xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สูงสุดเมินยกระดับชุมนุม ติงอย่าให้ความสำคัญกับคนคนเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ (ผบ.สูงสุด)
“ผบ.สูงสุด” ไม่สนเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติยกระดับชุมนุม หลัง “วีระ” ไม่ได้ประกันตัว เตือนอย่าให้ความสำคัญแค่คนคนเดียว แต่ควรมองภาพรวม ย้ำรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ 7 คนไทยอยู่แล้ว ส่วนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินการ



พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณนักรบไทยผู้กล้าหาญในอดีต โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และส่วนราชการต่างๆ ร่วมประกอบพิธีอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้ถือเป็นวันสำคัญของกองทัพไทย ซึ่งวันนี้เราได้บำเพ็ญกุศลเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่เสียสละร่างกายเพื่อประเทศชาติ รวมถึงการแสดงความเคารพต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นพระมหาราชของประเทศไทย

ดังนั้น วันนี้เป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี และการดำรงอยู่ของชาติไทยจนมาถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะบรรดาเหล่าบรรพบุรุษที่ช่วยกันปกป้องประเทศชาติ ซึ่งทุกกองทัพได้มีการจัดกิจกรรม รวมถึงจัดพิธีสวนสนามเพื่อรำลึกถึงวันสำคัญวันนี้ อย่างไรก็ตาม ทุกคนทำตามหน้าที่ของกองทัพและตามภาระหน้าที่ของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน เช่นเดียวกับประชาชนที่มีหน้าที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ตนไม่ได้ประเมินว่าประชาชนจะรักตนมากหรือน้อยลง แต่ต้องให้ประชาชนเป็นผู้แสดงออก แต่มั่นใจว่าเราทำงานตามหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และเพื่อพระมหากษัตริย์ ประชาชน และส่วนรวม

ส่วนจุดยืนของกองทัพในสถานการณ์ปัจจุบัน พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า กองทัพมีงานในหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้วและคงต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้เกิดความมั่นคงของประเทศชาติ ทั้งนี้ กองทัพมีหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและป้องกันประเทศ ส่วนปัญหาเรื่องการช่วยเหลือ 7 คนไทยเป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม รวมถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเป็นผู้ดำเนินการและอยู่ในกรอบอันเดียวกัน เราทำงานตามหน้าที่ และทำด้วยความมั่นใจหนักแน่น ซึ่งเราจะต้องดำเนินการต่อไปในการแก้ไขปัญหา

สำหรับการเคลื่อนของไหวของกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติในขณะนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องใช่หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า การชุมนุมทำได้ตามกฎหมาย ประชาชนอยู่ในรัฐเดียวกันและมีกฎหมายที่ใช้เพื่อให้คนอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสงบสุข และประกอบอาชีพได้และมีความสุขร่วมกันได้ ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีครรลองในการดำเนินการ การเรียกร้องต่างๆ ก็มีครรลองในการดำเนินการ ทั้งจากรัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพเป็นไปตามกรอบของกฎหมายก็สามารถทำได้ ซึ่งทุกอย่างต้องอยู่ตามกรอบของกฎหมายและต้องถามตนเองว่าทำแล้วทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและส่วนรวมหรือไม่ แต่ถ้าทำแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติจึงควรทำ ทั้งนี้ ประชาชนทราบว่าทำอะไรอยู่และรู้ว่าควรจะทำอย่างไร ทั้งนี้การชุมนุมต้องไม่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน

“ภาพรวมของประเทศกำลังเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ทหารวีรชนที่เสียสละอยากเห็นประเทศไทยและคนไทยทุกคนเดินหน้ากันต่อไป อย่าเอาอัตตาเป็นที่ตั้ง อย่าเอาส่วนตัวมาเป็นที่ตั้ง อย่าเอาพวกและอย่าเอากลุ่มมาเป็นที่ตั้ง ต้องเอาประเทศชาติ เอาส่วนรวม และพากันประคองเดินต่อไป ถ้าคิดแบบนี้ประเทศชาติจะรุ่งเรือง สมดังความตั้งใจของวีรชนที่เสียสละในอดีต และอาจจะมีเสียสละในอนาคต”

ส่วนกรณีที่กลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติจะยื่นฎีกาต่อสำนักพระราชวัง เพื่อช่วยเหลือ 7 คนไทย พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลได้พูดไปแล้วและทุกอย่างควรดำเนินการตามกฎหมาย อย่าใช้อารมณ์ เราเสียเวลากับอารมณ์และความรู้สึก และเสียเวลาเรื่องความขัดแย้ง เราจะเป็นอย่างนี้ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ดังนั้น ทุกอย่างจะต้องกลับมาดู และรำลึกถึงวีรบุรุษในการต่อสู้เพื่อให้มีแผ่นดินอยู่ ซึ่งอยากให้คิดและให้ทำ อย่าพูดในสิ่งไม่ดี และทำในสิ่งที่ดีเพื่อลูกหลานและอนาคตของประเทศชาติ ซึ่งอนาคตของประเทศอยู่ที่ลูกหลานและความเป็นแผ่นดินไทย ซึ่งทุกคนในแผ่นดินไทยจะต้องทำในส่วนรวม คือ ประเทศชาติ ประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาวีรชนไทยได้เสียสละ ทุกท่านไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ทั้งนี้ตนได้ฟังแตรและเสียงสลุต ทำให้ความรู้สึกถึงวีรชนที่เสียสละ อยากถามว่าได้ทำอะไรให้แก่วีรชนเหล่านี้บ้างหรือยัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หวั่นเกรงหรือไม่ที่ศาลกัมพูชาไม่ให้ประกันตัวนายวีระ สมความคิด ซึ่งอาจจะทำให้การชุมนุมยกระดับขึ้น พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ไม่เกรง สำหรับทางออกในเรื่องนี้มีผู้ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้วอย่าไปคิดแทนกัน ส่วนเรื่องการออกพระราชบัญญัติคุ้มครองเป็นเรื่องของรัฐสภา แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้ความสำคัญกับคนคนเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญกับภาพรวม คือ ประเทศชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น