ศูนย์ข่าวศรีราชา - สองทรชน ร่วมหัวค้ายานรก ถูกตำรวจระดมกวาดล้างจนต้องซุกแผ่นดินหนี บุกเข้าพื้นที่ทหารเรือ หวังรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำตลาดค้ายาบ้า โดยไม่คิดทหารเรือ สร้างแนวรั้วป้องกันการแพร่ระบาดยาเสพติด จนมุมเข้าได้ออกไม่ได้ ถูกรวบพร้อมของกลางเกือบ 700 เม็ด
เย็นวันนี้(3 ก.พ.54) นาวาเอก สุรนันท์ แสงรัตนกูล หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ฐานทัพเรือสัตหีบ (หน.ชปพ.ศ.ตส.ฐท.สส.) ร่วมกับ นาวาโท ศิรภพ สุวรรโณ หัวหน้าฝ่ายข่าว หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) นำกำลังเข้าทลายเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ที่ได้ลักลอบนำยาบ้าเข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่กองทัพเรือ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายอนันต์ ทองวงศ์ลาบ หรืออ๊อฟ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 477/5 ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ของกลางยาบ้า 60 เม็ด ธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ 12,000 บาท และนายมงคลชัย แย้มคร้าม หรือแพะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.4 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ของกลางยาบ้า 630 เม็ด
โดยการขยายผลจากพลทหารรายหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยาบ้า ได้ให้การซัดทอดถึง นายอนันต์ หรืออ๊อฟ ซึ่งเป็นผู้ที่ลักลอบนำยาบ้าเข้ามาแพร่ระบาดในค่ายทหาร จึงวางแผนเข้าล่อซื้อยาบ้า จำนวน 60 เม็ด ในราคา 12,000 บาท โดยนัดส่งมอบกันบริเวณที่จอดรถประตูทางเข้า หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมขณะส่งมอบยาบ้าให้สายลับ จากการจับกุม นายอนันต์ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่นำมาจำหน่าย มีเอเย่นต์ใหญ่ คือ นายมงคลชัย หรือแพะ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงการนำยาบ้าเข้ามาแพร่ระบาดในค่ายทหาร โดยมีแหล่งกบดานอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อติดกับอำเภอสัตหีบ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ภายในบ้านพัก จากการตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านจำนวน 630 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายมงคลชัย ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่นำมาจำหน่ายได้ถูกลักลอบนำเข้ามาจากทางฝั่งชายแดนจันทบุรี โดยมี นายเบ๊ะ ชาวมอญ อายุ 30 ปี ( ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ) เป็นเอเย่นต์ใหญ่ ที่ลักลอบนำเข้ามาครั้งละประมาณ 1,000 - 2,000 เม็ด และใช้บ้านของตนเป็นที่พักยา ก่อนจะกระจายให้กลุ่มเอเย่นต์ในเครือข่ายออกจำหน่าย
แต่ขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกวาดล้างอย่างหนัก ทำให้กลุ่มผู้เสพ และผู้ค้าถูกจับกุมไปจำนวนมาก ทำให้ยาบ้าไม่สามารถปล่อยออกสู่กลุ่มผู้เสพ และผู้ค้ารายย่อยได้ จึงมุ่งเป้าหวังทำตลาดยาบ้าในเขตพื้นที่ทหาร เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดภัย และพ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ยากต่อการถูกจับกุม โดยไม่คิดว่าทหารเรือ ได้มีการวางแนวรั้วป้องกัน และกวาดล้างการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างเข้มงวดด้วยเช่นกัน
