xs
xsm
sm
md
lg

อุทยานหาดเจ้าไหมห่วงแก๊งล่าหอยหน้ายักษ์ หวั่นกระทบดันเป็นมรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง หวั่นปัญหากลุ่มนายทุนและชาวประมง ลักลอบจับหอยหน้ายักษ์ ส่งไปขายภัตตาคารในจังหวัดภูเก็ต จะกระทบต่อระบบสิ่งแวดล้อมในอนาคต ที่เตรียมเสนอเป็นแหล่งมรดกโลก

นายประพจน์ สัตถาภรณ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มนายทุนและชาวประมง จำนวน 17 คน ซึ่งลักลอบเข้ามาจับหอยหน้ายักษ์ หรือหอยสังข์ จำนวนมาก มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท ที่บริเวณท่าเรือหาดยาว หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง ขณะกำลังขนถ่ายจากเรือหางยาว แล้วลำเลียงต่อด้วยรถกระบะ เพื่อจะนำไปขายที่จังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(3) ฐานนำสัตว์ออกไป หรือกระทำการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ (13) หรือเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ หรือเพื่อหาประโยชน์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามเงื่อนไขซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตกำหนดไว้

ทั้งนี้ หอยหน้ายักษ์ หรือ หอยสังข์ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในท้องทะเลตรังเป็นอย่างมาก โดยจะอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง หรือตามแนวโขดหิน ในเขตอุทยานแห่งชาติ แต่วิธีการลักลอบเข้ามาจับหอยชนิดนี้ยังคงเป็นสิ่งที่น่าห่วงใยอย่างยิ่ง เนื่องจากจะใช้เครื่องอัดอากาศ ดำน้ำลงไปเก็บ ครั้งละ 10-20 คน เหมือนกับเดินอยู่ในพื้นดิน จนได้หอยครั้งละ 2-3 ตัน

จากการสืบสวนสอบสวนและขยายผลต่อมาพบว่า หากหอยถูกลำเลียงไปถึงตลาดรับซื้อ ในจังหวัดภูเก็ต ได้ ก็จะถูกส่งเข้ายังภัตตาคาร หรือร้านอาหารโดยทันที โดยเฉพาะเนื้อหอยชนิดนี้สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย และใช้ทดแทนหอยเป๋าฮื้อได้ ส่วนเปลือกหอยก็นำไปทำเป็นของที่ระลึก ซึ่งก็มีราคาซื้อขายในท้องตลาดสูงเช่นกัน

ที่สำคัญก็คือ ฝาหอยหน้ายักษ์ หรือ หอยสังข์ จะถูกส่งไปผลิตเป็นยาชูกำลังตามความเชื่อของผู้บริโภคบางส่วน จึงทำให้ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงขณะนี้ ทั้งๆ ที่เดิมทีไม่เคยมีผู้ใดให้ความสนใจนำไปบริโภคเลย เนื่องจากหอยชนิดนี้จะมีน้ำหนักมากถึงตัวละ 2 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาการลักลอบเข้ามาจับหอยชนิดนี้ แม้จะยังมีปริมาณไม่มากและยังไม่ส่งผลกระทบรุนแรง แต่หลังจากนี้ไปอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมก็จะเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และเดินหน้าปราบปรามร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มงวด เนื่องจากท้องทะเลอันดามัน รวมทั้งท้องทะเลตรัง กำลังถูกเสนอให้เป็นแหล่งมรดกโลก แต่หากปล่อยให้เกิดหากเสียหาย ก็จะส่งผลกระทบต่อการผลักดันได้




กำลังโหลดความคิดเห็น