xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานฯแสดงแสนยานุภาพเชิดชูวีรชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ จัด 5 กองพัน สวนสนามยานยนต์แสดงแสนยานุภาพกำลังรบ ตรวจสอบความพร้อมกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมที่จะปกป้องไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ และรำลึกเชิดชูเหล่าวีรชนที่สละชีพเพื่อแผ่นดินไทย

วันนี้ (3 ก.พ.) พลเรือตรี ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้เป็นประธานในพิธีสวนสนามยานยนต์ของกำลังพล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ณ กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ ให้มีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และรำลึกถึงเหล่าวีรชนผู้กล้าของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่ง ที่ได้สละเลือดเนื้อ ชีวิต และต้องบาดเจ็บจนทุพพลภาพ ในการเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องและรักษาไว้ ซึ่งอธิปไตยของชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นเกียรติแด่เหล่านักรบทหารไทย ที่ได้เสียสละกาย ใจ ชีวิต จากครอบครัว และคนรักลงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงมุ่งหวังให้ชาวไทยได้อยู่อย่างสงบสุข แม้แลกด้วยชีวิตก็ตาม

การสวนสนามมีกำลังพลเข้าร่วม 664 นาย ยานพาหนะจำนวน 89 คัน และอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวน 44 แท่น/กระบอก/ระบบ โดยจัดกำลังในการสวนสนามเป็น 5 กองพัน มีนาวาเอก สุชา เคี่ยมทองคำ เสนาธิการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นผู้อำนวยการจัดพิธีสวนสนาม นาวาเอก ไพศาล มีศรี ผู้บังคับการกรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นผู้อำนวยการฝึก และนาวาเอก สรยุทธ พุ่มสุวรรณ์ รองผู้บังคับการกรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นผู้บังคับกรมผสม โดยขบวนรถ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่เข้าร่วมในพิธีสวนสนามล้วนเป็นเขี้ยวเล็บที่มีสมรรถนะขีดความสามารถสูง ที่ยังประจำการอยู่ใน 5 กองพัน ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง

ประกอบด้วย กองพันที่ 1 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 มีปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 37 มิลลิเมตร แท่นคู่ จำนวน 8 แท่น และเครื่องควบคุมการยิงไดเรคเตอร์ 5 M1 จำนวน 4 ระบบ กองพันที่ 2 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 มีปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 40/70 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก พร้อมเครื่องควบคุมการยิงฟลายแคชเชอร์ 2 ระบบ ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 40/60 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก และอาวุธปล่อยนำวิถีแบบประทับบ่ายิงจำนวน 2 ระบบ

กองพันที่ 3 กรมรักษาฝั่งที่ 1 มีปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้ง 155 มิลลิเมตร 6 กระบอก ปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีราบ 130 มิลลิเมตร 4 กระบอก กองพันที่ 4 ศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมสนับสนุน และศูนย์การฝึก มีเรดาร์ BOR-A 550 จำนวน 2 ระบบ รถเรดาร์เคลื่อนที่ RAYTHEON จำนวน 2 คัน และยานพาหนะที่ใช้ในการส่งกำลังบำรุง ประกอบด้วย รถพยาบาลสนาม รถหัวลากชานต่ำ จำนวน 2 คัน บรรทุกปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้ง 155 มิลลิเมตร 1 กระบอก โดยทั้ง 4 กองพัน เป็นหน่วยที่มีความพร้อมทั้งทางด้าน กำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ ที่สามารถเคลื่อนย้ายกำลังเข้าปฏิบัติการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ทันที

พลเรือตรี ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กล่าวว่า การ สวนสนามยานยนต์ในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงความพร้อมรบ ที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง การมีระเบียบวินัย บ่งบอกถึงขีดความสามารถในการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ทางยุทธวิธีของหน่วย ที่จะสามารถกระทำได้ทุกเมื่อทุกเวลา หากมีผู้ใดลุกล้ำ หรือรุกรานอธิปไตยของชาติ ที่นำมาซึ่งความไม่สงบ ก็พร้อมที่จะปกป้องรักษาไว้ ให้เกิดความมั่นคงแก่ประเทศ

ถึงแม้หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่ง จะเป็นหน่วยรบทางบกในการป้องกันพื้นที่ส่วนหลังของประเทศก็ตาม แต่ทหารทุกนายก็พร้อมที่จะร่วมกาย ร่วมใจ แสดงพลังอันยิ่งใหญ่ ในการปกป้อง รักษาชีวิต และ ทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรของชาติทั้งทางบก และทางทะเล ให้เกิดความสมดุล ด้วยความกล้า เกรียงไกร และพร้อมรบตลอดเวลา คงจะทำให้ผู้ที่คิดไม่ดี ประสงค์ร้ายต่อแผ่นดิน ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้เลิกคิด และเลิกล้มเจตนาร้ายไปให้หมด และทหารเรือทุกคนได้รับภารกิจที่สำคัญจากกองทัพเรือ อีกทั้งได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จึงมีขวัญ และกำลังใจ ในการต่อสู้กับอุปสรรค ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ และพลังปัญญาในการพัฒนากองทัพเรือให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นปราการด่านหน้าในการดูแลประชาชน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่อไปอย่างมั่นคงและยาวนาน






กำลังโหลดความคิดเห็น