่องเศรษฐกิจ-พลังงาน มันก็เกี่ยวกับความมั่นคงเหมือนกัน ส่วนจะเป็นความมั่นคงของ “ใคร” นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง
00 มาอีกแล้วใช้แผนล่อยุบสภาเพื่อลดความกดดัน สร้างกระแสกันเป็นรายวัน ตอนแรกบอกว่าราวไม่เกินเดือนเมษายน หลังจากแก้ไขรธน.ที่ตัวเอง (ปชป.) ได้เปรียบผ่านสภา จากนั้นก็เพิ่มเงื่อนไขเข้ามาอีกว่าให้งบประมาณกลางปีกว่าแสนล้านผ่านไปด้วย ล่าสุด กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ คนใกล้ตัว นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ส่งสัญญาณใหม่ว่า น่าจะเกิดขึ้นราวๆ เดือน 8 ก็เดือนสิงหาคม ความหมายก็คือ จะเกิดขึ้นเมื่อเตรียมการทั้งเรื่อง เงิน-คน เอาไว้ให้พร้อมแล้ว และการพูดเรื่องยุบสภากันรายวัน ไม่มีอะไรมากไปกว่า มีเป้าหมายซ่อนเร้นเพื่อลดแรงกดดันที่กำลังกดมาทุกทางเท่านั้น แต่ถ้ามองให้ลึก นี่คือแผน"ซื้อเวลา" รายวันเช่นเดียวกัน
00 เศร้าสลดจนตัว “ด้านชา”ไปหมดแล้ว กับการ “ตายเป็นใบไม้ร่วง” ของพี่น้องในชายแดนใต้ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) คนร้ายกราดยิงชาวบ้าน เสียชีวิตอีก 5 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย ที่ร้านน้ำชา ในชุมชน ต.โคกกระบือ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่รายที่ต้องสังเวยนโยบายการบริหาร “ด้วยปาก” ของรัฐบาล“หน้าหล่อ” ที่เอาแต่กลบเกลื่อนปัญหาสร้างภาพว่า “มาถูกทาง” แต่ผลงานที่เห็นอยู่ตำตา มันตรงกันข้าม อ้อ นี่ก็เป็นอีกฝีมือการบริหารของ รองนายกฯฝ่าย (ทำลาย) ความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ เหมือนกัน ทุด !!