ยะลา - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.ยะลา เป็นประธานในพิธีสวนสนาม พร้อมทั้งกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน ของกองบังคับการอาสารักษาดินแดนยะลา เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่บริเวณลานฝึกศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ถ.สุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย/รองผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เป็นประธานในพิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ และสวนสนาม เนื่องในวันครบรอบวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน
โดยมี นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมาหดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขาธิการ ศอ.บต.) พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ สมาชิกอาสารักษาดินแดน จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เข้าร่วมในพิธีสวนสนาม จำนวน 825 นาย
หลังจากนั้น นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย/รองผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมผู้บังคับบัญชาในระดับสูงของ ตำรวจ ทหาร ได้ตรวจพลสวนสนาม พร้อมทั้ง อ่านสารของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกล่าวให้โอวาทแก่สมาชิกอาสารักษาดินแดน
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย/รองผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อยามเกิดศึกสงครามหลายต่อหลายครั้ง ประชาชนที่เป็นคนไทยก็จะอาสาเข้ามารับใช้ชาติ เพื่อต่อสู้ขับไล่ผู้รุกรานจนประสบผลสำเร็จ ด้วยเหตุผลดังกล่าว กองอาสารักษาดินแดน จึงจัดตั้งขึ้น และตลอดระยะเวลา 47 ปี
ที่ผ่านมา กองอาสารักษาดินแดน ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือสนับสนุนฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารในการรักษาความสงบเรียบร้อย การจัดระเบียบสังคม การป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย การแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ และให้บริการประชาชนโดยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ยอมสละเลือดเนื้อ และพลีชีพในสนามรบ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ อันเป็นผลงาน และวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน
“และตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ทหารที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องถอนกำลังกลับไปปฏิบัติภารกิจป้องอริราชศัตรู ไม่ให้รุกล้ำเขตแดนไทย ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการเพิ่มกำลังพลอาสารักษาดินแดน ทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 12,000 นาย ในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของอาสารักษาดินแดนนั้น จะอยู่ในรูปแบบของกองกำลังประจำถิ่น รัฐบาลมีความมั่นใจว่า กองกำลังภาคประชาชนจะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเป็นกองกำลังที่รู้จักคน รู้จักภูมิประเทศ และรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณี ง่ายแก่การสร้างความเข้าใจ ส่วนความพร้อมด้านสมรรถนะทางด้านร่างกาย และจิตใจได้มีการฝึกการปฏิบัติการพิเศษให้แก่อาสารักษาดินแดนด้วย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
สำหรับคดีสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า มีความคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้แล้วหลายราย ส่วนในพื้นที่ของ จ.ยะลา อาสารักษาดินแดน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
ภารกิจหลักของอาสารักษาดินแดนนั้น มีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในหมู่บ้าน ซึ่งอาสารักษาดินแดนเป็นคนในพื้นที่มีความรู้ และเข้าใจประเพณีวัฒนธรรมของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้ง่าย ขณะเดียวกัน เมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้น หรือบุคคลเป้าหมายเข้ามาซุกซ่อนในพื้นที่ กำลังของอาสารักษาดินแดนสามรถทำหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในการพิสูจน์พื้นที่ลาดตระเวนปิดล้อมตรวจค้นในส่วนของ จ.ยะลา
ปัจจุบันมีกำลังพลสมาชิกอาสารักษาดินแดน จำนวน 1,800 นาย ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อาสารักษาดินแดนได้เสียสละชีวิตไปแล้ว จำนวน 7นาย และได้รับบาดเจ็บกว่า 10 นาย ทั้งนี้ การดูแลกำลังพลอาสารักษาดินแดนเหล่านี้ ก็จะเหมือนกับการดูแลเยียวยาในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ซึ่งผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือ จำนวน 500,000 บาท บุตร และภรรยา สามารถทำงานได้ และสามารถเรียนได้จนจบปริญญาตรีเช่นกัน