นราธิวาส - รมช.มท.เผย เตรียมผลักดันให้ด่านบูเก๊ะตา อ.แว้ง เป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์ ซึ่งจะมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสูงถึง 500 ล้านบาทต่อปี
วันนี้ (29 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาจัดรายการ “ร่วมคิด ร่วมแก้ปัญหากับรัฐมนตรีถาวร” ณ ด่านศุลกากร บูเก๊ะตา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมรายการกว่า 1,000 คน
สำหรับประเด็นสำคัญของการจัดรายการในวันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวถึงการก่อสร้างด่านชายแดนบูเก๊ะตา ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูการค้าชายแดนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมกับบ้านบูกิตบูหงา รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยนายกรัฐมนตรีของไทยและมาเลเซีย ได้ทำพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา
ด่านแห่งนี้จะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ สามารถไปมาหาสู่และทำการค้าระหว่างกัน คาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาทต่อปีและในอนาคตจะส่งเสริมให้ด่านบูเก๊ะตามีศักยภาพในการพัฒนาเป็นศูนย์ลอจิสติกส์ รองรับการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบได้
นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ปฏิบัติงานโดยให้ความเป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงการเตรียมผลักดันให้พื้นที่ อ.แว้งเป็นอีกหนึ่งอำเภอ ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาเป็นพื้นที่ในการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อจาก อ.สุคิริน ด้วย
วันนี้ (29 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาจัดรายการ “ร่วมคิด ร่วมแก้ปัญหากับรัฐมนตรีถาวร” ณ ด่านศุลกากร บูเก๊ะตา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมรายการกว่า 1,000 คน
สำหรับประเด็นสำคัญของการจัดรายการในวันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวถึงการก่อสร้างด่านชายแดนบูเก๊ะตา ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูการค้าชายแดนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมกับบ้านบูกิตบูหงา รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยนายกรัฐมนตรีของไทยและมาเลเซีย ได้ทำพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา
ด่านแห่งนี้จะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ สามารถไปมาหาสู่และทำการค้าระหว่างกัน คาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาทต่อปีและในอนาคตจะส่งเสริมให้ด่านบูเก๊ะตามีศักยภาพในการพัฒนาเป็นศูนย์ลอจิสติกส์ รองรับการคมนาคมขนส่งระหว่างไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบได้
นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ปฏิบัติงานโดยให้ความเป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงการเตรียมผลักดันให้พื้นที่ อ.แว้งเป็นอีกหนึ่งอำเภอ ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาเป็นพื้นที่ในการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อจาก อ.สุคิริน ด้วย